วิทยาศาสตร์ วิทย์
- 2. ประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์
โดยทั่วไปเราถือกันว่า วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เริ่มต้นในยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ โดยมี "บิดาแห่ง วิทยาศาสตร์สมัยใหม่" คือกาลิเลโอ กาลิเลอี เป็นผู้ถอนรื้อและปรับปรุงแนวความคิดเกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์สมัยเก่า ที่ยึดกับแนวความคิดของอริสโตเติลทิ้งไป
ณ ขณะนั้น กาลิเลโอได้กาหนดลักษณะสาคัญของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ไว้ดังนี้
ทานายสิ่งที่เกิดขึ้นในปรากฏการณ์ธรรมชาติได้ โดยที่ไม่จาเป็นต้องอธิบายสาเหตุได้ เช่น ในขณะที่ยัง ไม่มีความรู้เรื่องแรงโน้มถ่วงนั้น กาลิเลโอไม่สนใจที่จะอธิบายว่า "ทาไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้นดิน ?“
แต่สนใจคาถามที่ว่า "เมื่อมันตกแล้ว มันจะถึงพื้นภายในเวลาเท่าใด ?"
ใช้คณิตศาสตร์เพื่อเป็นภาษาหลักของวิทยาศาสตร์ (ดูหัวข้อ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์)
ในเวลาต่อมา ไอแซค นิวตันได้ต่อเติมรากฐานและระบบระเบียบของแนวคิดเหล่านี้ และเป็นต้นแบบ สาหรับสาขาด้านอื่นๆ ของวิทยาศาสตร์ก่อนหน้านั้น,
- 3. โมเดล ทฤษฎีและกฎทางวิทยาศาสตร์ โมเดลอะตอมของบอห์ร เป็นหนึ่งในโมเดลทางวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมาก ได้ผ่านกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์เพื่อทดสอบความถูกต้องหลายต่อหลายครั้ง ดังจะเห็นได้จากการถูกเสนอขึ้นเป็นโมเดลที่ แท้จริงของอะตอมเนื่องจากอธิบายปรากฏการณ์เส้นสเปกตรัมของไฮโดรเจนได้ และในเวลาต่อมาก็ถูก คัดค้านเนื่องจากอธิบายปรากฏการณ์อื่นๆ อีกหลายอย่างไม่ได้ คาว่า "โมเดล", "สมมติฐาน", "ทฤษฎี", และ"กฎทางกายภาพ"มีความหมายในทางวิทยาศาสตร์ไม่ เหมือนกับที่ใช้กันทั่วไป นักวิทยาศาสตร์ใช้คาว่า โมเดล เพื่อหมายถึงคาอธิบายปรากฏการณ์บางอย่าง ที่ สามารถนาไปใช้สร้างคาทานายซึ่งตรวจสอบความถูกต้องได้ด้วย การทดลองหรือการสังเกต ในขณะ ที่ สมมติฐาน คือความเชื่อที่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนที่มากพอ และยังไม่ถูกพิสูจน์ว่าผิดพลาดด้วยการ ทดลอง ส่วน กฎทางกายภาพ หรือ กฎธรรมชาติ นั้น คือคาอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่มีนัยทั่วไป ที่ วางรากฐานอยู่บนผลของการสังเกตเชิงประจักษ์
- 6. เคมีวิเคราะห์ (Analytical chemistry)
ชีวเคมี (Biochemistry)
เคมีการคานวณ
(Computational chemistry)
เคมีไฟฟ้า(Electrochemistry) เคมีอนินทรีย์ (Inorganic chemistry)
วัสดุศาสตร์(Materials science)
เคมีอินทรีย์ (Organic chemistry)
เคมีฟิสิกส์(Physical chemistry) เคมีควอนตัม (Quantum chemistry)
สเปกโตรสโคปี(Spectroscopy) สเตอริโอเคมิสตรี(Stereochemistry)
เคมีความร้อน (Thermochemistry)
เคมี
- 7. ฟิสิกส์เชิงทฤษฎี(en: theoretical physics)
ฟิสิกส์เชิงคานวณ
สวนศาสตร์ (Acoustics)
ดาราศาสตร์ (Astronomy) ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ (Astrophysics)
ชีวฟิสิกส์ (Biophysics)
จักรวาลวิทยา (Cosmology)
อติสีตศาสตร์ (Cryogenics)
พลศาสตร์ (Dynamics)
พลศาสตร์ของไหล(Fluid dynamics)
กลศาสตร์(Mechanics) นิวเคลียร์ฟิสิกส์ (Nuclear physics)
ทัศนศาสตร์ (Optics)
พลาสมาฟิสิกส์
พอลิเมอร์ฟิสิกส์
Vehicle dynamics
ฟิสิกส์
- 9. กายวิภาคศาสตร์ (Anatomy)
ชีววิทยาดาราศาสตร์ (Astrobiology)
ชีวเคมี (Biochemistry)
ชีวสารสนเทศศาสตร์ (Bioinformatics)
ชีวฟิสิกส์ (Biophysics)
พฤกษศาสตร์ (Botany)
ชีววิทยาของเซลล์(Cell biology
วิทยาเซลล์ (Cytology)
นิเวศวิทยา (Ecology)
กีฏวิทยา (Entomology)
วิทยาการระบาด (Epidemiology)
พันธุศาสตร์ (Genetics) (Population genetics),
มิญชวิทยา (Histology)
วิทยาภูมิคุ้มกัน (Immunology
จุลชีววิทยา (Microbiology)
อณูชีววิทยา (Molecular Biology)
สัณฐานวิทยา(Morphology)
ประสาทวิทยาศาสตร์ (Neuroscience)
พัฒนาการของพื
วิวัฒนาการชาติพันธุ์
สรีรวิทยา (Physiology)
อนุกรมวิธาน (Taxonomy)
พิษวิทยา (Toxicology)
วิทยาไวรัส (Virology)
สัตววิทยา(Zoology)
ชีววิทยา