SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  11
ลัทธิประชาธิปไตย
หลัการการปฏิวัติประชาธิปไตยในประเทศไทย
ไม่มีประเทศใดในโลกที่จะมีระบอบประชาธิปไตยได้โดยไม่ทาการปฏิวัติประชาธิปไตย
เพราะว่าระบอบประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้ด้วยวิธีการเดียวเท่านั้นคือการปฏิวัติประชาธิปไตย
ไม่มีประเทศใดในโลกที่จะมีระบอบประชาธิปไตยได้โดยไม่ทาการปฏิวัติประชาธิปไตย
และคนไทยก็เคยทาการปฏิวัติประชาธิปไตยมาบ้างแล้วเหมือนกันแต่ไม่สาเร็จดังนั้น
ถ้าจะให้ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยก็จะต้องทาการปฏิวัติประชาธิปไตยให้สาเร็จเท่านั้น
ไม่มีทางอื่นใดอีกเลยจงอย่าได้คิดว่าประเทศไทยจะมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยได้
โดยไม่ต้องทาการปฏิวัติประชาธิปไตย
การปฏิวัติประชาธิปไตยคือการเปลี่ยนแลงระบอบเผด็จการเป็นระบอบประชาธิปไตย
หรือยกเลิกระบอบเผด็จการและสถาปนาระบอบประชาธิปไตยขึ้นแทน
หลายคนกล่าวว่าประเทศไทยเป็นระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้วจึงไม่ต้องปฏิวัติประชาธิปไตยบางคนกล่าวว่า
ประเทศไทยเป็นระบอบประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์
จึงเพียงแต่พัฒนาระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นไม่ต้องปฏิวัติประชาธิปไตย
จริงทีเดียวถ้าประเทศไทยเป็นระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้วไม่ว่าจะสมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ก็ตาม
ก็ไม่ต้องปฏิวัติประชาธิปไตยแต่ประเทศไทยเป็นระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้วจริงหรือ?
ระบอบประชาธิปไตยนั้นแสดงออกโดยการปกครองประชาธิปไตยหรือรัฐบาลประชาธิปไตย(Democratic
Government) และการปกครองประชาธิปไตยนั้นจะต้องเป็นไปตามหลักของการปกครองประชาธิปไตยดังต่อไปนี้
1. อานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน(PopularSovereignty) หมายความว่า
ประชาชนเป็นเป็นเจ้าของอานาจสูงสุดของประเทศร่วมกันมิใช่คนส่วนใดส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนน้อยผูกขาดอานาจไว้
ดังที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงคัดค้านคณะราษฎร์ว่า “
ข้าพเจ้าสมัครใจจะสละอานาจของข้าพเจ้าให้แก่ราษฎรทั้งหลาย
แต่ไม่ยินยอมยกอานาจของข้าพเจ้าให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือคณะหนึ่งคณะใด”
และหลักการอานาจอธิปไตยปวงชนนั้นแสดงออกด้วยนโยบายบริหารประเทศซึ่งรักษาผลประโยชน์ของประชาชน
มิใช่รักษาผลประโยชน์ของคนส่วนน้อย
2. เสรีภาพ(Freedom) หมายความว่าบุคคลมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการใช้สิทธิต่างๆทั้งในทางส่วนตัว
ในทางสังคมและในทางการเมืองเช่นในร่างกายในทรัพย์สินในการศึกษาในการนับถือศาสนาในการชุมนุม
ในการตั้งสมาคมในการตั้งพรรคการเมืองและในการเปลี่ยนรัฐบาลเป็นต้น
3. ความเสมอภาค(Equality) หมายความว่าบุคคลมีความเท่าเทียมกันในด้านต่างๆ
โดยเฉพาะถือความเท่าเทียมกันทั้งในทางกฎหมายและในทางโอกาส
4. หลักกฎหมาย(Rule of Law) คือหลักนิติธรรมซึ่งใช้เป็นเป็นมาตรฐานของการออกกฎหมายเช่น
หลักที่ว่าผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทาผิดให้สันนิษฐานก่อนว่าเป็นผู้สุจริต ศาลเท่านั้นเป็นผู้พิพากษาตัดสินกฎหมายฯลฯ
กฎหมายใดซึ่งขัดกับหลักกฎหมายย่อมเป็นโมฆะ
5. รัฐบาลจากการเลือกตั้ง(ElectedGovernment) หมายความว่าฝ่ ายนิติบัญญัติ
และฝ่ าบริหารต้องมาจากการเลือกตั้งทั่วไป
เหล่านี้คือหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยการปกครองซึ่งเป็นไปตามหลักการเหล่านี้
ก็เป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตยและหลักการที่เป็นหัวใจคืออานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
ถ้ามีหลักการข้อนี้แล้วถึงจะยังขาดข้ออื่นๆอยู่บ้างก็เป็นระบอบประชาธิปไตยแต่ถ้าไม่มีข้อนี้ถึงจะมีข้ออื่นๆ
ก็เป็นระบอบเผด็จการเช่นประเทศไทยในปัจจุบันเป็นระบอเผด็จการที่มีเสรีภาพพอสมควรที่เรียกว่าประชาธิปไตยครึ่งใบ
เพราะว่าถึงจะมีเสรีภาพมีความเสมอภาคมีหลักกฎหมายอยู่บ้าง
และมีการเลือกตั้งแต่อานาจอธิปไตยมิได้เป็นของปวงชนฉะนั้นการปกครองของประเทศไทย
จึงไม่เป็นระบอบประชาธิปไตยแต่เป็นระบอบเผด็จการ
อานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
อานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนเป็นหลักการปกครองหลักที่1ของระบอบประชาธิปไตย
และเป็นหัวใจของระบอบประชาธิปไตยแต่ในประเทศไทย
มีการอธิบายกันอย่างกว้างขวางว่าหัวใจของระบอบประชาธิปไตยคือเสรีภาพของประชาชน
ซึ่งเป็นการชักจูงประชาชนให้เข้าใจผิดต่อระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรงจนไม่รู้ว่าระบอบประชาธิปไตยคืออะไร
การปกครองทั้งหลายย่อมมีอานาจการปกครองบ้านย่อมมีอานาจของบ้าน
การปกครองของวัดย่อมมีอานาจของวัดการปกครองย่อมมีอานาจของโรงเรียนไปจนถึงการปกครองประเทศ
ย่อมมีอานาจของประเทศ
ในบรรดาอานาจทั้งหลายเหล่านั้นอานาจของประเทศเป็นอานาจสูงสุดคือสูงถึงขนาดฆ่าคนได้
และสิทธิ์ขาดโต้แย้งมิได้ จึงนิยมเรียกกันว่าอานาจสูงสุดของประเทศดังที่ใช้ในรัฐธรรมนูญฉบับแรก
และต่อมาเรียกให้เป็นศัพท์ว่าอานาจอธิปไตยซึ่งใช้ในรัฐธรรมนูญฉบับต่อๆมา จนถึงปัจจุบัน
อานาจของประเทศหรืออานาจอธิปไตยนั้นมีอานาจเดียวแต่แสดงออกเป็น3 ด้านคือ(1) อานาจนิติบัญญัติ
(2) อานาจบริหาร(3) อานาจตุลการ
อานาจในการปกครองย่อมมีเจ้าของและเจ้าของอานาจก็คือผู้ปกครองนัยหนึ่งอานาจย่อมเป็นของผู้ปกครอง
อานาจของบ้านเป็นของเจ้าบ้านอานาจของวัดเป็นของสมภารอานาจของโรงเรียนเป็นของครูใหญ่
จนถึงอานาจของประเทศหรืออานาจอธิปไตยเป็นของผู้ปกครองประเทศ
ผู้ปกครองประเทศนั้นกล่าวอย่างกว้างมี2ชนิด คือ ชนส่วนน้อยและปวงชน(ประชาชน)
ถ้าชนส่วนน้อยเป็นผู้ปกครองประเทศอานาจของประเทศหรืออานาจอธิปไตยก็เป็นของชนส่วนน้อย
ถ้าปวงชนเป็นผู้ปกครองประเทศอานาจของประเทศหรืออานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
ถ้าอานาจของประเทศหรืออานาจอธิปไตยเป็นของชนส่วนน้อยก็เป็นระบอบเผด็จการ
ถ้าอานาจของประเทศหรืออานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนก็เป็นระบอบประชาธิปไตยและแต่ละระบอบต่างก็มีหลายรูป
โดยสาระสาคัญแล้วระบอบเผด็จการหรือระบอบประชาธิปไตยนั้นได้ได้หมายความอย่างอื่นแต่หมายความว่า
อานาจหรืออานาจอธิปไตยเป็นของชนส่วนน้อยหรือเป็นของปวงชนเท่านั้น
แต่ชนส่วนน้อยหรือปวงชนซึ่งเป็นเจ้าของอานาจของประเทศหรืออานาจประชาธิปไตยนั้น
ไม่ได้เป็นผู้กุมอานาจโดยตรงแต่มีผู้แทนเป็นผู้กุมอานาจและผู้แทนก็คือคณะการเมืองกลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมือง
ซึ่งเข้าไปกุมองค์กรแห่งอานาจของประเทศหรืออานาจอธิปไตยอันได้แก่ รัฐสภาคณะรัฐมนตรีและศาลเพื่อใช้องค์กรทั้ง
3 นี้รักษาผลประโยชน์ของผู้ที่ตนแทนถ้าแทนชนส่วนน้อยก็ใช้องค์กรเหล่านี้รักษาผลประโยชน์ของชนส่วนน้อย
ถ้าแทนปวงชนก็ใช้องค์กรเหล่านี้รักษาผลประโยชน์ของปวงชน
ทั้งนี้จะรู้ได้ด้วยนโยบายของรัฐบาลเป็นสาคัญถ้านโยบายของรัฐบาลรักษาผลประโยชน์ของชนส่วนน้อย
ก็แสดงว่าอานาจของประเทศหรืออานาจอธิปไตยเป็นของชนส่วนน้อย
ถ้านโยบายของรัฐบาลรักษาผลประโยชน์ของปวงชนก็แสดงว่าอานาจของประเทศหรืออานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
ในปัจจุบันอานาจของประเทศหรืออานาจอธิปไตยเป็นของกลุ่มผลประโยชน์ผูกขาดซึ่งเป็นชนส่วนน้อยฉะนั้น
ไม่ว่านโยบายใดๆล้วนแต่มุ่งรักษาผลประโยชน์ของชนส่วนน้อยโดยไม่คานึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน
ฉะนั้นจึงต้องเปลี่ยนมืออานาจของประเทศหรืออานาจอธิปไตยจากของกลุ่มผลประโยชน์ผูกขาด
มาเป็นของปวงชนเพื่อให้มีรัฐบาลที่ดาเนินนโยบายรักษาผลประโยชน์ของประชาชน
การเปลี่ยนมืออานาจของประเทศหรืออานาจอธิปไตยเช่นนี้
คือหัวใจของการเปลี่ยนระบอบเผด็จการเป็นระบอบประชาธิปไตยคือหัวใจของการปฏิวัติประชาธิปไตย
บุคคลมีเสรีภาพสมบูรณ์
บุคคลมีเสรีภาพสมบูรณ์ เป็นหลักการปกครองหลักที่2 ของระบอประชาธิปไตย
เป็นเป็นหลักคู่กับอานาจอธิปไตยของปวงชนซึ่งเป็นหลักการปกครองที่ 1 ของระบอบประชาธิปไตย
เสรีภาพคือสิทธิคือสิทธิในการคิดและในการกระทาที่ปราศจากกาพันธนาการไม่ว่าจะเป็นสิทธิทางส่วนตัว
หรือทางการเมืองสิทธิทางส่วนตัวเช่นสิทธิในชีวิตสิทธิในทรัพย์สินสิทธิในการแสวงหาความสุขฯลฯสิทธิทางการเมือง
เช่นสิทธิในการเลือกลัทธิทางการเมืองสิทธิในการเลือกตั้งสิทธิในการเปลี่ยนรัฐบาลฯลฯ
การที่บุคคลใช้สิทธิโดยปราศจากพันธนาการคือการที่บุคคลมีเสรีภาพ
บุคคลย่อมมีเสรีภาพไม่ว่าภายใต้ระบอบใดๆ
เพราะบุคคลไม่สามารถดารงอยู่ได้โดยปราศจากเสรีภาพอย่างสิ้นเชิง
ต่างแต่ว่าเสรีภาพในกระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าในรูปใดๆเป็นเสรีภาพบริบูรณ์ เสรีภาพในระบอบเผด็จการไม่ว่ารูปใดๆ
เป็นเสรีภาพไม่บริบูรณ์ เช่นในประเทศสวีเดนเป็นเสรีภาพบริบูรณ์ในประเทศไทยเป็นเสรีภาพไม่บริบูรณ์ เพราะ
สวีเดนเป็นระบอบประชาธิปไตยไทยเป็นระบอบเผด็จการ
เสรีภาพบริบูรณ์นั้นไม่ใช่บริบูรณ์อย่างไม่มีขอบเขตแต่บริบูรณ์ภายในขอบเขต
ถ้าเลยขอบเขตก็กลายเป็นไม่มีเสรีภาพเช่นผู้ขับรถยนต์มีเสรีภาพสมบูรณ์ในการขับรถยนต์ตามถนนแลพะตามกฎจราจร
ถ้าขับรถยนต์ออกนอกถนนหรือไม่ถือกฎจราจรก็ไม่มีเสรีภาพในการขับรถยนต์
เสรีภาพบริบูรณ์ภายในขอบเขตคือหลักธรรมชาติของเสรีภาพและขอบเขตของเสรีภาพบริบูรณ์คือ
การไม่ล่วงล้าเสรีภาพของบุคคลอื่นและไม่เป็นปรปักษ์ต่อส่วนรวมฉะนั้นคติที่ถือว่าเสรีภาพบริบูรณ์
คือเสรีภาพไม่มีขอบเขตจึงเป็นคติที่ผิดธรรมชาติจึงไม่ใช่คติของลัทธิประชาธิปไตยแต่เป็นคติของลัทธิอนาธิปไตย
การปฏิบัติตามคติของลัทธิอนาธิปไตยคือการทาลายเสรีภาพนั่นเอง
ในบรรดาเสรีภาพทั้งปวงนั้นเสรีภาพทางความคิดเป็นรากฐานคนเราถ้าไม่มีเสรีภาพทางความคิด
ก็เท่ากับไม่มีเสรีภาพและเท่ากับหมาดความเป็นคนฉะนั้นระบอบประชาธิปไตยซึ่งยึดถือหลักธรรมชาติของเสรีภาพ
จึงทาให้เสรีภาพบริบูรณ์แก่บุคคลในการนับถือศาสนาและเชื่อถือลัทธิการเมือง
ในขอบเขตที่ไม่กระทาการอันขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม
ในระบอบประชาธิปไตยการที่บุคคลได้แสดงความคิดเห็นอย่างเสรีย่อมทาให้ได้มาซึ่งแนวความคิดที่ดีที่สุด
อันจะส่งผลให้ได้มาซึ่งนโยบายที่ดีและนาความผาสุกมาสู่คนส่วนรวม
และการให้บุคคลมีเสรีภาพทาให้บุคคลเกิดความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
ฉะนั้นในระบอบประชาธิปไตยซึ่งบุคคลมีเสรีภาพบริบูรณ์
ประชาชนจึงมีจิตสานึกในการรักษาระเบียบวินัยด้วยความสมัครใจ
อานาจอธิปไตยเป็นหลักคู่กับเสรีภาพในฐานะที่เสรีภาพขึ้นต่ออานาจอธิปไตย
เพราะผู้ปกครองย่อมให้เสรีภาพย่างเต็มที่แก่ตนเองเสมอไปดังนั้น
ในระบอบเผด็จการซึ่งอานาจอธิปไตยเป็นของคนส่วนน้อยชนส่วนน้อยจึงมีเสรีภาพอย่างเต็มที่
และในระบอบประชาธิปไตยซึ่งอานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนบุคคลทั่วไปจึงมีเสรีภาบริบูรณ์
ในประเทศปัจจุบัน อานาจอธิปไตยเป็นของกลุ่มผลประโยชน์ผูกขาดซึ่งเป็นชนส่วนน้อย
เสรีภาพอย่างเต็มที่จึงมีแก่เฉพาะบุคคลในกลุ่มผลประโยชน์ผูกขาดเท่านั้นบุคคลทั่วไปขาดเสรีภาพอย่างมากมายดังนั้น
จึงต้องทาการปฏิวัติประชาธิปไตยเปลี่ยนอานาจอธิปไตยจากคนส่วนน้อยมาเป็นของปวงชน
เพื่อเสรีภาพบริบูรณ์จะได้มีแก่บุคคลทั่วไปอย่างเสมอ
ความเสมอภาค
ความเสมอภาค
เป็นหลักการปกครองอีกหลักหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยต่อจากอานาจอธิปไตเป็นของปวงชนและบคคุลมีเสรีภาพบริบู
รณ์
ความเสมอภาคคือว่าเท่าเทียมกันของคนทุกคนลัทธิประชาธิปไตยยึดหลักธรรมชาติของมนุษย์ว่า
มนุษย์ทุกคนเมื่อเกิดมาแล้วย่อมมีความทียมกันในความเป็นมนุษย์แต่มนุษย์แต่ละคนเมื่อเกิดมาแล้วไม่เหมือนกัน
บางคนแข็งแรงบางคนอ่อนแอ บางคนฉลาดมาก บางคนฉลาดน้อยบางคนมีความสามารถมาก
บางคนมีความสามารถน้อยบางคนมีความทะเยอทะยานมากบางคนมีความทะเยอทะยานน้อยดังนั้น
การที่จะกาหนดให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกันในทุกสิ่งทุกอย่างจึงหขัดกับหลักธรรมชาติของมนุษย์และดังนั้น
เพื่อนุวัติตามธรรมชาติของมนุษย์
ระบอบประชาธิปไตยจึงกาหนดว่าเมื่อประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของอานาจสูงสุดของประเทศหรืออานาจอธิปไตยแล้ว
ประชาชนทุกคนจึงมีความเสมอภาคหรือความเท่าเทียมกันในการแสดงออกซึ่งความเป็นเจ้าของอานาจอธิปไตยนั้น
ความหมายโดยสาระสาคัญของความเสมอภาคในระบอบประชาธิปไตยคือคนทุกคนมีความเท่าเทียมกันในการแสดงออก
ซึ่งความเป็นเจ้าของอานาจอธิปไตยแบ่งออกเป็น 3 ประการคือ
1. ความเสมอภาคในกฎหมาย(Equalitybefore the law) หมายความว่าคนทุกคนไม่ว่ากาเนิดใดศาสนาใด
มีฐานะทางเศรษฐกิจทางการเมืองทางสังคมสูงหรือต่าอย่างใดย่อมอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
อยู่ภายใต้ระบบศาลเดียวกันได้รับการปฏิบัติอย่างเดียวกันและได้รับความคุ้มครองจากองค์กรกฎหมายเท่าเทียมกัน
ความแตกต่างในกรณีใดๆระหว่างบุคคลไม่ก่อให้เกิดเอกสิทธิ์อย่างใด
2. ความเสมอภาคในการออกเสียง(Equalityinvote) หมายความว่า
บุคคลแต่ละคนมีสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนในการเลือกตั้งหรือในการแสดงประชามติใดๆได้เพียงคะแนนเดียว
(One man, One vote) และหมายความว่าคะแนนเสียงของแต่ละคนจะต้องมีน้าหนัก
หรือคุณค่าในการตัดสินผลการเลือกตั้งหรือการแสดงประชามติเท่าเทียมกันตัวอย่างเช่น
การแบ่งเขตเลือกตั้งที่ถือเอาเนื้อที่ของเขตเป็นเกณฑ์ไม่ถือเอาจานวนประชากรเป็นเกณฑ์
ทาให้เขตการเลือกตั้งซึ่งอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน
เยเปรียบเขตเลือกตั้งในชนบทที่มีประชากรเพียง50,000 คน
และคะแนนเสียงของคนในเมืองใหญ่มีผลในการตัดสินการเลือกน้อยกว่าคะแนนเสียงของคนในชนบทถึง 10เท่า
เหตุนี้ศาลจึงตัดสินว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งเช่นนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญเป็นต้น
3. ความเสมอภาคในโอกาส(EqualityinOpportunity) หมายความว่า
คนทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันในการใช้พลังสมองและความสามารถเพื่อเสริมสร้างและยกฐานะทางการเมือง
ทางเศรษฐกิจและทางสังคมของตนเช่นให้โอกาสเท่าเทียมกันแก่ทุกคนที่จะได้รับการศึกษาที่จะได้รับการประกันสังคม
ที่จะได้ประกอบกิจกรรมในด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมที่จะได้มีงานทาและได้รับการคุ้มครองแรงงาน
และจะต้องขจัดระบบผูกขาดซึ่งเป็นการทาลายความเสมอภาคในโอกาสของบุคคลเป็นต้น
ในปัจจุบัน ประชาชนประชาชนชาวไทยไม่มีความเสมอภาคกัน
ทั้งในฐานะเป็นคนไทยและในฐานะเป็นมนุษย์เพราะลักษณะการปกครองของไทยและเป็นระบอบเผด็จการ
จึงจาเป็นจะต้องทาการปฏิวัติประชาธิปไตยให้สาเร็จโดยเร็วเพื่อเปลี่ยนระบอบเผด็จการเป็นระบอบประชาธิปไตย
เมื่อสถาปนาระบอบประชาธิปไตยขึ้นแล้วประชาชนชาวไทยก็จะมีความเสมอภาคกันในความเป็นเจ้าของอานาจอธิปไตย
ซึ่งจะยังผลให้มีความเสมอภาคกันในกฎหมายในการออกเสียงในโอกาสสมกับที่เป็นคนไทยและเป็นมนุษย์
หลักกฎหมาย
ปวงชน บุคคลมีเสรีภาพบริบูรณ์ และความเสมอภาค
มีผู้เข้าใจผิดว่าการปฏิบัติตามกฎหมายคือเครื่องหมายของระบอบประชาธิปไตย
และการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเป็นการทาลายระบอบประชาธิปไตย
ความจริงไม่ว่าในระบอบประชาธิปไตยหรือระบอบเผด็จการล้วนแต่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ไม่มีระบอบใด ๆจะอนุญาตให้ละเมิดกฎหมายการปฏิบัติตามกฎหมายเป็นเรื่องของทุกๆระบอบ
หาใช่เป็นเรื่องของระบอบประชาธิปไตยแต่เพียงระบอบเดียวไม่ฉะนั้น
การปฏิบัติตามกฎหมายจึงหาใช่เครื่องวัดความเป็นระบอบประชาธิปไตยแต่อย่างใดไม่
กฎหมายย่อมแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้เสมอตามวิถีทางนิติบัญญัติที่ได้กาหนดไว้ในระบอบนั้นๆ
กฎหมายฉบับใดถ้ารัฐบาลไม่ต้องการจะปฏิบัติตามก็ยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายฉบับนั้นเสียเช่น
รัฐบาลต้องการจะต่ออายุผบ.ทบ.ครั้งที่แล้วแต่กฎหมายห้ามไว้ ก็แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายนั้นเสีย
การกระทาเช่นนี้หาใช่เป็นเครื่องวัดของความเป็นระบอบประชาธิปไตยหรือของความเป็นระบอบเผด็จการแต่อย่างใดไม่
หรือกฎหมายฉบับใดไม่เป็นธรรมแก่ประชาชนและมีการแสดงประชามติคัดค้านกฎหมายฉบับนั้น
หรือเรียกร้องให้ยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายฉบับนั้นก็เป็นการปฏิบัติตามวิถีทางประชาธิปไตยอย่างหนึ่งหาใช่เป็น
“ กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย” แต่อย่างใดไม่
การโฆษณาว่าการปฏิบัติตามกฎหมายคือเครื่องหมายของระบอบประชาธิปไตย
และว่าการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคือการทาลายระบอบประชาธิปไตยและเห็นการแสดงประชามติเป็น “
กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย” ไปนั้น คือความพยายามของระบอบเผด็จการที่จะให้ประชาชนยินยอมอยุ่ใต้ความกดขี่ตลอดไป
การปฏิบัติตามกฎหมายไม่ใช่เครื่องหมายไม่ใช่เครื่องหมายของความเป็นระบอบประชาธิปไตย
เพราะระบอบเผด็จการก็ใช้กฎหมายเช่นกันและระบอบเผด็จการมักจะเน้นหนักให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่กดขี่ประชาชน
เครื่องหมายของความเป็นรบอบประชาธิปไตยคือการปฏิบัติตามหลักกฎหมายจะต้องไม่เอากฎหมาย(Law)
ไปปะปนกับหลักกฎหมาย(Rule of Law)
หลักกฎหมายคือหลักนิติธรรมที่ได้รับรองแล้วว่าถูกต้อง
เป็นกลักที่ผุ้ออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ของประชาชนต้องยึดถือปฏิบัติตามแม้ว่าองค์กรนิติบัญญัติเช่น
สภาผู้แทนราษฎรจะมีอานาจออกกฎหมายมาจากัดเสรีภาพของบุคคลได้ก็ตาม
แต่กฎหมายนั้นต้องสอดคล้องกับหลักกฎหมายสภาผู้แทนราษฎรจะออกกฎหมายขัดต่อหลักกฎหมายมิได้
ในประเทศที่ไม่มีรัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษรเช่นอังกฤษศาลมีอานาจพิจารณาว่า
กฎหมายใดขัดกับหลักกฎหมายและเป็นโมฆะในประเทศที่มีรัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษรเช่นสหรัฐ
มีการบัญญัติหลักกฎหมายไว้ในรัฐธรรมนูญหลักกฎหมายที่สาคัญๆเช่น
(1) ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทาความผิด
ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้สุจริตบุคคลจะถูกล่าวหาว่ากระทาความผิดได้ก็ต่อเมื่อการกระทานั้นมีบัญญัติไว้ในกฎหมาย
แห่งชาติว่าเป็นความผิด
(2) กฎหมายจะมีผลย้อนหลังไปลงโทษบุคคลมิได้
(3) ศาลเท่านั้นเป็นผู้มีอานาจพิจารณาว่าการกระทาใดเป็นการละเมิดกฎหมายและเป็นความผิดต้องได้รับโทษฯลฯ
ระบอบใดสามารถออกกฎหมายละเมิดหลักกฎหมายได้ สิทธิเสรีภาพของประชาชนก็จะถูกทาลายนั่นคือ
เครื่องหมายอย่างหนึ่งของระบอบเผด็จการระบอบประชาธิปไตยย่อมยึดถือหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด
องค์กรนิติบัญญัติของระบอบประชาธิปไตยจะออกกฎหมายโดยละเมิดหลักฎหมายมิได้
การปกครองจากการเลือกต้อง
การปกครองจากการเลือกตั้ง(ElectionGovernment)
เป็นหลักการปกครองหลักสุดท้ายของระบอบประชาธิปไตย
มีนักวิชาการบางคนเรียกการปกครองจากการเลือกตั้งว่าการปกครองทางผู้แทน
โดยถือว่าการปกครองทางผู้แทนเป็นวิธีการปกครองของประบอบประชาธิปไตยในปัจจุบัน
เพราะไม่สามารถจะใช้การปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยตรงได้
แต่ประชาชนจะต้องเลือกผู้แทนขึ้นมาทาการปกครองแทนตน
นักวิชาการเหล่านั้นเอาประชาธิปไตยทางผู้แทน(Representative Democracy)
กล่าวคือประชาธิปไตยทางตรงหมายความถึงระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนเข้าไปทาหน้าที่ออกกฎหมาย
หรือระเบียบข้อบังคับของรัฐด้วยตนเองดังเช่นที่ปรากฏในบางรัฐของสวิสเซอร์แลนด์ในปัจจุบัน
และในนครรัฐสมัยกรีกโรมันส่วนประชาธิปไตยทางผู้แทน
หมายความถึงระบอบประชาธิปไตยที่เลือกผู้แทนโดยการเลือกตั้งทั่วไปให้เข้าไปใช้อานาจอธิปไตยคืออกกฎหมายบริหาร
และตัดสินคดีดังที่ใช้อยู่ในประเทศประชาธิปไตยทั้งหลายในปัจจุบันเช่นอังกฤษ อเมริกาอินเดีย ฯลฯ
แต่การปกครองทางผู้แทนนั้นเป็นอีกเรื่อหงนึ่ง
เพราะในยุคปัจจุบันไม่ว่าระบอบประชาธิปไตยหรือระบอบเผด็จการต้องใช้การปกครองทางผู้แทน(Representative
Government) ด้วยกันทั้งนั้นเราะไม่ว่าอานาจอธิปไตยจะเป็นของคนส่วนน้อย(ระบอบเผด็จการ)
หรืออานาจอธิปไตยจะเป็นของปวงชน(ระบอบประชาธิปไตย)ก็ตาม
คนส่วนน้อยและปวงชนต่างก็ไม่สามารถจะเข้าไปใช้อานาจอธิปไตยโดยตรงได้
เพราะคนส่วนน้อยผู้เป็นเจ้าของอานาจอธิปไตยนั้นก็มจานวนเป็นพันเป็นหมื่นหรือเป็นแสนเป็นล้านจึงไม่สามารถเข้าไปใช้
อานาจอธิปไตยโดยตรงแต่ต้องมีคณะปกครองเป็นผู้ใช้อานาจอธิปไตยแทนตน
ซึ่งโดยทั่วไปก็ได้แก่รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี ยิ่งปวงชนด้วยแล้วยิ่งมีจานวนเป็นล้านๆสิบ ๆล้านหรือร้อย ๆล้าน
จึงยิ่งไม่สามารถเข้าไปใช้อานาจอธิปไตยโดยตรงจึงต้องมีคณะปกครองซึ่งได้แก่ รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
เป็นผู้ใช้อานาจอธิปไตยแทนตนเช่นเดียวกัน
เช่นการปกครองของกลุ่มผลประโยชน์ชั้นสูงของเยอรมันเมื่อก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
ซึ่งส่วนสาคัญได้แก่เจ้าที่ดินใหญ่ นายทุนใหญ่ และนายธนาคารใหญ่ ไม่สามารถใช้อานาจอธิปไตยโดยตรง
จึงมอบหมายให้รัฐบาลนาซีเป็นผู้ใช้อานาจแทน
การปกครองของนาซีก็คือการปกครองทางผู้แทนในระบอบเผด็จการฟาสซิสต์
ซึ่งรัฐบาลนานซีเป็นผู้แทนของกลุ่มผลประโยชน์ผูกขาดสูงสุดของเยอรมันทั้งนี้ก็เช่นเดียวกับรัฐบาลอังกฤษ
รัฐบาลฝรั่งเศสรัฐบาลสวีเดนฯลฯซึ่งใช้อานาจอธิปไตยแทนปวงชนจึงเป็นรัฐบาลที่เป็นผู้แทนปวงชน
เป็นการปกครองทางผู้แทนของระบอบประชาธิปไตย
และการปกครองทางผู้แทนหรือรัฐบาลทางผู้แทนนั้นไม่หมายความว่าการเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง
แต่หมายความว่าใช้อานาจอธิปไตยรักษาผลประโยชน์ของใครถึงจะเลือกตั้งแต่ถ้ารักษาผลประโยชน์ของกลุ่มผูกขาดก็เป็น
ผู้แทนของกลุ่มผูกขาดไม่ได้เป็นผู้แทนของปวงชนจึงเป็นการปกครองระบอบเผด็จการ
แต่ถึงจะไม่เลือกตั้งแต่รักษาผลประโยชน์ของปวงชนก็เป็นผู้แทนของปวงจนจึงเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตย
เมื่อประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยจากการปฏิวัติ 24มิถุนายน2475 นั้น
ไม่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรครั้งนั้นเป็นสภาแต่งตั้ง
และคณะรัฐมนตรีครั้งนั้นประกอบด้วยรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
แต่รัฐบาลครั้งนั้นเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยหรือการปกครองระบอบประชาธิปไตย(DemocraticGovernment)
เพราะว่ารัฐบาลครั้งนั้นเป็นผู้แทนปวงชนเป็นผู้ใช้อานาจอธิปไตยแทนปวงชนชาวไทย
หลังจากนั้นไม่นาน
ระบอบประชาธิปไตยก็เปลี่ยนเป็นระบอบเผด็จการและเป็นระบอบเผด็จการมาจนถึงปัจจุบันทั้ง ๆที่มีการเลือกตั้งและทั้ง
ๆที่มีรัฐบาลทางผู้แทนแต่เป็นผู้แทนของคนส่วนน้อยเป็นผู้แทนของกลุ่มผลประโยชน์ผูกขาดไม่ใช่ผู้แทนปวงชน
จึงเห็นได้ว่าประชาธิปไตยทางผู้แทน(Representative Democracy) เท่านั้น
เป็นคู่กับประชาธิปไตยทางตรง(DirectDemocracy) การปกครองทางผู้แทนหรือรัฐบาลทางผู้แทน(Representative
Government) ไม่ได้เป็นคู่กับประชาธิปไตยทางตรง
และการปกครองทางผู้แทนหรือรัฐบาลทางผู้แทนก็ไม่ใช่สิ่งเดียวกับการปกครองจากการเลือกตั้งหรือรัฐบาลจากการเลือกตั้
ง (ElectionGovernment) ตามที่นักวิชาการมักจะเอาไปปะปนกัน
ระบอบประชาธิปไตยถือเอาการปกครองจากการเลือกตั้งเป็นกลักการปกครองหลักหนึ่ง
แต่จัดเป็นหลักสุดท้ายเพราะการปกครองจากการเลือกตั้งนั้นเป็นของกลางซึ่งระบอบใดๆจะนาไปใช้ก็ได้
และระบอบประชาธิปไตยนั้นในบางกรณีก็ไม่มีการเลือกตั้ง
โดยเฉพาะในระยะเริ่มแรกขชองระบอบประชาธิปไตยไม่สามรถจะมีการเลือกตั้ง
ดังเช่นระยะแรกของระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยภายหลังการปฏิวัติ24 มิถุนายน2475 ไม่มีการเลือกตั้ง
ต่อเมื่อเข้ารูปเข้ารอยแล้วจึงมีการเลือกตั้ง
นอกจากนั้นยังมีการปะปนหลักอานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนกับหลักการปกครองจากการเลือกตั้ง
โดยเถือว่าเมื่อมีการเลือกตั้งส.ส.เข้าสภาและสภาเป็นผู้ตั้งคณะรัฐมนตรีและควบคุมคณะรัฐมนตรี
ก็คือสภาและคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ใช้อานาจอธิปไตยแทนปวงชนแล้วจึงเปลี่ยนคาว่า “อานาจอธิปไตยเป็นของ ปวงชน ”
เป็น “ อานาจอธิปไตยมาจากปวงชน ” ดังที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญเกือบทุกฉบับของประเทศเรา
ซึ่งเป็นการทาลายหลักอันเป็นหัวใจของระบอบประชาธิปไตย
ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีการปกครองจากการเลือกตั้งแต่อานาจอธิปไตยไม่ได้เป็นของปวงชน
แต่เป็นของกลุ่มผลประโยชน์ผูกขาดฉะนั้น
จึงต้องเปลี่ยนอานาจอธิปไตยของกลุ่มผลประโยชน์ผูกขาดมาเป็นอานาจอธิปไตยของปวงชนเสียก่อน
การปกครองมากจากการเลือกตั้งจึงเป็นหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยได้
หลักการปกครองของระบอบประชาธิปไตยมี5 ประการคือ 1. อานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน 2
เสรีภาพบริบูรณ์ของบุคคล3.ความเสมอภาค4. หลักกฎหมาย5. การปกครองจากการเลือกตั้ง
แต่หลักที่เป็นหัวใจของระบอบประชาธิปไตยคืออานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนแม้ว่าจะมีหลักอื่นๆ
แต่ไม่มีหลักอานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนก็ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย
ฉะนั้นจะดูว่าระบอบใดเป็นระบอบประชาธิปไตยหรือไม่
ก่อนอื่นก็ต้องดูที่ว่าอานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนหรือเป็นของคนส่วนน้อย.
(เอกสารศึกษาภายในขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ)
Edit: Thongk2014@gmail.com

Contenu connexe

Plus de Thongkum Virut

บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทย
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทยบิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทย
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทยThongkum Virut
 
การปกครองของไทยในสมัยโบราณ
การปกครองของไทยในสมัยโบราณการปกครองของไทยในสมัยโบราณ
การปกครองของไทยในสมัยโบราณThongkum Virut
 
หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...
หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน   อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน   อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...
หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...Thongkum Virut
 
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓Thongkum Virut
 
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...Thongkum Virut
 
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริหนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริThongkum Virut
 
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่Thongkum Virut
 
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทรประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทรThongkum Virut
 
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์Thongkum Virut
 
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการสหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการThongkum Virut
 
ประวัติรัฐหวู
ประวัติรัฐหวูประวัติรัฐหวู
ประวัติรัฐหวูThongkum Virut
 
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกเหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกThongkum Virut
 
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...Thongkum Virut
 
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตยเรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตยThongkum Virut
 
คู่ขัดแย้งในสังคมไทย
คู่ขัดแย้งในสังคมไทยคู่ขัดแย้งในสังคมไทย
คู่ขัดแย้งในสังคมไทยThongkum Virut
 
ระบอบเผด็จการรัฐสภา
ระบอบเผด็จการรัฐสภาระบอบเผด็จการรัฐสภา
ระบอบเผด็จการรัฐสภาThongkum Virut
 
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทยปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทยThongkum Virut
 
ลัทธิประชาธิปไตย
ลัทธิประชาธิปไตยลัทธิประชาธิปไตย
ลัทธิประชาธิปไตยThongkum Virut
 

Plus de Thongkum Virut (20)

All10
All10All10
All10
 
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทย
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทยบิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทย
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทย
 
ข้าว
ข้าวข้าว
ข้าว
 
การปกครองของไทยในสมัยโบราณ
การปกครองของไทยในสมัยโบราณการปกครองของไทยในสมัยโบราณ
การปกครองของไทยในสมัยโบราณ
 
หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...
หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน   อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน   อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...
หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...
 
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
 
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
 
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริหนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
 
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
 
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทรประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
 
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
 
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการสหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
 
ประวัติรัฐหวู
ประวัติรัฐหวูประวัติรัฐหวู
ประวัติรัฐหวู
 
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกเหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
 
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
 
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตยเรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
 
คู่ขัดแย้งในสังคมไทย
คู่ขัดแย้งในสังคมไทยคู่ขัดแย้งในสังคมไทย
คู่ขัดแย้งในสังคมไทย
 
ระบอบเผด็จการรัฐสภา
ระบอบเผด็จการรัฐสภาระบอบเผด็จการรัฐสภา
ระบอบเผด็จการรัฐสภา
 
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทยปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
 
ลัทธิประชาธิปไตย
ลัทธิประชาธิปไตยลัทธิประชาธิปไตย
ลัทธิประชาธิปไตย
 

การปฏิวัติประชาธิปไตย(Democratic Revolution)