SlideShare a Scribd company logo
1 of 25
บทที่ 2 
นิติกรรม
ลักษณะทั่ว 
ไปของนิติกรรม 
1 2 
ม.149 การใดๆ อนักระทา ลงโดยชอบดว้ยกฎหมาย 
3 4 
และดว้ยใจสมัคร มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสมัพนัธ์ขึ้นระหว่างบุคคล 
5 
เพื่อ 
จะ ก่อ /เปลี่ย 
นแปลง /โอน /สงวน/ หรือ ระงับ/ซึ่ง 
สิทธิ
ผลของกฎหมาย 
โมฆะ คือ สิ้นสภาพตั้งแต่เริ่มตน้ 
โมฆียะ คือ สมบรูณ์เมื่อใหสั้ตยาบัน ตกเป็นโมฆะเมื่อมีการบอกล้าง 
สมบรูณ์ โมฆียะ โมฆะ 
สมบรูณ์ คือ สมบรูณ์ บริบรูณ์
 การใดๆ 
 การกระทาของบุคคล หรือเป็นการแสดงเจตนาของบุคคลเพื่อ 
ให้เกิดนิติ 
กรรม 
 การแสดงเจตนาของสตัว์ไม่เกิดนิติกรรม 
 นิติกรรมมี 2 ประเภท คือ 
 นิติกรรมฝ่ายเดียว คือการแสดงเจตนาฝ่ายเดียว เช่น พินัยกรรม 
 นิติกรรมสองฝ่าย คือการแสดงเจตนาสองฝ่าย เช่น สญัญา
สญัญา 
นิติกรรม 
สญัญาทุกสญัญาเป็นนิติกรรม 
แต่นิติกรรมทุกนิติกรรมไม่เป็นสญัญา
 กระทา ลงโดยชอบดว้ยกฎหมาย 
 กฎหมายถือ “หลักความศักดิ์ส 
ิทธิ์ 
ของการแสดงเจตนา คือ ตอ้งถูกกฎหมาย” 
 การกระทาที่ 
ไม่ชอบดว้ยกฎหมาย 
 การกระทาที่ 
มีวัตถุประสงค์เป็นการตอ้งห้ามชดัแจง้โดยกฎหมาย 
 เป็นการพน้วิสยั 
 เป็นการขดัต่อความสงบเรียบรอ้ยหรือศีลธรรมอนัดีของประชาชน 
ฝ่าฝืน ผล เป็น 
โมฆะ
 กระทา ดว้ยใจสมัคร 
ผ้ทูา นิติกรรมต้องทา ดว้ยสมัครใจ ไม่มีใครมาบังคับ มาหลอกลวง 
หาก โดนบังคับ หลอกลวง เข็ญให้หลงผิด เพื่อทา นิติกรรม
 มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ข้นึระหว่างบุคคล 
มีความผูกพันกันทางกฎหมายระหว่างบุคคล 
การกระทา ที่ไม่ใช่ การผกูนิติสัมพันธ์ระหว่างบุคคล 
ลูกร้องไห้ แม่บอกว่าอย่าร้อง เดี๋ยวซื้อตุ๊กตาให้ 
น้องล่า สั่งสุนัขให้เฝ้าบ้านและสัญญาจะซื้อเหนียวไก่มาให้
 กระทาเพื่อจะ ก่อ เปลี่ย 
นแปลง โอน สงวน หรือระงบัซึ่งสิทธิ 
* ก่อ = การกู้ยืมเงิน 
 เปลี่ยนแปลง = การเปลี่ยนแปลงทรัพย์ที่ชา ระหนี้ 
 โอน = โอนควาเป็นเจ้าหนี้ 
 สงวน = ทา หนังสือรับสภาพหนี้เพื่อให้อายุความสะดุดหยุดลง 
 ระงับ = การปลดหนี้ 
ทรพัย์ 
อสงัหาริมทรพัย์ 
สงัหาริมทรพัย์
ความสามารถของบุคคลในการทานิติกรรม 
บุคคลผู้แสดงเจตนาในการทา นิติกรรม มี 2 ประเภท 
บุคคลธรรมดา 
นิติบุคคล 
การใด มิได้เป็นไปตามบทบญัญตัิของกฎหมายว่าดว้ยความสามารถของ 
บุคคล การนนั้ เป็นโมฆียะ 
อย่าลืม โมฆียะ 
!!!!!
 ความสามารถของบุคคลในการทานิติกรรม มี 4 ประเภท 
 ผู้เยาว์ 
 คนไร้ความสามารถ 
 คนเสมือนไร้ความสามารถ 
ผ้แูทนโดยชอบธรรม 
ผ้อูนุบาล 
 คู่สมรสในเรื่องการจัดการสินสมรสบางประการตามที่กฎหมายกา หนดไว้ 
ผู้พิทักษ์ 
สามี ภรยิา จัดการทรัพย์สิน
แบบแห่งนิติกรรม 
การใดมิได้ทา ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้การนั้น 
แบบแห่งนิติกรรม มี 5 แบบ 
1) แบบทาเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ 
(ซื้อขายอสงัหาริมทรพัย์) 
2) แบบต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ 
(จดทะเบียนสมรส) 
3) แบบต้องทาเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ 
(พินยักรรมฝ่ายเมือง) 
ั๋ี่ 
ื่น4) แบบตอ้งทา หนงัสือระหว่างกนัเอง (การโอนหนี้) 
5) แบบอๆตามทกฎหมายกาหนด (เช็ค ตวเงิน) 
เป็น 
โมฆะ
1 
การใดมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชดัแจง้โดยกฎหมาย 
2 3 
เป็นการพน้วิสยั หรือ เป็นการขดัต่อความสงบเรียบรอ้ยหรือศีลธรรม 
อนัดีของประชาชน การนนั้ 
วัตถุประสงค์ของนิติกรรม 
เป็น 
โมฆะ 
กู้ยืมอัตราดอกเบี้ยเกิน 15% 
ต่อปี 
ขายแจกันซึ่งแตกแล้ว จา้งแต่งงาน 
1 
2 3
การแสดงเจตนาของผูท้า นิติกรรม 
การแสดงเจตนา คือ การกระทาของบุคคลที่ 
ทา ให้อีกฝ่ายรูถึ้งความ 
ประสงค์ที่ 
จะผูกนิติสัมพันธ์ เรื่องการแสดงเจตนา มี 6 ประการ 
1) เจตนาซอ่นเรน้ 
2) เจตนาลวง 
3) นิติกรรมอา พราง 
4) การแสดงเจตนาโดยสา คญัผิด 
5) การแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉอ้ฉล 
6) การแสดงเจตนาเพราะถูกข่มขู่
 เจตนาซ่อนเร้น 
 เจตนาที่แท้จริงในใจ กับ เจตนาที่แสดงออกไม่ตรงกัน 
เสนอ 
ขาย 
เจตนา 
ซื้อจรงิๆ ซื้อหลอกๆ 
สมบรูณ์ 
รู้=โมฆะ 
**หากณเดชน์ รู้ว่าหลุยส์มีนิสัย โออ้วด อยากซื้อหลอกๆ ผลตกเป็นโมฆะ 
แต่ ถ้าณเดชน์ ไม่รู้ผลตกเป็นสมบรูณ์ 
ไม่รู้= 
สมบรูณ์
 เจตนาลวง เป็น 
 การแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง ผล 
โมฆะ 
 ผู้แสดงเจตนารู้ตัวขณะแสดงเจตนาออกไม่ตรงกับเจตนาที่แทจ้ริงของตน 
ทวงหนี้ 10 
ล้าน 
ขายบ้าน 
หลอกๆ 
**ผลตกเป็น โมฆะ
 นิติกรรมอา พราง 
 คู่สัญญาทานิติกรรมลวง เพื่อปกปิดนิติกรรมที่แท้จริง จึงมีนิติกรรมเกี่ย 
วขอ้งกนัสองนิติกรรม 
 นิติกรรมฉบบัแรก คือ นิติกรรมฉบบัหลอกๆ ผล ตกเป็น “โมฆะ” 
 นิติกรรมฉบับที่ 
สอง คือ นิติกรรมที่ 
เอาจริงแต่ปกปิดไว้ เรียกว่า “นิติกรรมอา พราง” 
ผล ตกเป็น “สมบรูณ์” 
สญัญาขาย 
สญัญายกให้ 
หลอก 
**สญัญายกให้ จึงสมบรูณ์ เรียกว่า นิติกรรมอา พราง 
ส่วน สญัญาซื้อขาย ตกเป็นโมฆะ
 การแสดงเจตนาโดยสา คัญผิด 
 การใจผิด หลงผิด หรือพลาดไป 
สาคัญผิดในสิ่ง 
ซึ่ง 
เป็นสาระสา คญัแห่งนิติกรรม 
สา คญัผิดในคุณสมบตัิของบุคคลหรือทรพัย์สิน 
ผล โมฆะ 
1. สา คัญผิดในลักษณะแห่งนิติกรรม 
2. สา คัญผิดในตัวบุคคลที่เป็นคู่กรณี 
3. สา คัญผิดในตัวทรัพย์สินที่เป็น 
วตัถุแห่งนิติกรรม 
ผล โมฆียะ 
การสา คัญผิด ใน คุณสมบตัิของบุคคล 
หรือทรพัย์สิน
สา คัญผดิในลักษณะแห่งนิติกรรม 
สาคัญผิดในสิ่ง 
ซึ่ง 
เป็นสาระสา คญัแห่งนิติกรรม 
ทา สัญญาขายบ้าน 
**ลา ยองเข้าใจผิดคิดว่า ทา สัญญากู้ยืม ผล ตกเป็นโมฆะ
สา คัญผิดในตัวบุคคลที่เป็นคู่กรณี 
สาคัญผิดในสิ่ง 
ซึ่ง 
เป็นสาระสา คญัแห่งนิติกรรม 
ทา สัญญาขายบ้าน 
**เสี่ยกวง เข้าใจผิดคิดว่าลา ยองเป็นเจา้ของบ้าน ผล ตกเป็นโมฆะ
สา คัญผิดในตัวทรัพย์สินที่เป็นวตัถุแห่งนิติกรรม 
ตอ้งการซื้อ 
**หลุยส์เข้าใจผิดคิดว่า ลา คือ ม้า ผล ตกเป็นโมฆะ 
ส่งมอบ 
สาคัญผิดในสิ่ง 
ซึ่ง 
เป็นสาระสา คญัแห่งนิติกรรม
ตอ้งการจา้งมาสร้าง 
**ป๋อ เข้าใจผิดคิดว่า อนันดา ชา นาญเรื่องการสรา้งบ้านไม้ 
แทจ้ริง อนันดา ชา นาญสรา้งบ้านปูน ผล ตกเป็นโมฆียะ 
แต่สรา้งได้ 
สา คญัผิดในคุณสมบตัิของบุคคลหรือทรัพย์สิน
 การแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้อฉล 
 การใชอุ้บายหลอกอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อให้หลงผิด เข้าใจผิด ผล ตกเป็น 
หลอกขาย 
โมฆียะ 
** คิมเบอลี่ หลอกขายรถแก่ โดนัท บอกว่า รถโบราณ ผลตกเป็นโมฆียะ
 การแสดงเจตนเพราะถูกข่มขู่ 
 ผล ตกเป็น 
โมฆียะ 
1. ภัยที่ข่มขู่ต้องเป็นภัยที่ใกล้จะถึง 
2. ภัยที่ข่มขู่ต้องร้ายแรงถึงขนาด
สวัสดี

More Related Content

What's hot

กฎหมายเอกเทศสัญญา
กฎหมายเอกเทศสัญญากฎหมายเอกเทศสัญญา
กฎหมายเอกเทศสัญญาYosiri
 
กฎหมายลักษณะเอกเทศสัญญา
กฎหมายลักษณะเอกเทศสัญญากฎหมายลักษณะเอกเทศสัญญา
กฎหมายลักษณะเอกเทศสัญญาYosiri
 
กฎหมายหนี้
กฎหมายหนี้กฎหมายหนี้
กฎหมายหนี้Yosiri
 
กฎหมายบุคคล
กฎหมายบุคคลกฎหมายบุคคล
กฎหมายบุคคลYosiri
 
กฏหมายบุคคล
กฏหมายบุคคลกฏหมายบุคคล
กฏหมายบุคคลYosiri
 
กฎหมายทรัพย์สิน
กฎหมายทรัพย์สินกฎหมายทรัพย์สิน
กฎหมายทรัพย์สินYosiri
 
กฎหมายนิติกรรม
กฎหมายนิติกรรมกฎหมายนิติกรรม
กฎหมายนิติกรรมYosiri
 
กฎหมายเอกเทศสัญญา
กฎหมายเอกเทศสัญญากฎหมายเอกเทศสัญญา
กฎหมายเอกเทศสัญญาYosiri
 
เศรษฐกิจระหว่างประเทศ
เศรษฐกิจระหว่างประเทศเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
เศรษฐกิจระหว่างประเทศthnaporn999
 
บทที่ 1 การจัดตั้งห้างหุ้นส่วน
บทที่ 1 การจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบทที่ 1 การจัดตั้งห้างหุ้นส่วน
บทที่ 1 การจัดตั้งห้างหุ้นส่วนPa'rig Prig
 
การเขียนตอบข้อสอบกฎหมาย
การเขียนตอบข้อสอบกฎหมายการเขียนตอบข้อสอบกฎหมาย
การเขียนตอบข้อสอบกฎหมายNurat Puankhamma
 
กฎหมายในชีวิตประจำวัน
กฎหมายในชีวิตประจำวันกฎหมายในชีวิตประจำวัน
กฎหมายในชีวิตประจำวันEyezz Alazy
 
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์krubuatoom
 
เอกสารประกอบการสอน อวัยวะรับสัมผัส
เอกสารประกอบการสอน อวัยวะรับสัมผัสเอกสารประกอบการสอน อวัยวะรับสัมผัส
เอกสารประกอบการสอน อวัยวะรับสัมผัสBiobiome
 
กฎหมายมรดก
กฎหมายมรดกกฎหมายมรดก
กฎหมายมรดกYosiri
 
เคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณเคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณAui Ounjai
 
บทบรรยายอำลาเพื่อน
บทบรรยายอำลาเพื่อนบทบรรยายอำลาเพื่อน
บทบรรยายอำลาเพื่อนniralai
 

What's hot (20)

กฎหมายเอกเทศสัญญา
กฎหมายเอกเทศสัญญากฎหมายเอกเทศสัญญา
กฎหมายเอกเทศสัญญา
 
กฎหมายลักษณะเอกเทศสัญญา
กฎหมายลักษณะเอกเทศสัญญากฎหมายลักษณะเอกเทศสัญญา
กฎหมายลักษณะเอกเทศสัญญา
 
กฎหมายหนี้
กฎหมายหนี้กฎหมายหนี้
กฎหมายหนี้
 
กฎหมายบุคคล
กฎหมายบุคคลกฎหมายบุคคล
กฎหมายบุคคล
 
กฏหมายบุคคล
กฏหมายบุคคลกฏหมายบุคคล
กฏหมายบุคคล
 
กฎหมายทรัพย์สิน
กฎหมายทรัพย์สินกฎหมายทรัพย์สิน
กฎหมายทรัพย์สิน
 
กฎหมายนิติกรรม
กฎหมายนิติกรรมกฎหมายนิติกรรม
กฎหมายนิติกรรม
 
กฎหมายเอกเทศสัญญา
กฎหมายเอกเทศสัญญากฎหมายเอกเทศสัญญา
กฎหมายเอกเทศสัญญา
 
ข้อสอบกระบวนวิชา Law 1003 (la 103) (lw 203)
ข้อสอบกระบวนวิชา Law 1003 (la 103) (lw 203)ข้อสอบกระบวนวิชา Law 1003 (la 103) (lw 203)
ข้อสอบกระบวนวิชา Law 1003 (la 103) (lw 203)
 
เศรษฐกิจระหว่างประเทศ
เศรษฐกิจระหว่างประเทศเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
เศรษฐกิจระหว่างประเทศ
 
บทที่ 1 การจัดตั้งห้างหุ้นส่วน
บทที่ 1 การจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบทที่ 1 การจัดตั้งห้างหุ้นส่วน
บทที่ 1 การจัดตั้งห้างหุ้นส่วน
 
การเขียนตอบข้อสอบกฎหมาย
การเขียนตอบข้อสอบกฎหมายการเขียนตอบข้อสอบกฎหมาย
การเขียนตอบข้อสอบกฎหมาย
 
กฎหมายในชีวิตประจำวัน
กฎหมายในชีวิตประจำวันกฎหมายในชีวิตประจำวัน
กฎหมายในชีวิตประจำวัน
 
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์
 
เอกสารประกอบการสอน อวัยวะรับสัมผัส
เอกสารประกอบการสอน อวัยวะรับสัมผัสเอกสารประกอบการสอน อวัยวะรับสัมผัส
เอกสารประกอบการสอน อวัยวะรับสัมผัส
 
กฎหมายมรดก
กฎหมายมรดกกฎหมายมรดก
กฎหมายมรดก
 
o net-2552
o net-2552o net-2552
o net-2552
 
เคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณเคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณ
 
บทบรรยายอำลาเพื่อน
บทบรรยายอำลาเพื่อนบทบรรยายอำลาเพื่อน
บทบรรยายอำลาเพื่อน
 
บทที่7แรงเสียดทาน1 (2)
บทที่7แรงเสียดทาน1 (2)บทที่7แรงเสียดทาน1 (2)
บทที่7แรงเสียดทาน1 (2)
 

Viewers also liked

สัญญาจ้างแรงงาน
สัญญาจ้างแรงงานสัญญาจ้างแรงงาน
สัญญาจ้างแรงงานArpasara Thepjamnong
 
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะจัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้และละเมิด
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะจัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้และละเมิดประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะจัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้และละเมิด
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะจัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้และละเมิดChacrit Sitdhiwej
 
จัดการงานนอกสั่งและลาภมิควรได้
จัดการงานนอกสั่งและลาภมิควรได้จัดการงานนอกสั่งและลาภมิควรได้
จัดการงานนอกสั่งและลาภมิควรได้Chacrit Sitdhiwej
 
ความหมาย ลักษณะ และผล ของลาภมิควรได้
ความหมาย ลักษณะ และผล ของลาภมิควรได้ความหมาย ลักษณะ และผล ของลาภมิควรได้
ความหมาย ลักษณะ และผล ของลาภมิควรได้Chacrit Sitdhiwej
 
ลาภมิควรได้
ลาภมิควรได้ลาภมิควรได้
ลาภมิควรได้Chacrit Sitdhiwej
 
จัดการงานนอกสั่ง
จัดการงานนอกสั่งจัดการงานนอกสั่ง
จัดการงานนอกสั่งChacrit Sitdhiwej
 

Viewers also liked (6)

สัญญาจ้างแรงงาน
สัญญาจ้างแรงงานสัญญาจ้างแรงงาน
สัญญาจ้างแรงงาน
 
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะจัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้และละเมิด
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะจัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้และละเมิดประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะจัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้และละเมิด
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะจัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้และละเมิด
 
จัดการงานนอกสั่งและลาภมิควรได้
จัดการงานนอกสั่งและลาภมิควรได้จัดการงานนอกสั่งและลาภมิควรได้
จัดการงานนอกสั่งและลาภมิควรได้
 
ความหมาย ลักษณะ และผล ของลาภมิควรได้
ความหมาย ลักษณะ และผล ของลาภมิควรได้ความหมาย ลักษณะ และผล ของลาภมิควรได้
ความหมาย ลักษณะ และผล ของลาภมิควรได้
 
ลาภมิควรได้
ลาภมิควรได้ลาภมิควรได้
ลาภมิควรได้
 
จัดการงานนอกสั่ง
จัดการงานนอกสั่งจัดการงานนอกสั่ง
จัดการงานนอกสั่ง
 

Similar to บทที่ 2 นิติกรรม

ชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้น
ชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้นชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้น
ชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้นMac Legendlaw
 
กฎหมายอาญาชั้นสูง ท่าพระจันทร์ ภาค1 ปีการศึกษา 2557
กฎหมายอาญาชั้นสูง ท่าพระจันทร์ ภาค1 ปีการศึกษา 2557กฎหมายอาญาชั้นสูง ท่าพระจันทร์ ภาค1 ปีการศึกษา 2557
กฎหมายอาญาชั้นสูง ท่าพระจันทร์ ภาค1 ปีการศึกษา 2557Narong Jaiharn
 
คนดีใช้ธรรม คนระยำใช้กิเลส
คนดีใช้ธรรม คนระยำใช้กิเลสคนดีใช้ธรรม คนระยำใช้กิเลส
คนดีใช้ธรรม คนระยำใช้กิเลสWat Thai Washington, D.C.
 
นายศุภชัย
นายศุภชัยนายศุภชัย
นายศุภชัยsuppachaipang
 

Similar to บทที่ 2 นิติกรรม (6)

Lesson2
Lesson2Lesson2
Lesson2
 
ชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้น
ชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้นชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้น
ชีทสรุปกฎหมายปกครองเบื้องต้น
 
กฎหมายอาญาชั้นสูง ท่าพระจันทร์ ภาค1 ปีการศึกษา 2557
กฎหมายอาญาชั้นสูง ท่าพระจันทร์ ภาค1 ปีการศึกษา 2557กฎหมายอาญาชั้นสูง ท่าพระจันทร์ ภาค1 ปีการศึกษา 2557
กฎหมายอาญาชั้นสูง ท่าพระจันทร์ ภาค1 ปีการศึกษา 2557
 
ภาษาไทย จ้า11
ภาษาไทย จ้า11ภาษาไทย จ้า11
ภาษาไทย จ้า11
 
คนดีใช้ธรรม คนระยำใช้กิเลส
คนดีใช้ธรรม คนระยำใช้กิเลสคนดีใช้ธรรม คนระยำใช้กิเลส
คนดีใช้ธรรม คนระยำใช้กิเลส
 
นายศุภชัย
นายศุภชัยนายศุภชัย
นายศุภชัย
 

บทที่ 2 นิติกรรม

  • 2. ลักษณะทั่ว ไปของนิติกรรม 1 2 ม.149 การใดๆ อนักระทา ลงโดยชอบดว้ยกฎหมาย 3 4 และดว้ยใจสมัคร มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสมัพนัธ์ขึ้นระหว่างบุคคล 5 เพื่อ จะ ก่อ /เปลี่ย นแปลง /โอน /สงวน/ หรือ ระงับ/ซึ่ง สิทธิ
  • 3. ผลของกฎหมาย โมฆะ คือ สิ้นสภาพตั้งแต่เริ่มตน้ โมฆียะ คือ สมบรูณ์เมื่อใหสั้ตยาบัน ตกเป็นโมฆะเมื่อมีการบอกล้าง สมบรูณ์ โมฆียะ โมฆะ สมบรูณ์ คือ สมบรูณ์ บริบรูณ์
  • 4.  การใดๆ  การกระทาของบุคคล หรือเป็นการแสดงเจตนาของบุคคลเพื่อ ให้เกิดนิติ กรรม  การแสดงเจตนาของสตัว์ไม่เกิดนิติกรรม  นิติกรรมมี 2 ประเภท คือ  นิติกรรมฝ่ายเดียว คือการแสดงเจตนาฝ่ายเดียว เช่น พินัยกรรม  นิติกรรมสองฝ่าย คือการแสดงเจตนาสองฝ่าย เช่น สญัญา
  • 5. สญัญา นิติกรรม สญัญาทุกสญัญาเป็นนิติกรรม แต่นิติกรรมทุกนิติกรรมไม่เป็นสญัญา
  • 6.  กระทา ลงโดยชอบดว้ยกฎหมาย  กฎหมายถือ “หลักความศักดิ์ส ิทธิ์ ของการแสดงเจตนา คือ ตอ้งถูกกฎหมาย”  การกระทาที่ ไม่ชอบดว้ยกฎหมาย  การกระทาที่ มีวัตถุประสงค์เป็นการตอ้งห้ามชดัแจง้โดยกฎหมาย  เป็นการพน้วิสยั  เป็นการขดัต่อความสงบเรียบรอ้ยหรือศีลธรรมอนัดีของประชาชน ฝ่าฝืน ผล เป็น โมฆะ
  • 7.  กระทา ดว้ยใจสมัคร ผ้ทูา นิติกรรมต้องทา ดว้ยสมัครใจ ไม่มีใครมาบังคับ มาหลอกลวง หาก โดนบังคับ หลอกลวง เข็ญให้หลงผิด เพื่อทา นิติกรรม
  • 8.  มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ข้นึระหว่างบุคคล มีความผูกพันกันทางกฎหมายระหว่างบุคคล การกระทา ที่ไม่ใช่ การผกูนิติสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ลูกร้องไห้ แม่บอกว่าอย่าร้อง เดี๋ยวซื้อตุ๊กตาให้ น้องล่า สั่งสุนัขให้เฝ้าบ้านและสัญญาจะซื้อเหนียวไก่มาให้
  • 9.  กระทาเพื่อจะ ก่อ เปลี่ย นแปลง โอน สงวน หรือระงบัซึ่งสิทธิ * ก่อ = การกู้ยืมเงิน  เปลี่ยนแปลง = การเปลี่ยนแปลงทรัพย์ที่ชา ระหนี้  โอน = โอนควาเป็นเจ้าหนี้  สงวน = ทา หนังสือรับสภาพหนี้เพื่อให้อายุความสะดุดหยุดลง  ระงับ = การปลดหนี้ ทรพัย์ อสงัหาริมทรพัย์ สงัหาริมทรพัย์
  • 10. ความสามารถของบุคคลในการทานิติกรรม บุคคลผู้แสดงเจตนาในการทา นิติกรรม มี 2 ประเภท บุคคลธรรมดา นิติบุคคล การใด มิได้เป็นไปตามบทบญัญตัิของกฎหมายว่าดว้ยความสามารถของ บุคคล การนนั้ เป็นโมฆียะ อย่าลืม โมฆียะ !!!!!
  • 11.  ความสามารถของบุคคลในการทานิติกรรม มี 4 ประเภท  ผู้เยาว์  คนไร้ความสามารถ  คนเสมือนไร้ความสามารถ ผ้แูทนโดยชอบธรรม ผ้อูนุบาล  คู่สมรสในเรื่องการจัดการสินสมรสบางประการตามที่กฎหมายกา หนดไว้ ผู้พิทักษ์ สามี ภรยิา จัดการทรัพย์สิน
  • 12. แบบแห่งนิติกรรม การใดมิได้ทา ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้การนั้น แบบแห่งนิติกรรม มี 5 แบบ 1) แบบทาเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ (ซื้อขายอสงัหาริมทรพัย์) 2) แบบต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ (จดทะเบียนสมรส) 3) แบบต้องทาเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ (พินยักรรมฝ่ายเมือง) ั๋ี่ ื่น4) แบบตอ้งทา หนงัสือระหว่างกนัเอง (การโอนหนี้) 5) แบบอๆตามทกฎหมายกาหนด (เช็ค ตวเงิน) เป็น โมฆะ
  • 13. 1 การใดมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชดัแจง้โดยกฎหมาย 2 3 เป็นการพน้วิสยั หรือ เป็นการขดัต่อความสงบเรียบรอ้ยหรือศีลธรรม อนัดีของประชาชน การนนั้ วัตถุประสงค์ของนิติกรรม เป็น โมฆะ กู้ยืมอัตราดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี ขายแจกันซึ่งแตกแล้ว จา้งแต่งงาน 1 2 3
  • 14. การแสดงเจตนาของผูท้า นิติกรรม การแสดงเจตนา คือ การกระทาของบุคคลที่ ทา ให้อีกฝ่ายรูถึ้งความ ประสงค์ที่ จะผูกนิติสัมพันธ์ เรื่องการแสดงเจตนา มี 6 ประการ 1) เจตนาซอ่นเรน้ 2) เจตนาลวง 3) นิติกรรมอา พราง 4) การแสดงเจตนาโดยสา คญัผิด 5) การแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉอ้ฉล 6) การแสดงเจตนาเพราะถูกข่มขู่
  • 15.  เจตนาซ่อนเร้น  เจตนาที่แท้จริงในใจ กับ เจตนาที่แสดงออกไม่ตรงกัน เสนอ ขาย เจตนา ซื้อจรงิๆ ซื้อหลอกๆ สมบรูณ์ รู้=โมฆะ **หากณเดชน์ รู้ว่าหลุยส์มีนิสัย โออ้วด อยากซื้อหลอกๆ ผลตกเป็นโมฆะ แต่ ถ้าณเดชน์ ไม่รู้ผลตกเป็นสมบรูณ์ ไม่รู้= สมบรูณ์
  • 16.  เจตนาลวง เป็น  การแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง ผล โมฆะ  ผู้แสดงเจตนารู้ตัวขณะแสดงเจตนาออกไม่ตรงกับเจตนาที่แทจ้ริงของตน ทวงหนี้ 10 ล้าน ขายบ้าน หลอกๆ **ผลตกเป็น โมฆะ
  • 17.  นิติกรรมอา พราง  คู่สัญญาทานิติกรรมลวง เพื่อปกปิดนิติกรรมที่แท้จริง จึงมีนิติกรรมเกี่ย วขอ้งกนัสองนิติกรรม  นิติกรรมฉบบัแรก คือ นิติกรรมฉบบัหลอกๆ ผล ตกเป็น “โมฆะ”  นิติกรรมฉบับที่ สอง คือ นิติกรรมที่ เอาจริงแต่ปกปิดไว้ เรียกว่า “นิติกรรมอา พราง” ผล ตกเป็น “สมบรูณ์” สญัญาขาย สญัญายกให้ หลอก **สญัญายกให้ จึงสมบรูณ์ เรียกว่า นิติกรรมอา พราง ส่วน สญัญาซื้อขาย ตกเป็นโมฆะ
  • 18.  การแสดงเจตนาโดยสา คัญผิด  การใจผิด หลงผิด หรือพลาดไป สาคัญผิดในสิ่ง ซึ่ง เป็นสาระสา คญัแห่งนิติกรรม สา คญัผิดในคุณสมบตัิของบุคคลหรือทรพัย์สิน ผล โมฆะ 1. สา คัญผิดในลักษณะแห่งนิติกรรม 2. สา คัญผิดในตัวบุคคลที่เป็นคู่กรณี 3. สา คัญผิดในตัวทรัพย์สินที่เป็น วตัถุแห่งนิติกรรม ผล โมฆียะ การสา คัญผิด ใน คุณสมบตัิของบุคคล หรือทรพัย์สิน
  • 19. สา คัญผดิในลักษณะแห่งนิติกรรม สาคัญผิดในสิ่ง ซึ่ง เป็นสาระสา คญัแห่งนิติกรรม ทา สัญญาขายบ้าน **ลา ยองเข้าใจผิดคิดว่า ทา สัญญากู้ยืม ผล ตกเป็นโมฆะ
  • 20. สา คัญผิดในตัวบุคคลที่เป็นคู่กรณี สาคัญผิดในสิ่ง ซึ่ง เป็นสาระสา คญัแห่งนิติกรรม ทา สัญญาขายบ้าน **เสี่ยกวง เข้าใจผิดคิดว่าลา ยองเป็นเจา้ของบ้าน ผล ตกเป็นโมฆะ
  • 21. สา คัญผิดในตัวทรัพย์สินที่เป็นวตัถุแห่งนิติกรรม ตอ้งการซื้อ **หลุยส์เข้าใจผิดคิดว่า ลา คือ ม้า ผล ตกเป็นโมฆะ ส่งมอบ สาคัญผิดในสิ่ง ซึ่ง เป็นสาระสา คญัแห่งนิติกรรม
  • 22. ตอ้งการจา้งมาสร้าง **ป๋อ เข้าใจผิดคิดว่า อนันดา ชา นาญเรื่องการสรา้งบ้านไม้ แทจ้ริง อนันดา ชา นาญสรา้งบ้านปูน ผล ตกเป็นโมฆียะ แต่สรา้งได้ สา คญัผิดในคุณสมบตัิของบุคคลหรือทรัพย์สิน
  • 23.  การแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้อฉล  การใชอุ้บายหลอกอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อให้หลงผิด เข้าใจผิด ผล ตกเป็น หลอกขาย โมฆียะ ** คิมเบอลี่ หลอกขายรถแก่ โดนัท บอกว่า รถโบราณ ผลตกเป็นโมฆียะ
  • 24.  การแสดงเจตนเพราะถูกข่มขู่  ผล ตกเป็น โมฆียะ 1. ภัยที่ข่มขู่ต้องเป็นภัยที่ใกล้จะถึง 2. ภัยที่ข่มขู่ต้องร้ายแรงถึงขนาด