ผลกระทบการท่องเที่ยวด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

1. ผลกระทบการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

2. การค้นพบ
เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว เป็นป่าดงดิบผืนใหญ่ที่ทอดยาวมาตั้งแต่เทือกเขาเพชรบูรณ์จนถึง
เทือกเขาสันกาแพง และติดต่อไปจรดถึงเทือกเขาพนมดงรักบนพรมแดนติดกับประเทศ
กัมพูชา เป็นต้นธารน้ามากมายที่หล่อเลี้ยงคนภาคกลางและภาค การเดินทางไปมาหาสู่
เพื่อค้าขายระหว่างผู้คนสองฝั่งป่า

3. การพัฒนา
ปี 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ได้ตราพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติขึ้น ตั้งเขาใหญ่
เป็นอุทยานแห่งชาติ ในปี 2505 โดยเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย
มีการทาถนนธนะรัชต์โดยถนนนี้ขึ้นมาบนเขาใหญ่ ต่อมามีการตัดถนนสาย
ปราจีนบุรี-เขาใหญ่ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ได้รับการประกาศให้เป็น
"มรดกโลกทางธรรมชาติ" จากองค์การยูเนสโก ภายใต้ชื่อกลุ่ม “ดงพญาเย็น-เขาใหญ่”

4. Sheep LandPalio Khao Yai
ปัจจุบัน
ปัจจุบันอุยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาไปจากเดิม และได้รับความนิยม
เป็นอย่างจากนักท่องเที่ยว มีสิ่งอานวยความสะดวกและสาธารณูปโภคต่างๆเกิดขึ้น

5. อาร์ตมิวเซียม สวนสนุก Life Park

6. สวนซ่อนศิลป์ The Bloom

7. การพัฒนาของเขาใหญ่

8. ผลกระทบทางการท่องเที่ยว

9. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ

10. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีคุณค่าในเชิงเศรษฐกิจ 2 ประการ คือ
1 คุณค่าของการใช้
2 คุณค่าของการไม่ใช้
คุณค่าความหลากหลายทางชีวภาพบนเขาใหญ่ประเมินไว้ ประมาณ 125 ล้านบาทต่อปี
ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวประมาณ 10-26 ล้านบาทต่อปี เมื่อใช้เปรียบเทียบกับจานวนเงิน
จริงที่ชาวบ้านได้รับประโยชน์จากป่า ชาวบ้านยินดีสูญเสียรายได้ 182 ล้านบาทต่อปี เพื่อ
การอนุรักษ์ป่า
แต่เมื่อมองในมุมที่ได้กาไรซึ่งยังไม่มีการประเมินค่า ได้แก่ แหล่งน้า ต้นน้า ยังอยู่บริบูรณ์
เป็นทุนให้ชาวบ้านได้ใช้ และช่วยลดปริมาณคาร์บอนในอากาศที่เกิดจากกิจกรรมเผาไหม้
ต่างๆ

11. การประเมินค่าทางเศรษฐกิจ บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อีกครั้ง ในปี พ.ศ.2537
โดยใช้ปรากฏว่าคุณค่าทางเศรษฐกิจ ทั้งหมดประมาณ 2,080 ล้านบาทต่อปี หรือ
ประมาณ 1,664 บาท ต่อ 1 ไร่ เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากการเกษตร ประมาณ
740 บาทต่อ 1 ไร่ สาหรับในส่วนผู้ท่องเที่ยว พอใจที่จ่ายในการเดินทางไปเยี่ยมชม
เป็นเงิน 832 บาทต่อคนต่อปี และผู้ไม่ไปเที่ยวแต่เต็มใจจ่ายเงินเพื่ออนุรักษ์เขาใหญ่
208 บาทต่อคนต่อปี การสารวจในครั้งนี้สารวจเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย

12. ผลกระทบทางบวก
1. เกิดการจ้างงาน
2. ก่อให้เกิดรายได้

13. 3. ก่อให้เกิดรายได้เงินตราต่างประเทศเข้าประเทศ
4. การส่งเสริมรายได้แก่รัฐ

14. 5. กระตุ้นให้เกิดการผลิต
6. การขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

15. ผลกระทบทางลบ
1.การท่องเที่ยวมีเป็นช่วงเวลา

16. 2. นาเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

17. 3. ปัญหาขยะก่อให้เกิดค่าใช้จ่าย

18. 5. เกิดการแย้งงาน
4. นักลงทุนเป็นชาวต่างชาติ

19. 6. ผลกระทบเมื่ออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นที่นิยม

20. ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

21. ผลกระทบด้านบวก
1. เมื่อมีแหล่งท่องเที่ยวเกิดขึ้นทาให้ผู้คนตระหนักถึงความสาคัญของพื้นที่ป่าเขาใหญ่ทาให้เกิด
การอนุรักษ์

22. 2. ภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของธุรกิจได้ตระหนักถึงการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพของสิ่งแวดล้อม มีการ
ตั้งกฎระเบียบสาหรับการควบคุมในด้านสิ่งแวดล้อม

23. 3. รัฐบาลเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ เนื่องมาจากกฎหมาย และยังเป็นหนึ่ง
ในมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศไทย ที่สร้างรายได้เข้าประเทศ เป็น
จานวนมหาศาล

24. 4. การท่องเที่ยวช่วยส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวใช้จ่าย
จะถูกนาไปใช้สาหรับการอนุรักษ์ป่า และสัตว์ป่า เพื่อคงไว้ซึ่งความสวยงาม และ
ความสมบูรณ์

25. ผลกระทบด้านลบ
1. โครงการขยายทางหลวงหมายเลข 304
2. การตัดต้นไม้เพื่อก่อสร้างที่พักอาศัยและสิ่งอานวยความสะดวก

26. 3. พฤติกรรมการหาอาหารที่เปลี่ยนแปลงไปของสัตว์
4. มลพิษทางอากาศ

27. 5. ของเสียจากแหล่องท่องเที่ยว
6. มลพิษทางน้า

28. 7. มลพิษทางสายตา
8. มลพิษทางขยะ

29. 9. เสียงรบกวนจากยานพาหนะและกลุ่มนักท่องเที่ยว

30. การเปรียบเทียบผลกระทบ
1. การขยายถนนเพิ่มขึ้น เป็นการอานวยความสะดวกให้กับการท่องเที่ยว เพื่อนามาซึ่ง
รายได้ทางเศรษฐกิจ แต่ส่งผลเสียในเรื่องของระบบนิเวศและผืนป่า สัตว์ป่ามีพฤติกรรมการ
ดาลงชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป โดนบุกรุกโดยมนุษย์
การขยายถนนต้องมีการตัดไม้ ถางป่าทาให้ป่าสูญเสียต้นไม้หายาก และยังทาให้ความ
อุดมสมบูรณ์ของผืนป่าลดลง และภูมิทัศน์ที่เคยสวยงามลดลง เปลี่ยนไปเป็นถนนคอนกรีต
อย่างเช่น ในกรณีของอุโมงค์ต้นไม้ที่ถูกตัดเพื่อที่สร้าง

31. 2. การเพิ่มขึ้นของคอนโดและรีสอร์ทจานวนมาก ต้องมีการขุดเจาะน้าบาดาล เมื่อมี
การสูบน้าไปใช้ทาให้น้าใต้ดินมีไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการถล่มของชั้นหิน
อย่างเช่นกรณีที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.สตูล สาเหตุส่วนใหญ่ มาจากการสูบน้าใต้ดินใน
ปริมาณมาก น้าฝนไหลลงไปแทนที่เยอะ ทาให้ทรุดตัวเร็วขึ้น รวมถึงการใช้น้าทั้งโรงแรม
รีสอร์ท รอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กาลังส่งผลกระทบต่อเนื่อง ปัญหาน้าใต้ดินที่มี
ปริมาณลดน้อยลง จนอาจทาให้ลาน้าลาตะครองและต้นแม่น้ามูลเกิดวิกฤติขาดแคลนน้า
และเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเรื่องดินโคลนและชั้นหินถล่มในอนาคต