More Related Content
Similar to ตุงล้านนา (20)
ตุงล้านนา
- 1. ตุงล้ านนาน่ าอนุรักษ์
ประวัติของตุงล้ านนา
่
ชาวล้านนาแต่โบราณมีคติความเชื่ อเกี่ยวกับอานิ สงค์การทานตุงอยูมาก ซึ่ งเล่าสื บต่อกันมา
่
หลายชัวอายุคนดัง ตัวอย่างเล่าว่า ”มีกาเผือกคู่หนึ่งออกไข่มา ๕ ฟอง อยูบนต้นไม้ เมื่อเกิดลมพายุ
่
ไข่ท้ งหมดได้พลัดตกลงมา ครั้นพ่อแม่กาเผือกกลับมาไม่เห็นไข่ของพวกตน ก็เกิดความโศกเศร้า
ั
่
จนตรอมใจตายแล้วได้ข้ ึนไปอยูบนสวรรค์ ไข่ท้ งห้าใบต่างถูกไก่ เต่า พญานาค โค และคนซักผ้านาไปเลี้ยง
ั
จนเติมโตเป็ นชายหนุ่มทั้งห้าคน ต่างคนต่างก็มีจิตใจอยากบวช
จึงบวชจนสาเร็ จญาณและมาพบกันโดยบังเอิญ ทั้งห้าองค์มีความกตัญญูกตเวทีต่อผูที่ให้กาเนิด
้
จึงได้สร้างตุงถวายอุทิศให้ กะกุสันทะซึ่ งไก่เป็ นผูเ้ ลี้ยงสร้างรู ปไก่ โกนาคมนะรู ปนาค กัสปะรู ปเต่า
โคตมะรู ปวัว และอริ ยะเมตรัยรู ปค้อนทุบผ้า เมื่อสร้างตุงเสร็ จแล้ว ก็ทาถวายอุทิศ แต่ไปไม่ถึงผูให้กาเนิด
้
กาเผือกจึงต้องมาบอกให้ทาเป็ นประทีปรู ปตีนกาจุดไปจึงจะอุทิศไปถึง”
ั
ตุงสมัยก่อนของชาวเหนือ จึงสัมพันธ์กบพระพุทธเจ้าทั้งห้าองค์
การทาตุงถวายจึงเปรี ยบเสมือนตัวแทนสักการะของการแผ่กุศล
กตัญญูกตเวทีไปถึงผูมีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้ว เราอาจเห็นตุงที่มีรูปไก่ยนอยูบนหัวตุงหมายถึงไก่
้
ื ่
ส่ วนลาตัวและใบของตุงแทนรู ปนาค ลวดลายต่าง ๆ เป็ นตารางเกล็ด หรื อสี่ เหลี่ยมขนมเปี ยกปูน
หมายถึงเต่ า และส่ วนประดิษฐ์เป็ นรู ปกลม หมายถึงตาวัวหรือวัว
นอกจากนี้ยงมีความเชื่อกันว่าวิญญาณผูตายนี้สามารถยึด หรื อปี นป่ ายตุงขึ้นสวรรค์ได้
ั
้
ดังเรื่ องเล่าว่า “กาลครั้ งหนึ่งมีนายพรานซึ่ งเข้าไปล่าสัตว์ในป่ านานนับสิ บ ๆ ปี
- 2. ่
ผ่านไปที่วดเห็นตุงที่แขวนอยูโบกสบัดสวยงามมาก
ั
เมื่อกลับมาถึงบ้านจึงได้ทาตุงขึ้นเพื่อที่จะไปถวายวัดบูชาพระประธาน ครั้นเมื่อเขาตายไป
ถูกตัดสิ นส่ งลงนรก เนื่ องจากไม่เคยทาความดีเลย มีแต่ฆ่าสัตว์ ยกเว้นแต่ทาตุงถวายวัดเท่านั้น
เมื่อถูกตัดสิ นให้ตกนรก ตุงผืนที่เขาทานั้นได้มาพันดึงเขาให้พนจากนรก นาขึ้นสู่ สวรรค์ได้”
้
“ชาวเหนื อจึงมีความเชื่อว่า การถวายหรื อทานตุงนั้นมีอานิ สงค์หรื อได้บุญอย่างมาก”"ตุง" ของล้านนา
มีลกษณะเป็ นแผ่นวัตถุส่วนปลายแขวนติดกับเสาห้อยเป็ นแผ่นยาวลงมา วัสดุที่ใช้ทาตุงนั้นมีหลายอย่าง
ั
เช่น ไม้ สังกะสี ผ้า กระดาษ ใบลาน เป็ นต้น
ตุงเป็ นสิ่ งที่ทาขึ้นเพื่อใช้ในงานพิธีทางพุทธศาสนา โดยมีขนาด รู ปร่ าง และ รายละเอียดด้านวัสดุตกแต่ง
แตกต่างกันไป ตามความเชื่ อและพิธีกรรมตลอดจนตามความนิยมในแต่ละท้องถิ่นด้วย
วัตถุประสงค์ ของการทาตุง
1. เพือให้ เป็ นสั ญลักษณ์ หมายถึง
่
ธงที่เป็ นเครื่ องหมายพวกหรื อเผ่าต่างๆกาหนดสี สันให้รู้จกจาง่ายเหมือนกับ
ั
ชาติท้ งหลายในโลกที่ใช้ธงเป็ นเครื่ องแทนปรัชญาหรื อความหมายอย่างใดอย่าง หนึ่ง
ั
2. เพือใช้ เป็ นเครื่องพิธี หมายถึง การนาตุงหรื อช่อธงในพิธีเครื่ องบูชาเซ่นสรวง
่
อย่างเช่นการบูชาท้าวจตุโลกบาลเป็ นต้น หากไม่มีช่อธุ งหรื อธง ถือว่าพิธีไม่ครบถ้วน อันเป็ นข้อบกพร่ อง
ทาให้พิธีเสี ยหรื อไม่สมบูรณ์
3. เพือเป็ นศักดิ์ศรีแก่เทพเจ้ า หมายถึง เทพที่สาคัญทั้งหลาย เช่น พระอินทร์ พระนารายณ์
่
มีช่อธงเป็ นเครื่ องหมาย เช่นพระอินทร์ มีธงสี เขียว เป็ นต้น แม้สมมติเทพ เช่น พระมหากษัตริ ย ์
ก็มีธงเป็ นเครื่ องหมายแห่งยศ และศักดิ์ศรี
4. เพือเป็ นเกียรติแก่ บุคคล หมายถึง การมีธุงหรื อมีช่อประจาอยู่
่
เช่นเหล่ากองทหารต่างมีธงชัยเฉลิมพลอันเป็ นเครื่ องหมายแห่ง
เกียรติยศของกองทหารนั้นทาให้ทหาร ภูมิใจในความเป็ นทหารของตน
- 3. ตุง กับงานประเพณีต่างๆ
ตุงจาแนกตามการใช้ งาน มีดังนี้
1. ตุง ที่ใช้ประดับตกแต่งสถานที่ที่มีงานสมโภชฉลองถาวรวัตถุทางพระพุทธศาสนา
เพื่อให้เกิดความสวยงาม เป็ นเครื่ องหมายนาทางไปสู่ บริ เวณงาน และใช้ในงานมงคลต่าง ๆ มีดงนี้
ั
ตุงไชย (ตุงไจย) เป็ นตุงขนาดใหญ่ รู ปสี่ เหลี่ยมผืนยาว ถือว่ายิงยาวยิงมีอานิสงค์มาก ตุง ไชยทาด้วยผ้า
่
่
เส้นฝ้ าย เส้นไหม ซึ่ งจะทอเป็ นใยโปร่ ง มีการตกแต่งประดับประดา บ้างก็ทกทอเป็ นลวดลายต่าง ๆ
ั
อย่างสวยงาม ถ้าผืนยาวมากมักใช้ไม่ไผ่ลาโตทาเป็ นเสาตุงใช้ในงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ
ชาวบ้านจะช่วยกันทาตุงไชยมาปั กเรี ยงรายตามสองข้างทางที่จะเข้าสู่ วด
ั
การที่นาตุงไชยมาปั กเพื่อเป็ นการอุทิศส่ วนกุศลให้ญาติผล่วงลับ นอกจากปักได้สองข้างทางเข้าวัดแล้ว
ู้
ยังมีการประดับประดาไว้รอบศาสนสถาน ศาสนวัตถุ ที่ทาพิธีฉลองกันด้วย
รู ปตุงไชย (ตุงไจย)
ตุงใย (ตุงใยแมงมุม) คือ ตุงที่ทาด้วยเส้นด้ายหรื อเส้นไหม ผูกกันคล้ายใยแมงมุม
เพื่อใช้ในพิธีสาคัญทางศาสนาเช่นเดียวกับตุงไชย
หรื อแขวนไว้ในวิหารหน้าพระประธานถวายเป็ นพุทธบูชา
่ ั
การทาตุงชนิ ดนี้ข้ ึนอยูกบความนิยมของแต่ละหมู่บาน
้
- 4. รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)
ตุงกระด้าง เป็ น ตุงที่ทาด้วยวัสดุคงรู ป ผืนตุงทาด้วยไม้แกะสลักบ้าง ปูนปั้ นบ้าง
หรื อบางครั้งก็เป็ นโลหะแผ่นฉลุลาย นอกจากนี้ยงมีการประดับตกแต่งด้วยกระจกปั้ นปูนเป็ นลวดลายต่าง ๆ
ั
หรื อฉลุเป็ นลวดลายประดับบนผืนตุง ตุงกระด้างนี้
ผูสร้างมักเป็ นผูบรรดาศักดิ์สูงหรื อมีฐานะทางเศรษฐกิจดีพอเพราะวัสดุที่
้
้
ใช้ต้ งแต่ผนธงจนการประดับตกแต่งต่างมีราคาสู ง และต้องใช้ช่างฝี มือที่ประณี ต
ั ื
ซึ่ งการสร้างก็เพื่อถวายเป็ นพุทธบูชา
รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)
ตุงขอนงวงช้าง หรื อตุงขอนก๋ ม มีลกษณะเป็ นวงแหวน ทาด้วยไม้ไผ่
ั
มัดโยงกันเป็ นปล้องหุ มด้วยกระดาษสี ต่าง ๆ มักผูกติดไว้บริ เวณหน้าพระประธาน
้
- 5. รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)
ตุงตัวเปิ้ ง คือตุงประปี เกิด เป็ นตุงทาด้วยกระดาษ หรื อผ้าทอ, พิมพ์หรื อเขียนเป็ นรู ปสัตว์ประจาปี เกิด
นิยมปักบนเจดียทรายในเทศกาลสงกรานต์ หรื อแขวนบริ เวณหน้าพระประธาน
์
รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)
ตุงตะขาบ ตุงจระเข้ เป็ นรู ปสี่ เหลี่ยมผืนผ้า มีรูปตะขาบหรื อจระเข้
่
อยูบนผืนตุงใช้ในงานทอดกฐิน
- 6. รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)
ตุงดอกบ้อง หรื อตุงไส้หมู เป็ นตุงที่มีรูปร่ างทรงจอมแห ทาจากกระดาษสี ต่างผูกติดกับกิ่งไม้
หรื อก้านไม้ไผ่เล็ก ๆ ตุงนี้ใช้ในเทศกาลสงกรานต์โดยปั กบนกองเจดียทราย หรื อประดับเครื่ องไทยทานต่าง
์
ๆ
รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)
ตุงค่าคิง เป็ นตุงที่มีรูปร่ างยาวแคบ ความยาวเท่ากับความสู งองผูทาพิธี ผืนตุงทาด้วยกระดาษสี ขาว
้
อาจตกแต่งลวดลายด้วยกระดาษเงิน กระดาษทอง
ตุงค่าคิงที่ใช้ในงานขึ้นบ้านใหม่ที่มีพิธีสืบชาตาพิธีสะเดาะเคราะห์ หรื อปักบูชากองเจดียทราย
์
- 7. รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)
ตุงพระบด,พระบฏ,พระบฎ เป็ นตุงทที่มีลกษณะเป็ นผือผ้าใบหรื อกระดาษสี่ เหลี่ยมผืนผ้ามีขนาดต่าง
ั
ๆ ส่ วนมากประมาณ 80 คูณ 100 เซนติเมตร กรอบทั้งสี่ ดานทาด้วยไม้ทาให้ตึง
้
ตุงพระบฎจะเป็ นรู ปพระพุทธรู ปประทับยืน ปางลีลา หรื อบางเปิ ดโลก ลักษณะของการใช้งาน
ตุงพระบฎใช้ประดับไว้ดานหลังของพระประธานในโบสถ์ นอกจากจะใช้ประดับสองข้างพระประธานแล้ว
้
ั
บางแห่งใช้กบพิธีกรรมความเชื่ออีกด้วย เช่น ตุงพระบฏ ที่ใช้ในพิธีเลี้ยงผีปู่แวะย่าแสะที่บานแม่เหี ยะ
้
ตาบลแม่เหี ยะ อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)
2. ตุงทีใช้ ในการประกอบพิธีงานอวมงคล
่
ตุงสามหาง เป็ นตุงที่อาจเรี ยกชื่อว่า ตุงรู ปคนหรื อตุงผีตาย
ใช้สาหรับนาหน้าศพในสู่ สุสานหรื อเชิงตะกอน
เป็ นตุงที่ประดิษฐ์ข้ ึนเพื่อรวมลักษณะแทนตัวคนเราไว้ดวยกัน
้
- 8. คือส่ วนหัวและลาตัวคือส่ วนที่กางออกเป็ นแขนขาซึ่ งบางท่านกล่าวว่าเป็ นคติ
นิยมเกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิด เพื่อเน้นธรรมานุสติถึงความหลุดพ้น ได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ตุงชนิดนี้บางท้องที่ (ลาปาง) เรี ยกตุงฮ่างคน หรื อตุงอ่องแอ่ง
ตุงเหล็ก, ตุงตอง ทาด้วยแผ่นสังกะสี หรื อแผ่นทองเหลืองขนาดเล็กยาวประมาณ 1 คืบ
กว้างประมาณ 2 นิ้ว มีคนตุงทาจากเส้นลวดหรื อไม้ไผ่ก็ได้ ส่ วนมากจะทาอย่างละ 108 อัน
ั
มัดติดเป็ นพวงโดยทาฐานตั้งไว้ หรื อบางแห่งจะวางไว้บนโลงศพ เมื่อเสร็ จพิธีแล้ว
ชาวบ้านมักจะนามาไว้ที่วด ตามฐานชุกชี เมื่อจาเป็ นต้องใช้งานอีก ก็ไม่ตองทาขึ้นมาใหม่
ั
้
่
ตุงขอนนางผาน มีลกษณะเป็ นตุงขนาดเล็กประดับอยูที่ปลายทั้งสองข้างของก้นไม้เล็ก ๆ
ั
่ ้
ที่ติดขวางบนตุงผืนใหญ่ที่เป็ นระยะ ๆ บางครั้งทาเป็ นรู ปทรงคล้ายพูหอย
- 9. ตุงนี้ทาเพื่ออุทิศส่ วนกุศลให้ผตายที่ฐานะยากจนหรื อไร้ญาติ
ู้
3. ตุงที่ใช้ประกอบการเทศน์ จะใช้ประกอบในพิธีงานเทศกาล ตั้งธรรมหลวง ในเดือนยีเ่ พ็ง
(วันเพ็ญเดือนสิ บสอง) หรื องานตั้งธรรมหลวงเดือนสี่ เพ็ง (วันเพ็ญเดือนยี)
่
โดยการปั กตุงดังกล่าวนี้ในกัณฑ์เทศน์ หรื อประดับอาคารที่มีเทศน์ เช่น โบสถ์ วิหาร หรื อศาลาบาตร
เป็ นต้น ทั้งนี้ตามคติความเชื่ อองคนในล้านนาทาตุงใช้ประกอบการเทศน์ข้ ึน ก็เพื่อถวายเป็ นพุทธบูชา
และเชื่อว่าจะได้อานิสงส์มากตุงที่ใช้ประกอบการเทศน์สอดคล้องกับการเทศน์ ธรรมเรื่ องต่าง ๆ ในทศชาติ
ดังต่อไปนี้
ั
1. ตุงดิน
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์แรกคือ เตมิยชาดก
ั
2. ตุงทราย ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 2 คือ ชนกกุมาร
ั
3. ตุงไม้
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 3 คือ สุ วรรณสาม
ั
4. ตุงจีน
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 4 คือ เนมิราช
ั
5. ตุงเหียก
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 5 คือ มโหสถ
ั
6. ตุงเหล็ก ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 6 คือ ภูริทต
ั
ั
7. ตุงตอง
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 7 คือ จันทกุมารชาดก
ั
8. ตุงข้าวเปลือก ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 8 คือ นารถชาดก
ั
9. ตุงข้าวสาร ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 9 คือ วิธูรบัณฑิต
ั
10. ตุงเงิน
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 10 คือ เวสสันดร
ั
11. ตุงคา
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์เรื่ อง สิ ตธาตถ์หรื อสิ ตาตถ์ออกบวช
4. ช่อ คือตุงชนิดหนึ่งแต่มีขนาดเล็ก เรี ยกชื่อตามลักษณะการใช้งานหรื อรู ปทรง
ช่อน้อย เป็ นช่อขนาดเล็ก ใช้ปักเจดียในเทศกาลสงกรานต์, ในการสะเดาะเคราะห์, การสื บชาตา,
์
- 10. การขึ้นท้าวทั้งสี่ , การถาวายเป็ นพุทธบูชา
ช่อช้าง ทาด้วยผ้าแพรสี ต่าง ๆ ปั กดิ้นอย่างสวยงามใช้ถือนาหน้าครัวทาง
หรื อใช้ปักสลับกับตุงไชยในงานปอยหลวง
อานิสงส์ของการสร้างตุง, ทานตุง
จาก หลักฐาน ตานาน นิราศ ลิลิต และพงศาวดารต่าง ๆ
ได้เขียนถึงอานิสงส์ของการสร้างตุงว่าผูที่สร้างตุงถวายเป็ นพุทธบูชาจะไม่ ตกนรก
้
ได้เกิดในสวรรค์ช้ นดาวดึงส์ ถ้ากลับมาเกิดในโลกมนุษย์ก็จะได้เป็ นใหญ่เป็ นโต ถ้าสร้างอุทิศให้ผตาย
ั
ู้
ผูตายก็จะพ้นจากการไปเป็ นเปรตหลุดพ้นจากบาปกรรมที่ทาไว้จากอานิสงส์ดง
้
ั
กล่าวนี้ทาให้ชาวล้านนานิยมสร้างตุงกันทุกชั้นวรรณะ
่ ั
ซึ่ งรู ปแบบของตุงจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยูกบฐานะทางสังคมของเจ้าของพิธี พื้นฐานความเชื่อของสังคม
วัสดุและความสามารถของคนในท้องถิ่นในการที่จะนาเอาวัสดุที่มี มาประดับตุงโดยใช้เทคนิควิธีการต่าง
ๆ
ใน คัมภีร์ใบลานเรื่ อง อานิสงส์ทานตุง ฉบับวัดแม่ตง ตาบลแม่พริ ก อาเภอแม่พริ ก จังหวัดลาปาง
ั๋
ก็ได้กล่าวถึงอานิสงส์การสร้างเสาตุงและเสาหงส์บูชาพระพุทธเจ้าว่าจะได้ผล
บุญพ้นจากอบายภูมิไปเกิดยังสวรรค์ข้ ึนดาวดึงส์ หางตุงกวัดแกว่งในยามลมพัด
หากพัดแกว่งไปทางทิศตะวันออกผูสร้างตุงก็จกได้เป็ นจักรพรรดิราช
้
ั
หากพัดไปทิศอาคเนย์จกได้เป็ นมหาเศรษฐี พัดในทิศทักษิณจักได้เป็ นเทวดาชั้นมหาราชิก พัดไปทิศหรดีจก
ั
ั
ได้เป็ นพระยาประเทศราช พัดไปทิศปัจจิมจักได้เป็ นพระปัจเจกโพธิ ญาณ
หากพัดทิศพายัพจักได้ทรงปิ ฏกทั้ง 3 พัดไปทิศอุตตระจักได้เป็ นท้าวมหาพรหม
พัดไปทิศอีสานจักได้เป็ นสมเด็จอมริ นทราธิราช หากพัดลงด้านล่างจักได้เป็ นใหญ่ในโลกนี้
หากพัดขึ้นบนอากาศจักได้เป็ นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งและได้พบพระศรี อาริ ยเมตตรัย
สื บสานวัฒนธรรมการใช้ตุง
- 11. จาก คติความเชื่ อเหล่านี้ทาให้การพบรู ปลักษณ์ของตุง เป็ นพุทธศิลป์ สาคัญในวัดต่าง ๆ
ของล้านนาอย่างหลากหลายแม้ในปั จจุบนชาวล้านนาส่ วนใหญ่ยงนิยมสร้างตุงเพื่อ ใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ
ั
ั
ทั้งทางศาสนาประเพณี เกี่ยวกับชีวต ประเพณี เกี่ยวกับการตาย งานเทศกาล และเฉลิมฉลองต่าง ๆ
ิ
ตามคติความเชื่อดั้งเดิม แต่แนวโน้มการใช้ตุงเริ่ มเปลี่ยนไปเนื่องจากบรรดาหน่วยทั้งภาครัฐและเอกชน
มักใช้ตุง ประดับตามสถานที่จดงานต่าง ๆ
ั
เพื่อความสวยงามบางงานนาตุงไปใช้อย่างไม่เหมะสมเป็ นการทาลายคติความเชื่ อง ดั้งเดิมของชาวล้านนา
เช่น การนาตุงไปประดับเวทีประกวดนางงาม เป็ นต้น
บางงานใช้ตุงปั กประดับได้แต่ควรใช้ตุงให้ถูกประเภทและเหมาะสม
หากไม่มีการอนุ รักษ์และศึกษารู ปแบบคติความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ตุงให้เข้าใจ ถ่องแท้แล้ว
อนาคตการใช้ตุงในพิธีการต่าง ๆ ตามคติความเชื่ อเดิมคงจะถูกดัดแปลงให้ผดเพี้ยนไปในที่สุด
ิ
ในปั จจุบนได้มีการผสมผสานวัฒนธรรมประเพณี ของตุงแต่ละท้องที่
ั
ทาให้เราสามารถเห็นตุงบางชนิดที่มีลกษณะที่สวยงามและลวดลายการประดิดประดอยให้สวยงามยิงขึ้น
ั
่
ตามแต่ละท้องถิ่นและวัตถุประสงค์ในการสร้าง วัตถุประสงค์ของการตานตุงนั้น
มีวตถุประสงค์เพื่อถวายเป็ นพุทธบูชาจะไม่ตกนรก ได้เกิดในสวรรค์ช้ นดาวดึงส์
ั
ั
ถ้ากลับมาเกิดในโลกมนุษย์ก็จะเป็ นใหญ่เป็ นโต ถ้าสร้างอุทิศให้ผตาย
ู้
ผูตายก็จะพ้นจากการไปเป็ นเปรตหลุดพ้นจากบาปกรรมที่ทาไว้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว
้
ทาให้ชาวล้านนานิยมสร้างตุงกันทุกชั้นวรรณะ
่ ั
ซึ่ งรู ปแบบของตุงจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยูกบฐานะทางสังคมของเจ้าของพิธี พื้นฐานความเชื่อ
ของคนในสังคม วัสดุและความสามารถของชาวท้องถิ่น ในการที่จะนา เอาวัสดุที่มีมาประดับตุง
โดยใช้เทคนิควิธีการต่าง ๆ
ซึ่ งในแต่ละท้องถิ่นนั้นนิยมสร้างตุงกันตามความเชื่ อและพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาแต่ละท้องถิ่น
วัตถุประสงค์เหมือนกันแต่วิธีการสร้างและรายละเอียดในการสร้างนั้น
่
ต่างกันตามวิถีการดารงชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้น จึงจะเห็นได้วา
แต่ละท้องถิ่นมีลวดลายของตุงที่มีความงดงามแตกต่างกันและความเชื่อของคนล้าน นา
- 12. ส่ วนใหญ่มกจะสอดคล้องกับหลักคาสอนของพระพุทธศาสนา
ั
ชาวล้านนาจะทาการตานตุงในงานประเพณี ต่าง ๆ เช่น งานปี ใหม่ หรื อประเพณี สงกรานต์ของ
ประชาชนจะทาเครื่ องสักการะ คือ ธูป น้ าส้มป่ อย ตุงและ ช่อตุงหรื อธุ ง อันเป็ นเครื่ องสักการะ มี 4 ประเภท
คือ ตุงเดี่ยว หรื อตุงค่าคิง สาหรับบูชาแทนตนเอง ตุงไส้หมู บูชาพระเจดีย ์ พระธาตุท้ งหลาย
ั
ตุงไจยถวายบูชาพระพุทธรู ป เพื่อสร้างความสวัสดีมีชย และช่อหรื อธงชัย สาหรับปั กเครื่ องบูชาต่าง
ั
ๆตุงจัดเป็ นเครี่ องสักการะของล้านนาไทย มีตุงหลายชนิดที่ใช้ในพิธีกรรม เช่น งานฉลอง หรื องานปอย
งานสื บชะตา หรื อขบวนแห่ต่าง ๆ เป็ นต้น
- 13. หลังจากที่ได้ ความรู้ กันมาแล้ ว!!!
>>ทางแหล่ งเรียนรู้ ของเราได้ ยกตัวอย่ าง วิธีการทาตุง
มาฝากสาหรับผู้ที่สนใจหัดตัดตุงแบบง่ ายๆมาฝากกันค่ ะ คือ ตุงไส้ หมู
ส่ วนตุงอืนๆนั้นมีความยาก และความซับซ้ อนมากยากแก่ การอธิบาย!!!
่
วัสดุทใช้ ในการทาตุง
ี่
1.กระดาษาสาหรื อผ้า 2.กระดาษว่าว 3.กระดาษแข็ง 4.ไม้ไผ่ 5.กรรไกร 6.เข็ม 7.เชือก
- 14. 1.นากระดาษว่าว 2 แผ่นๆ ละสี มาซ้ อนกันพับให้ เปนสามเหลียมด้ านเท่า ตัดส่ วนปลายทีเ่ หลือออก
้
่
2.พับครึ่งรู ปสามเหลียมอีก 2 ครั้ง ตัดชายด้ านทีไม่ เท่ากันให้ เป็ นลวดลายสวยงามตามต้ องการ
่
่
3.ใช้ กรรไกรตัดเส้ นตรงจากด้ านทีเ่ ปิ ดได้ เข้ าไปลึกเหลือช่ องว่างไม่ ให้ ขาดไว้ พอประมาณ
กลับด้ านแล้วตัดเส้ นตรงขนานกับเส้ นแรก จากนั้นตัดสลับกันไปตลอดความกว้างจนถึงปลาย
เหลือปลายไว้ ประมาณ 4 เซนติเมตร เพือทาหัวตุง
่
- 16. 5. ตัดกระดาษแข็งเส้ นผ่ าศูนย์ กลางประมาณหนึ่งนิว ทากาวติดด้ านในของหัวตุง ใช้ ดายร้ อยด้ านบน
้
นาไปผูกติดกับปลายไม้ ไผ่ เป็ นอันเสร็จนาไปใช้ งานได้
ขอขอบคุณ ทุกท่ านทีแวะเข้ ามาชม Blogger แหล่ งเรียนรู้ เรื่อง
่
ตุงล้ านนาน่ าอนุรักษ์ ของพวกเรา มากๆ เลยน่ ะค่ ะ
และหวังว่ าแหล่ งความรู้แห่ งนีจะมีประโยชน์ แก่ ผ้ ูทเี่ ข้ าเยียมชมไม่ ม
้
่
ากก็น้อย^___^