SlideShare a Scribd company logo
1 of 16
ตุงล้ านนาน่ าอนุรักษ์

ประวัติของตุงล้ านนา
่
ชาวล้านนาแต่โบราณมีคติความเชื่ อเกี่ยวกับอานิ สงค์การทานตุงอยูมาก ซึ่ งเล่าสื บต่อกันมา
่
หลายชัวอายุคนดัง ตัวอย่างเล่าว่า ”มีกาเผือกคู่หนึ่งออกไข่มา ๕ ฟอง อยูบนต้นไม้ เมื่อเกิดลมพายุ
่
ไข่ท้ งหมดได้พลัดตกลงมา ครั้นพ่อแม่กาเผือกกลับมาไม่เห็นไข่ของพวกตน ก็เกิดความโศกเศร้า
ั
่
จนตรอมใจตายแล้วได้ข้ ึนไปอยูบนสวรรค์ ไข่ท้ งห้าใบต่างถูกไก่ เต่า พญานาค โค และคนซักผ้านาไปเลี้ยง
ั
จนเติมโตเป็ นชายหนุ่มทั้งห้าคน ต่างคนต่างก็มีจิตใจอยากบวช
จึงบวชจนสาเร็ จญาณและมาพบกันโดยบังเอิญ ทั้งห้าองค์มีความกตัญญูกตเวทีต่อผูที่ให้กาเนิด
้
จึงได้สร้างตุงถวายอุทิศให้ กะกุสันทะซึ่ งไก่เป็ นผูเ้ ลี้ยงสร้างรู ปไก่ โกนาคมนะรู ปนาค กัสปะรู ปเต่า
โคตมะรู ปวัว และอริ ยะเมตรัยรู ปค้อนทุบผ้า เมื่อสร้างตุงเสร็ จแล้ว ก็ทาถวายอุทิศ แต่ไปไม่ถึงผูให้กาเนิด
้
กาเผือกจึงต้องมาบอกให้ทาเป็ นประทีปรู ปตีนกาจุดไปจึงจะอุทิศไปถึง”
ั
ตุงสมัยก่อนของชาวเหนือ จึงสัมพันธ์กบพระพุทธเจ้าทั้งห้าองค์
การทาตุงถวายจึงเปรี ยบเสมือนตัวแทนสักการะของการแผ่กุศล
กตัญญูกตเวทีไปถึงผูมีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้ว เราอาจเห็นตุงที่มีรูปไก่ยนอยูบนหัวตุงหมายถึงไก่
้
ื ่
ส่ วนลาตัวและใบของตุงแทนรู ปนาค ลวดลายต่าง ๆ เป็ นตารางเกล็ด หรื อสี่ เหลี่ยมขนมเปี ยกปูน
หมายถึงเต่ า และส่ วนประดิษฐ์เป็ นรู ปกลม หมายถึงตาวัวหรือวัว
นอกจากนี้ยงมีความเชื่อกันว่าวิญญาณผูตายนี้สามารถยึด หรื อปี นป่ ายตุงขึ้นสวรรค์ได้
ั
้
ดังเรื่ องเล่าว่า “กาลครั้ งหนึ่งมีนายพรานซึ่ งเข้าไปล่าสัตว์ในป่ านานนับสิ บ ๆ ปี
่
ผ่านไปที่วดเห็นตุงที่แขวนอยูโบกสบัดสวยงามมาก
ั
เมื่อกลับมาถึงบ้านจึงได้ทาตุงขึ้นเพื่อที่จะไปถวายวัดบูชาพระประธาน ครั้นเมื่อเขาตายไป
ถูกตัดสิ นส่ งลงนรก เนื่ องจากไม่เคยทาความดีเลย มีแต่ฆ่าสัตว์ ยกเว้นแต่ทาตุงถวายวัดเท่านั้น
เมื่อถูกตัดสิ นให้ตกนรก ตุงผืนที่เขาทานั้นได้มาพันดึงเขาให้พนจากนรก นาขึ้นสู่ สวรรค์ได้”
้
“ชาวเหนื อจึงมีความเชื่อว่า การถวายหรื อทานตุงนั้นมีอานิ สงค์หรื อได้บุญอย่างมาก”"ตุง" ของล้านนา
มีลกษณะเป็ นแผ่นวัตถุส่วนปลายแขวนติดกับเสาห้อยเป็ นแผ่นยาวลงมา วัสดุที่ใช้ทาตุงนั้นมีหลายอย่าง
ั
เช่น ไม้ สังกะสี ผ้า กระดาษ ใบลาน เป็ นต้น
ตุงเป็ นสิ่ งที่ทาขึ้นเพื่อใช้ในงานพิธีทางพุทธศาสนา โดยมีขนาด รู ปร่ าง และ รายละเอียดด้านวัสดุตกแต่ง
แตกต่างกันไป ตามความเชื่ อและพิธีกรรมตลอดจนตามความนิยมในแต่ละท้องถิ่นด้วย
วัตถุประสงค์ ของการทาตุง
1. เพือให้ เป็ นสั ญลักษณ์ หมายถึง
่
ธงที่เป็ นเครื่ องหมายพวกหรื อเผ่าต่างๆกาหนดสี สันให้รู้จกจาง่ายเหมือนกับ
ั
ชาติท้ งหลายในโลกที่ใช้ธงเป็ นเครื่ องแทนปรัชญาหรื อความหมายอย่างใดอย่าง หนึ่ง
ั
2. เพือใช้ เป็ นเครื่องพิธี หมายถึง การนาตุงหรื อช่อธงในพิธีเครื่ องบูชาเซ่นสรวง
่
อย่างเช่นการบูชาท้าวจตุโลกบาลเป็ นต้น หากไม่มีช่อธุ งหรื อธง ถือว่าพิธีไม่ครบถ้วน อันเป็ นข้อบกพร่ อง
ทาให้พิธีเสี ยหรื อไม่สมบูรณ์
3. เพือเป็ นศักดิ์ศรีแก่เทพเจ้ า หมายถึง เทพที่สาคัญทั้งหลาย เช่น พระอินทร์ พระนารายณ์
่
มีช่อธงเป็ นเครื่ องหมาย เช่นพระอินทร์ มีธงสี เขียว เป็ นต้น แม้สมมติเทพ เช่น พระมหากษัตริ ย ์
ก็มีธงเป็ นเครื่ องหมายแห่งยศ และศักดิ์ศรี
4. เพือเป็ นเกียรติแก่ บุคคล หมายถึง การมีธุงหรื อมีช่อประจาอยู่
่
เช่นเหล่ากองทหารต่างมีธงชัยเฉลิมพลอันเป็ นเครื่ องหมายแห่ง
เกียรติยศของกองทหารนั้นทาให้ทหาร ภูมิใจในความเป็ นทหารของตน
ตุง กับงานประเพณีต่างๆ
ตุงจาแนกตามการใช้ งาน มีดังนี้
1. ตุง ที่ใช้ประดับตกแต่งสถานที่ที่มีงานสมโภชฉลองถาวรวัตถุทางพระพุทธศาสนา
เพื่อให้เกิดความสวยงาม เป็ นเครื่ องหมายนาทางไปสู่ บริ เวณงาน และใช้ในงานมงคลต่าง ๆ มีดงนี้
ั
ตุงไชย (ตุงไจย) เป็ นตุงขนาดใหญ่ รู ปสี่ เหลี่ยมผืนยาว ถือว่ายิงยาวยิงมีอานิสงค์มาก ตุง ไชยทาด้วยผ้า
่
่
เส้นฝ้ าย เส้นไหม ซึ่ งจะทอเป็ นใยโปร่ ง มีการตกแต่งประดับประดา บ้างก็ทกทอเป็ นลวดลายต่าง ๆ
ั
อย่างสวยงาม ถ้าผืนยาวมากมักใช้ไม่ไผ่ลาโตทาเป็ นเสาตุงใช้ในงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ
ชาวบ้านจะช่วยกันทาตุงไชยมาปั กเรี ยงรายตามสองข้างทางที่จะเข้าสู่ วด
ั
การที่นาตุงไชยมาปั กเพื่อเป็ นการอุทิศส่ วนกุศลให้ญาติผล่วงลับ นอกจากปักได้สองข้างทางเข้าวัดแล้ว
ู้
ยังมีการประดับประดาไว้รอบศาสนสถาน ศาสนวัตถุ ที่ทาพิธีฉลองกันด้วย

รู ปตุงไชย (ตุงไจย)

ตุงใย (ตุงใยแมงมุม) คือ ตุงที่ทาด้วยเส้นด้ายหรื อเส้นไหม ผูกกันคล้ายใยแมงมุม
เพื่อใช้ในพิธีสาคัญทางศาสนาเช่นเดียวกับตุงไชย
หรื อแขวนไว้ในวิหารหน้าพระประธานถวายเป็ นพุทธบูชา
่ ั
การทาตุงชนิ ดนี้ข้ ึนอยูกบความนิยมของแต่ละหมู่บาน
้
รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)

ตุงกระด้าง เป็ น ตุงที่ทาด้วยวัสดุคงรู ป ผืนตุงทาด้วยไม้แกะสลักบ้าง ปูนปั้ นบ้าง
หรื อบางครั้งก็เป็ นโลหะแผ่นฉลุลาย นอกจากนี้ยงมีการประดับตกแต่งด้วยกระจกปั้ นปูนเป็ นลวดลายต่าง ๆ
ั
หรื อฉลุเป็ นลวดลายประดับบนผืนตุง ตุงกระด้างนี้
ผูสร้างมักเป็ นผูบรรดาศักดิ์สูงหรื อมีฐานะทางเศรษฐกิจดีพอเพราะวัสดุที่
้
้
ใช้ต้ งแต่ผนธงจนการประดับตกแต่งต่างมีราคาสู ง และต้องใช้ช่างฝี มือที่ประณี ต
ั ื
ซึ่ งการสร้างก็เพื่อถวายเป็ นพุทธบูชา

รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)

ตุงขอนงวงช้าง หรื อตุงขอนก๋ ม มีลกษณะเป็ นวงแหวน ทาด้วยไม้ไผ่
ั
มัดโยงกันเป็ นปล้องหุ มด้วยกระดาษสี ต่าง ๆ มักผูกติดไว้บริ เวณหน้าพระประธาน
้
รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)

ตุงตัวเปิ้ ง คือตุงประปี เกิด เป็ นตุงทาด้วยกระดาษ หรื อผ้าทอ, พิมพ์หรื อเขียนเป็ นรู ปสัตว์ประจาปี เกิด
นิยมปักบนเจดียทรายในเทศกาลสงกรานต์ หรื อแขวนบริ เวณหน้าพระประธาน
์

รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)

ตุงตะขาบ ตุงจระเข้ เป็ นรู ปสี่ เหลี่ยมผืนผ้า มีรูปตะขาบหรื อจระเข้
่
อยูบนผืนตุงใช้ในงานทอดกฐิน
รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)

ตุงดอกบ้อง หรื อตุงไส้หมู เป็ นตุงที่มีรูปร่ างทรงจอมแห ทาจากกระดาษสี ต่างผูกติดกับกิ่งไม้
หรื อก้านไม้ไผ่เล็ก ๆ ตุงนี้ใช้ในเทศกาลสงกรานต์โดยปั กบนกองเจดียทราย หรื อประดับเครื่ องไทยทานต่าง
์
ๆ

รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)

ตุงค่าคิง เป็ นตุงที่มีรูปร่ างยาวแคบ ความยาวเท่ากับความสู งองผูทาพิธี ผืนตุงทาด้วยกระดาษสี ขาว
้
อาจตกแต่งลวดลายด้วยกระดาษเงิน กระดาษทอง
ตุงค่าคิงที่ใช้ในงานขึ้นบ้านใหม่ที่มีพิธีสืบชาตาพิธีสะเดาะเคราะห์ หรื อปักบูชากองเจดียทราย
์
รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)

ตุงพระบด,พระบฏ,พระบฎ เป็ นตุงทที่มีลกษณะเป็ นผือผ้าใบหรื อกระดาษสี่ เหลี่ยมผืนผ้ามีขนาดต่าง
ั
ๆ ส่ วนมากประมาณ 80 คูณ 100 เซนติเมตร กรอบทั้งสี่ ดานทาด้วยไม้ทาให้ตึง
้
ตุงพระบฎจะเป็ นรู ปพระพุทธรู ปประทับยืน ปางลีลา หรื อบางเปิ ดโลก ลักษณะของการใช้งาน
ตุงพระบฎใช้ประดับไว้ดานหลังของพระประธานในโบสถ์ นอกจากจะใช้ประดับสองข้างพระประธานแล้ว
้
ั
บางแห่งใช้กบพิธีกรรมความเชื่ออีกด้วย เช่น ตุงพระบฏ ที่ใช้ในพิธีเลี้ยงผีปู่แวะย่าแสะที่บานแม่เหี ยะ
้
ตาบลแม่เหี ยะ อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม)

2. ตุงทีใช้ ในการประกอบพิธีงานอวมงคล
่
ตุงสามหาง เป็ นตุงที่อาจเรี ยกชื่อว่า ตุงรู ปคนหรื อตุงผีตาย
ใช้สาหรับนาหน้าศพในสู่ สุสานหรื อเชิงตะกอน
เป็ นตุงที่ประดิษฐ์ข้ ึนเพื่อรวมลักษณะแทนตัวคนเราไว้ดวยกัน
้
คือส่ วนหัวและลาตัวคือส่ วนที่กางออกเป็ นแขนขาซึ่ งบางท่านกล่าวว่าเป็ นคติ
นิยมเกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิด เพื่อเน้นธรรมานุสติถึงความหลุดพ้น ได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ตุงชนิดนี้บางท้องที่ (ลาปาง) เรี ยกตุงฮ่างคน หรื อตุงอ่องแอ่ง

ตุงเหล็ก, ตุงตอง ทาด้วยแผ่นสังกะสี หรื อแผ่นทองเหลืองขนาดเล็กยาวประมาณ 1 คืบ
กว้างประมาณ 2 นิ้ว มีคนตุงทาจากเส้นลวดหรื อไม้ไผ่ก็ได้ ส่ วนมากจะทาอย่างละ 108 อัน
ั
มัดติดเป็ นพวงโดยทาฐานตั้งไว้ หรื อบางแห่งจะวางไว้บนโลงศพ เมื่อเสร็ จพิธีแล้ว
ชาวบ้านมักจะนามาไว้ที่วด ตามฐานชุกชี เมื่อจาเป็ นต้องใช้งานอีก ก็ไม่ตองทาขึ้นมาใหม่
ั
้

่
ตุงขอนนางผาน มีลกษณะเป็ นตุงขนาดเล็กประดับอยูที่ปลายทั้งสองข้างของก้นไม้เล็ก ๆ
ั
่ ้
ที่ติดขวางบนตุงผืนใหญ่ที่เป็ นระยะ ๆ บางครั้งทาเป็ นรู ปทรงคล้ายพูหอย
ตุงนี้ทาเพื่ออุทิศส่ วนกุศลให้ผตายที่ฐานะยากจนหรื อไร้ญาติ
ู้

3. ตุงที่ใช้ประกอบการเทศน์ จะใช้ประกอบในพิธีงานเทศกาล ตั้งธรรมหลวง ในเดือนยีเ่ พ็ง
(วันเพ็ญเดือนสิ บสอง) หรื องานตั้งธรรมหลวงเดือนสี่ เพ็ง (วันเพ็ญเดือนยี)
่
โดยการปั กตุงดังกล่าวนี้ในกัณฑ์เทศน์ หรื อประดับอาคารที่มีเทศน์ เช่น โบสถ์ วิหาร หรื อศาลาบาตร
เป็ นต้น ทั้งนี้ตามคติความเชื่ อองคนในล้านนาทาตุงใช้ประกอบการเทศน์ข้ ึน ก็เพื่อถวายเป็ นพุทธบูชา
และเชื่อว่าจะได้อานิสงส์มากตุงที่ใช้ประกอบการเทศน์สอดคล้องกับการเทศน์ ธรรมเรื่ องต่าง ๆ ในทศชาติ
ดังต่อไปนี้
ั
1. ตุงดิน
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์แรกคือ เตมิยชาดก
ั
2. ตุงทราย ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 2 คือ ชนกกุมาร
ั
3. ตุงไม้
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 3 คือ สุ วรรณสาม
ั
4. ตุงจีน
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 4 คือ เนมิราช
ั
5. ตุงเหียก
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 5 คือ มโหสถ
ั
6. ตุงเหล็ก ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 6 คือ ภูริทต
ั
ั
7. ตุงตอง
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 7 คือ จันทกุมารชาดก
ั
8. ตุงข้าวเปลือก ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 8 คือ นารถชาดก
ั
9. ตุงข้าวสาร ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 9 คือ วิธูรบัณฑิต
ั
10. ตุงเงิน
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 10 คือ เวสสันดร
ั
11. ตุงคา
ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์เรื่ อง สิ ตธาตถ์หรื อสิ ตาตถ์ออกบวช

4. ช่อ คือตุงชนิดหนึ่งแต่มีขนาดเล็ก เรี ยกชื่อตามลักษณะการใช้งานหรื อรู ปทรง
ช่อน้อย เป็ นช่อขนาดเล็ก ใช้ปักเจดียในเทศกาลสงกรานต์, ในการสะเดาะเคราะห์, การสื บชาตา,
์
การขึ้นท้าวทั้งสี่ , การถาวายเป็ นพุทธบูชา
ช่อช้าง ทาด้วยผ้าแพรสี ต่าง ๆ ปั กดิ้นอย่างสวยงามใช้ถือนาหน้าครัวทาง
หรื อใช้ปักสลับกับตุงไชยในงานปอยหลวง
อานิสงส์ของการสร้างตุง, ทานตุง
จาก หลักฐาน ตานาน นิราศ ลิลิต และพงศาวดารต่าง ๆ
ได้เขียนถึงอานิสงส์ของการสร้างตุงว่าผูที่สร้างตุงถวายเป็ นพุทธบูชาจะไม่ ตกนรก
้
ได้เกิดในสวรรค์ช้ นดาวดึงส์ ถ้ากลับมาเกิดในโลกมนุษย์ก็จะได้เป็ นใหญ่เป็ นโต ถ้าสร้างอุทิศให้ผตาย
ั
ู้
ผูตายก็จะพ้นจากการไปเป็ นเปรตหลุดพ้นจากบาปกรรมที่ทาไว้จากอานิสงส์ดง
้
ั
กล่าวนี้ทาให้ชาวล้านนานิยมสร้างตุงกันทุกชั้นวรรณะ
่ ั
ซึ่ งรู ปแบบของตุงจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยูกบฐานะทางสังคมของเจ้าของพิธี พื้นฐานความเชื่อของสังคม
วัสดุและความสามารถของคนในท้องถิ่นในการที่จะนาเอาวัสดุที่มี มาประดับตุงโดยใช้เทคนิควิธีการต่าง
ๆ
ใน คัมภีร์ใบลานเรื่ อง อานิสงส์ทานตุง ฉบับวัดแม่ตง ตาบลแม่พริ ก อาเภอแม่พริ ก จังหวัดลาปาง
ั๋
ก็ได้กล่าวถึงอานิสงส์การสร้างเสาตุงและเสาหงส์บูชาพระพุทธเจ้าว่าจะได้ผล
บุญพ้นจากอบายภูมิไปเกิดยังสวรรค์ข้ ึนดาวดึงส์ หางตุงกวัดแกว่งในยามลมพัด
หากพัดแกว่งไปทางทิศตะวันออกผูสร้างตุงก็จกได้เป็ นจักรพรรดิราช
้
ั
หากพัดไปทิศอาคเนย์จกได้เป็ นมหาเศรษฐี พัดในทิศทักษิณจักได้เป็ นเทวดาชั้นมหาราชิก พัดไปทิศหรดีจก
ั
ั
ได้เป็ นพระยาประเทศราช พัดไปทิศปัจจิมจักได้เป็ นพระปัจเจกโพธิ ญาณ
หากพัดทิศพายัพจักได้ทรงปิ ฏกทั้ง 3 พัดไปทิศอุตตระจักได้เป็ นท้าวมหาพรหม
พัดไปทิศอีสานจักได้เป็ นสมเด็จอมริ นทราธิราช หากพัดลงด้านล่างจักได้เป็ นใหญ่ในโลกนี้
หากพัดขึ้นบนอากาศจักได้เป็ นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งและได้พบพระศรี อาริ ยเมตตรัย
สื บสานวัฒนธรรมการใช้ตุง
จาก คติความเชื่ อเหล่านี้ทาให้การพบรู ปลักษณ์ของตุง เป็ นพุทธศิลป์ สาคัญในวัดต่าง ๆ
ของล้านนาอย่างหลากหลายแม้ในปั จจุบนชาวล้านนาส่ วนใหญ่ยงนิยมสร้างตุงเพื่อ ใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ
ั
ั
ทั้งทางศาสนาประเพณี เกี่ยวกับชีวต ประเพณี เกี่ยวกับการตาย งานเทศกาล และเฉลิมฉลองต่าง ๆ
ิ
ตามคติความเชื่อดั้งเดิม แต่แนวโน้มการใช้ตุงเริ่ มเปลี่ยนไปเนื่องจากบรรดาหน่วยทั้งภาครัฐและเอกชน
มักใช้ตุง ประดับตามสถานที่จดงานต่าง ๆ
ั
เพื่อความสวยงามบางงานนาตุงไปใช้อย่างไม่เหมะสมเป็ นการทาลายคติความเชื่ อง ดั้งเดิมของชาวล้านนา
เช่น การนาตุงไปประดับเวทีประกวดนางงาม เป็ นต้น
บางงานใช้ตุงปั กประดับได้แต่ควรใช้ตุงให้ถูกประเภทและเหมาะสม
หากไม่มีการอนุ รักษ์และศึกษารู ปแบบคติความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ตุงให้เข้าใจ ถ่องแท้แล้ว
อนาคตการใช้ตุงในพิธีการต่าง ๆ ตามคติความเชื่ อเดิมคงจะถูกดัดแปลงให้ผดเพี้ยนไปในที่สุด
ิ
ในปั จจุบนได้มีการผสมผสานวัฒนธรรมประเพณี ของตุงแต่ละท้องที่
ั
ทาให้เราสามารถเห็นตุงบางชนิดที่มีลกษณะที่สวยงามและลวดลายการประดิดประดอยให้สวยงามยิงขึ้น
ั
่
ตามแต่ละท้องถิ่นและวัตถุประสงค์ในการสร้าง วัตถุประสงค์ของการตานตุงนั้น
มีวตถุประสงค์เพื่อถวายเป็ นพุทธบูชาจะไม่ตกนรก ได้เกิดในสวรรค์ช้ นดาวดึงส์
ั
ั
ถ้ากลับมาเกิดในโลกมนุษย์ก็จะเป็ นใหญ่เป็ นโต ถ้าสร้างอุทิศให้ผตาย
ู้
ผูตายก็จะพ้นจากการไปเป็ นเปรตหลุดพ้นจากบาปกรรมที่ทาไว้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว
้
ทาให้ชาวล้านนานิยมสร้างตุงกันทุกชั้นวรรณะ
่ ั
ซึ่ งรู ปแบบของตุงจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยูกบฐานะทางสังคมของเจ้าของพิธี พื้นฐานความเชื่อ
ของคนในสังคม วัสดุและความสามารถของชาวท้องถิ่น ในการที่จะนา เอาวัสดุที่มีมาประดับตุง
โดยใช้เทคนิควิธีการต่าง ๆ
ซึ่ งในแต่ละท้องถิ่นนั้นนิยมสร้างตุงกันตามความเชื่ อและพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาแต่ละท้องถิ่น
วัตถุประสงค์เหมือนกันแต่วิธีการสร้างและรายละเอียดในการสร้างนั้น
่
ต่างกันตามวิถีการดารงชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้น จึงจะเห็นได้วา
แต่ละท้องถิ่นมีลวดลายของตุงที่มีความงดงามแตกต่างกันและความเชื่อของคนล้าน นา
ส่ วนใหญ่มกจะสอดคล้องกับหลักคาสอนของพระพุทธศาสนา
ั

ชาวล้านนาจะทาการตานตุงในงานประเพณี ต่าง ๆ เช่น งานปี ใหม่ หรื อประเพณี สงกรานต์ของ
ประชาชนจะทาเครื่ องสักการะ คือ ธูป น้ าส้มป่ อย ตุงและ ช่อตุงหรื อธุ ง อันเป็ นเครื่ องสักการะ มี 4 ประเภท
คือ ตุงเดี่ยว หรื อตุงค่าคิง สาหรับบูชาแทนตนเอง ตุงไส้หมู บูชาพระเจดีย ์ พระธาตุท้ งหลาย
ั
ตุงไจยถวายบูชาพระพุทธรู ป เพื่อสร้างความสวัสดีมีชย และช่อหรื อธงชัย สาหรับปั กเครื่ องบูชาต่าง
ั
ๆตุงจัดเป็ นเครี่ องสักการะของล้านนาไทย มีตุงหลายชนิดที่ใช้ในพิธีกรรม เช่น งานฉลอง หรื องานปอย
งานสื บชะตา หรื อขบวนแห่ต่าง ๆ เป็ นต้น
หลังจากที่ได้ ความรู้ กันมาแล้ ว!!!
>>ทางแหล่ งเรียนรู้ ของเราได้ ยกตัวอย่ าง วิธีการทาตุง
มาฝากสาหรับผู้ที่สนใจหัดตัดตุงแบบง่ ายๆมาฝากกันค่ ะ คือ ตุงไส้ หมู
ส่ วนตุงอืนๆนั้นมีความยาก และความซับซ้ อนมากยากแก่ การอธิบาย!!!
่
วัสดุทใช้ ในการทาตุง
ี่

1.กระดาษาสาหรื อผ้า 2.กระดาษว่าว 3.กระดาษแข็ง 4.ไม้ไผ่ 5.กรรไกร 6.เข็ม 7.เชือก
1.นากระดาษว่าว 2 แผ่นๆ ละสี มาซ้ อนกันพับให้ เปนสามเหลียมด้ านเท่า ตัดส่ วนปลายทีเ่ หลือออก
้
่

2.พับครึ่งรู ปสามเหลียมอีก 2 ครั้ง ตัดชายด้ านทีไม่ เท่ากันให้ เป็ นลวดลายสวยงามตามต้ องการ
่
่

3.ใช้ กรรไกรตัดเส้ นตรงจากด้ านทีเ่ ปิ ดได้ เข้ าไปลึกเหลือช่ องว่างไม่ ให้ ขาดไว้ พอประมาณ
กลับด้ านแล้วตัดเส้ นตรงขนานกับเส้ นแรก จากนั้นตัดสลับกันไปตลอดความกว้างจนถึงปลาย
เหลือปลายไว้ ประมาณ 4 เซนติเมตร เพือทาหัวตุง
่
4.ตัดเสร็จแล้ววางลงให้ เหมือนเดิมแล้วเปิ ดด้ านข้ างทีซ้อนกันออกจนเปนสาม เหลี่ยมด้ านเท่า
่
้
จับปลายด้ ารทีซ้อนกันเปิ ดเปนสี่ เหลี่ยมทั้งสองแผ่ น จับตรงกลางกระดาษยกขึน
่
้
้
5. ตัดกระดาษแข็งเส้ นผ่ าศูนย์ กลางประมาณหนึ่งนิว ทากาวติดด้ านในของหัวตุง ใช้ ดายร้ อยด้ านบน
้
นาไปผูกติดกับปลายไม้ ไผ่ เป็ นอันเสร็จนาไปใช้ งานได้

ขอขอบคุณ ทุกท่ านทีแวะเข้ ามาชม Blogger แหล่ งเรียนรู้ เรื่อง
่
ตุงล้ านนาน่ าอนุรักษ์ ของพวกเรา มากๆ เลยน่ ะค่ ะ
และหวังว่ าแหล่ งความรู้แห่ งนีจะมีประโยชน์ แก่ ผ้ ูทเี่ ข้ าเยียมชมไม่ ม
้
่
ากก็น้อย^___^

More Related Content

What's hot

วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัดวรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัดThiranan Suphiphongsakorn
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Jariya Huangjing
 
แผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครเรื่อง ขุนช้างขุนแผน
แผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครเรื่อง ขุนช้างขุนแผนแผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครเรื่อง ขุนช้างขุนแผน
แผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครเรื่อง ขุนช้างขุนแผนChittraporn Phalao
 
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จวิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จNat Ty
 
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจDrsek Sai
 
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์krubuatoom
 
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อ
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อแบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อ
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อkrupornpana55
 
โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย
โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย
โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย Nawakhun Saensen
 
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทานโครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทานRawinnipha Joy
 
โวหารในการเขียน
โวหารในการเขียนโวหารในการเขียน
โวหารในการเขียนkrubuatoom
 
ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์Padvee Academy
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8Aungkana Na Na
 
ประโยคความซ้อน
ประโยคความซ้อนประโยคความซ้อน
ประโยคความซ้อนพัน พัน
 
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ 58
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์  58กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์  58
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ 58renusaowiang
 
การโน้มน้าวใจ
การโน้มน้าวใจการโน้มน้าวใจ
การโน้มน้าวใจkingkarn somchit
 
กัณฑ์มัทรี
กัณฑ์มัทรีกัณฑ์มัทรี
กัณฑ์มัทรีMilky' __
 
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีWarodom Techasrisutee
 
สามัคคีคำฉันท์.Ppt 34
สามัคคีคำฉันท์.Ppt 34สามัคคีคำฉันท์.Ppt 34
สามัคคีคำฉันท์.Ppt 34Kittisak Chumnumset
 
โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5
โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5
โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5kessara61977
 

What's hot (20)

วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัดวรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน พร้อมแบบฝึกหัด
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
แผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครเรื่อง ขุนช้างขุนแผน
แผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครเรื่อง ขุนช้างขุนแผนแผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครเรื่อง ขุนช้างขุนแผน
แผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครเรื่อง ขุนช้างขุนแผน
 
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จวิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
 
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ
การสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ
 
โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์โวหารภาพพจน์
โวหารภาพพจน์
 
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อ
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อแบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อ
แบบทดสอบพร้อมเฉลยรายตัวชี้วัดร่วมสร้างสรรค์ ท.ศ..Docx 40 ข้อ
 
โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย
โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย
โครงงาน เรื่อง การศึกษาปัญหาการอ่านหนังสือของคนไทย
 
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทานโครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
 
โวหารในการเขียน
โวหารในการเขียนโวหารในการเขียน
โวหารในการเขียน
 
ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์
 
โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8โครงงานพัฒนาเกม 8
โครงงานพัฒนาเกม 8
 
ประโยคความซ้อน
ประโยคความซ้อนประโยคความซ้อน
ประโยคความซ้อน
 
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ 58
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์  58กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์  58
กิตติกรรมประกาศ บทคัดย่อ โครงงานทดลองวิทยาศาสตร์ 58
 
การโน้มน้าวใจ
การโน้มน้าวใจการโน้มน้าวใจ
การโน้มน้าวใจ
 
กัณฑ์มัทรี
กัณฑ์มัทรีกัณฑ์มัทรี
กัณฑ์มัทรี
 
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
 
สามัคคีคำฉันท์.Ppt 34
สามัคคีคำฉันท์.Ppt 34สามัคคีคำฉันท์.Ppt 34
สามัคคีคำฉันท์.Ppt 34
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5
โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5
โครงงานสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนนักเรียนชั้น ม.4-5
 

Similar to ตุงล้านนา

ต งล านนา
ต งล านนาต งล านนา
ต งล านนาAlyssa Ny
 
งานสังคม ภาคเหนือ
งานสังคม ภาคเหนืองานสังคม ภาคเหนือ
งานสังคม ภาคเหนือtonsocial
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านในภาคใต้
เครื่องดนตรีพื้นบ้านในภาคใต้เครื่องดนตรีพื้นบ้านในภาคใต้
เครื่องดนตรีพื้นบ้านในภาคใต้Mint'moy Mimi
 
จางหนัก
จางหนักจางหนัก
จางหนักleam2531
 
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวา
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวาพิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวา
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวาmoowhanza
 
ผ้าภูคัคนี
ผ้าภูคัคนีผ้าภูคัคนี
ผ้าภูคัคนีathiwatpc
 
บ้านจ๊างนัก,,,
บ้านจ๊างนัก,,,บ้านจ๊างนัก,,,
บ้านจ๊างนัก,,,moowhanza
 
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุงบ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุงPN17
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือtonsocial
 
บ้านจ๊างนัก
บ้านจ๊างนักบ้านจ๊างนัก
บ้านจ๊างนักPN17
 
วัฒนธรรมประเภณีเเละอาหารภาคอีสาน
วัฒนธรรมประเภณีเเละอาหารภาคอีสานวัฒนธรรมประเภณีเเละอาหารภาคอีสาน
วัฒนธรรมประเภณีเเละอาหารภาคอีสานJannarong
 
ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..pawidchaya
 
ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..pawidchaya
 

Similar to ตุงล้านนา (20)

ต งล านนา
ต งล านนาต งล านนา
ต งล านนา
 
งานสังคม ภาคเหนือ
งานสังคม ภาคเหนืองานสังคม ภาคเหนือ
งานสังคม ภาคเหนือ
 
บ้านจ๊างนัก1
บ้านจ๊างนัก1บ้านจ๊างนัก1
บ้านจ๊างนัก1
 
เครื่องดนตรีพื้นบ้านในภาคใต้
เครื่องดนตรีพื้นบ้านในภาคใต้เครื่องดนตรีพื้นบ้านในภาคใต้
เครื่องดนตรีพื้นบ้านในภาคใต้
 
จางหนัก
จางหนักจางหนัก
จางหนัก
 
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวา
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวาพิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวา
พิพิธภัณฑ์ บ้านจ๊างนัก ศิวา
 
บทที่ 1.docx
บทที่ 1.docxบทที่ 1.docx
บทที่ 1.docx
 
งานบ้านถวาย
งานบ้านถวายงานบ้านถวาย
งานบ้านถวาย
 
ใบความรู้ ที่ 1
ใบความรู้ ที่ 1ใบความรู้ ที่ 1
ใบความรู้ ที่ 1
 
ผ้าภูคัคนี
ผ้าภูคัคนีผ้าภูคัคนี
ผ้าภูคัคนี
 
บ้านจ๊างนัก,,,
บ้านจ๊างนัก,,,บ้านจ๊างนัก,,,
บ้านจ๊างนัก,,,
 
หนึ่ง
หนึ่งหนึ่ง
หนึ่ง
 
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุงบ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
บ้านจ๊างนัก บ้านถวาย บ้านเหมืองกุง
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
 
บ้านจ๊างนัก
บ้านจ๊างนักบ้านจ๊างนัก
บ้านจ๊างนัก
 
วัฒนธรรมประเภณีเเละอาหารภาคอีสาน
วัฒนธรรมประเภณีเเละอาหารภาคอีสานวัฒนธรรมประเภณีเเละอาหารภาคอีสาน
วัฒนธรรมประเภณีเเละอาหารภาคอีสาน
 
ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..
 
ถอดบทเรียน
ถอดบทเรียนถอดบทเรียน
ถอดบทเรียน
 
ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..ถอดบทเรีย..
ถอดบทเรีย..
 
1
11
1
 

More from Alyssa Ny

ต งล านนา1111
ต งล านนา1111ต งล านนา1111
ต งล านนา1111Alyssa Ny
 
โครงงานต ง ต_ง
โครงงานต ง ต_งโครงงานต ง ต_ง
โครงงานต ง ต_งAlyssa Ny
 
ต งล านนา1111
ต งล านนา1111ต งล านนา1111
ต งล านนา1111Alyssa Ny
 
โครงงานต ง ต_ง
โครงงานต ง ต_งโครงงานต ง ต_ง
โครงงานต ง ต_งAlyssa Ny
 
ตุงล้านนา
ตุงล้านนาตุงล้านนา
ตุงล้านนาAlyssa Ny
 
ตุงล้านนา
ตุงล้านนาตุงล้านนา
ตุงล้านนาAlyssa Ny
 
โครงงานคอมพ วเตอร ค_นเพลงเก_ามาแดนซ_
โครงงานคอมพ วเตอร ค_นเพลงเก_ามาแดนซ_โครงงานคอมพ วเตอร ค_นเพลงเก_ามาแดนซ_
โครงงานคอมพ วเตอร ค_นเพลงเก_ามาแดนซ_Alyssa Ny
 

More from Alyssa Ny (7)

ต งล านนา1111
ต งล านนา1111ต งล านนา1111
ต งล านนา1111
 
โครงงานต ง ต_ง
โครงงานต ง ต_งโครงงานต ง ต_ง
โครงงานต ง ต_ง
 
ต งล านนา1111
ต งล านนา1111ต งล านนา1111
ต งล านนา1111
 
โครงงานต ง ต_ง
โครงงานต ง ต_งโครงงานต ง ต_ง
โครงงานต ง ต_ง
 
ตุงล้านนา
ตุงล้านนาตุงล้านนา
ตุงล้านนา
 
ตุงล้านนา
ตุงล้านนาตุงล้านนา
ตุงล้านนา
 
โครงงานคอมพ วเตอร ค_นเพลงเก_ามาแดนซ_
โครงงานคอมพ วเตอร ค_นเพลงเก_ามาแดนซ_โครงงานคอมพ วเตอร ค_นเพลงเก_ามาแดนซ_
โครงงานคอมพ วเตอร ค_นเพลงเก_ามาแดนซ_
 

ตุงล้านนา

  • 1. ตุงล้ านนาน่ าอนุรักษ์ ประวัติของตุงล้ านนา ่ ชาวล้านนาแต่โบราณมีคติความเชื่ อเกี่ยวกับอานิ สงค์การทานตุงอยูมาก ซึ่ งเล่าสื บต่อกันมา ่ หลายชัวอายุคนดัง ตัวอย่างเล่าว่า ”มีกาเผือกคู่หนึ่งออกไข่มา ๕ ฟอง อยูบนต้นไม้ เมื่อเกิดลมพายุ ่ ไข่ท้ งหมดได้พลัดตกลงมา ครั้นพ่อแม่กาเผือกกลับมาไม่เห็นไข่ของพวกตน ก็เกิดความโศกเศร้า ั ่ จนตรอมใจตายแล้วได้ข้ ึนไปอยูบนสวรรค์ ไข่ท้ งห้าใบต่างถูกไก่ เต่า พญานาค โค และคนซักผ้านาไปเลี้ยง ั จนเติมโตเป็ นชายหนุ่มทั้งห้าคน ต่างคนต่างก็มีจิตใจอยากบวช จึงบวชจนสาเร็ จญาณและมาพบกันโดยบังเอิญ ทั้งห้าองค์มีความกตัญญูกตเวทีต่อผูที่ให้กาเนิด ้ จึงได้สร้างตุงถวายอุทิศให้ กะกุสันทะซึ่ งไก่เป็ นผูเ้ ลี้ยงสร้างรู ปไก่ โกนาคมนะรู ปนาค กัสปะรู ปเต่า โคตมะรู ปวัว และอริ ยะเมตรัยรู ปค้อนทุบผ้า เมื่อสร้างตุงเสร็ จแล้ว ก็ทาถวายอุทิศ แต่ไปไม่ถึงผูให้กาเนิด ้ กาเผือกจึงต้องมาบอกให้ทาเป็ นประทีปรู ปตีนกาจุดไปจึงจะอุทิศไปถึง” ั ตุงสมัยก่อนของชาวเหนือ จึงสัมพันธ์กบพระพุทธเจ้าทั้งห้าองค์ การทาตุงถวายจึงเปรี ยบเสมือนตัวแทนสักการะของการแผ่กุศล กตัญญูกตเวทีไปถึงผูมีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้ว เราอาจเห็นตุงที่มีรูปไก่ยนอยูบนหัวตุงหมายถึงไก่ ้ ื ่ ส่ วนลาตัวและใบของตุงแทนรู ปนาค ลวดลายต่าง ๆ เป็ นตารางเกล็ด หรื อสี่ เหลี่ยมขนมเปี ยกปูน หมายถึงเต่ า และส่ วนประดิษฐ์เป็ นรู ปกลม หมายถึงตาวัวหรือวัว นอกจากนี้ยงมีความเชื่อกันว่าวิญญาณผูตายนี้สามารถยึด หรื อปี นป่ ายตุงขึ้นสวรรค์ได้ ั ้ ดังเรื่ องเล่าว่า “กาลครั้ งหนึ่งมีนายพรานซึ่ งเข้าไปล่าสัตว์ในป่ านานนับสิ บ ๆ ปี
  • 2. ่ ผ่านไปที่วดเห็นตุงที่แขวนอยูโบกสบัดสวยงามมาก ั เมื่อกลับมาถึงบ้านจึงได้ทาตุงขึ้นเพื่อที่จะไปถวายวัดบูชาพระประธาน ครั้นเมื่อเขาตายไป ถูกตัดสิ นส่ งลงนรก เนื่ องจากไม่เคยทาความดีเลย มีแต่ฆ่าสัตว์ ยกเว้นแต่ทาตุงถวายวัดเท่านั้น เมื่อถูกตัดสิ นให้ตกนรก ตุงผืนที่เขาทานั้นได้มาพันดึงเขาให้พนจากนรก นาขึ้นสู่ สวรรค์ได้” ้ “ชาวเหนื อจึงมีความเชื่อว่า การถวายหรื อทานตุงนั้นมีอานิ สงค์หรื อได้บุญอย่างมาก”"ตุง" ของล้านนา มีลกษณะเป็ นแผ่นวัตถุส่วนปลายแขวนติดกับเสาห้อยเป็ นแผ่นยาวลงมา วัสดุที่ใช้ทาตุงนั้นมีหลายอย่าง ั เช่น ไม้ สังกะสี ผ้า กระดาษ ใบลาน เป็ นต้น ตุงเป็ นสิ่ งที่ทาขึ้นเพื่อใช้ในงานพิธีทางพุทธศาสนา โดยมีขนาด รู ปร่ าง และ รายละเอียดด้านวัสดุตกแต่ง แตกต่างกันไป ตามความเชื่ อและพิธีกรรมตลอดจนตามความนิยมในแต่ละท้องถิ่นด้วย วัตถุประสงค์ ของการทาตุง 1. เพือให้ เป็ นสั ญลักษณ์ หมายถึง ่ ธงที่เป็ นเครื่ องหมายพวกหรื อเผ่าต่างๆกาหนดสี สันให้รู้จกจาง่ายเหมือนกับ ั ชาติท้ งหลายในโลกที่ใช้ธงเป็ นเครื่ องแทนปรัชญาหรื อความหมายอย่างใดอย่าง หนึ่ง ั 2. เพือใช้ เป็ นเครื่องพิธี หมายถึง การนาตุงหรื อช่อธงในพิธีเครื่ องบูชาเซ่นสรวง ่ อย่างเช่นการบูชาท้าวจตุโลกบาลเป็ นต้น หากไม่มีช่อธุ งหรื อธง ถือว่าพิธีไม่ครบถ้วน อันเป็ นข้อบกพร่ อง ทาให้พิธีเสี ยหรื อไม่สมบูรณ์ 3. เพือเป็ นศักดิ์ศรีแก่เทพเจ้ า หมายถึง เทพที่สาคัญทั้งหลาย เช่น พระอินทร์ พระนารายณ์ ่ มีช่อธงเป็ นเครื่ องหมาย เช่นพระอินทร์ มีธงสี เขียว เป็ นต้น แม้สมมติเทพ เช่น พระมหากษัตริ ย ์ ก็มีธงเป็ นเครื่ องหมายแห่งยศ และศักดิ์ศรี 4. เพือเป็ นเกียรติแก่ บุคคล หมายถึง การมีธุงหรื อมีช่อประจาอยู่ ่ เช่นเหล่ากองทหารต่างมีธงชัยเฉลิมพลอันเป็ นเครื่ องหมายแห่ง เกียรติยศของกองทหารนั้นทาให้ทหาร ภูมิใจในความเป็ นทหารของตน
  • 3. ตุง กับงานประเพณีต่างๆ ตุงจาแนกตามการใช้ งาน มีดังนี้ 1. ตุง ที่ใช้ประดับตกแต่งสถานที่ที่มีงานสมโภชฉลองถาวรวัตถุทางพระพุทธศาสนา เพื่อให้เกิดความสวยงาม เป็ นเครื่ องหมายนาทางไปสู่ บริ เวณงาน และใช้ในงานมงคลต่าง ๆ มีดงนี้ ั ตุงไชย (ตุงไจย) เป็ นตุงขนาดใหญ่ รู ปสี่ เหลี่ยมผืนยาว ถือว่ายิงยาวยิงมีอานิสงค์มาก ตุง ไชยทาด้วยผ้า ่ ่ เส้นฝ้ าย เส้นไหม ซึ่ งจะทอเป็ นใยโปร่ ง มีการตกแต่งประดับประดา บ้างก็ทกทอเป็ นลวดลายต่าง ๆ ั อย่างสวยงาม ถ้าผืนยาวมากมักใช้ไม่ไผ่ลาโตทาเป็ นเสาตุงใช้ในงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ชาวบ้านจะช่วยกันทาตุงไชยมาปั กเรี ยงรายตามสองข้างทางที่จะเข้าสู่ วด ั การที่นาตุงไชยมาปั กเพื่อเป็ นการอุทิศส่ วนกุศลให้ญาติผล่วงลับ นอกจากปักได้สองข้างทางเข้าวัดแล้ว ู้ ยังมีการประดับประดาไว้รอบศาสนสถาน ศาสนวัตถุ ที่ทาพิธีฉลองกันด้วย รู ปตุงไชย (ตุงไจย) ตุงใย (ตุงใยแมงมุม) คือ ตุงที่ทาด้วยเส้นด้ายหรื อเส้นไหม ผูกกันคล้ายใยแมงมุม เพื่อใช้ในพิธีสาคัญทางศาสนาเช่นเดียวกับตุงไชย หรื อแขวนไว้ในวิหารหน้าพระประธานถวายเป็ นพุทธบูชา ่ ั การทาตุงชนิ ดนี้ข้ ึนอยูกบความนิยมของแต่ละหมู่บาน ้
  • 4. รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม) ตุงกระด้าง เป็ น ตุงที่ทาด้วยวัสดุคงรู ป ผืนตุงทาด้วยไม้แกะสลักบ้าง ปูนปั้ นบ้าง หรื อบางครั้งก็เป็ นโลหะแผ่นฉลุลาย นอกจากนี้ยงมีการประดับตกแต่งด้วยกระจกปั้ นปูนเป็ นลวดลายต่าง ๆ ั หรื อฉลุเป็ นลวดลายประดับบนผืนตุง ตุงกระด้างนี้ ผูสร้างมักเป็ นผูบรรดาศักดิ์สูงหรื อมีฐานะทางเศรษฐกิจดีพอเพราะวัสดุที่ ้ ้ ใช้ต้ งแต่ผนธงจนการประดับตกแต่งต่างมีราคาสู ง และต้องใช้ช่างฝี มือที่ประณี ต ั ื ซึ่ งการสร้างก็เพื่อถวายเป็ นพุทธบูชา รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม) ตุงขอนงวงช้าง หรื อตุงขอนก๋ ม มีลกษณะเป็ นวงแหวน ทาด้วยไม้ไผ่ ั มัดโยงกันเป็ นปล้องหุ มด้วยกระดาษสี ต่าง ๆ มักผูกติดไว้บริ เวณหน้าพระประธาน ้
  • 5. รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม) ตุงตัวเปิ้ ง คือตุงประปี เกิด เป็ นตุงทาด้วยกระดาษ หรื อผ้าทอ, พิมพ์หรื อเขียนเป็ นรู ปสัตว์ประจาปี เกิด นิยมปักบนเจดียทรายในเทศกาลสงกรานต์ หรื อแขวนบริ เวณหน้าพระประธาน ์ รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม) ตุงตะขาบ ตุงจระเข้ เป็ นรู ปสี่ เหลี่ยมผืนผ้า มีรูปตะขาบหรื อจระเข้ ่ อยูบนผืนตุงใช้ในงานทอดกฐิน
  • 6. รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม) ตุงดอกบ้อง หรื อตุงไส้หมู เป็ นตุงที่มีรูปร่ างทรงจอมแห ทาจากกระดาษสี ต่างผูกติดกับกิ่งไม้ หรื อก้านไม้ไผ่เล็ก ๆ ตุงนี้ใช้ในเทศกาลสงกรานต์โดยปั กบนกองเจดียทราย หรื อประดับเครื่ องไทยทานต่าง ์ ๆ รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม) ตุงค่าคิง เป็ นตุงที่มีรูปร่ างยาวแคบ ความยาวเท่ากับความสู งองผูทาพิธี ผืนตุงทาด้วยกระดาษสี ขาว ้ อาจตกแต่งลวดลายด้วยกระดาษเงิน กระดาษทอง ตุงค่าคิงที่ใช้ในงานขึ้นบ้านใหม่ที่มีพิธีสืบชาตาพิธีสะเดาะเคราะห์ หรื อปักบูชากองเจดียทราย ์
  • 7. รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม) ตุงพระบด,พระบฏ,พระบฎ เป็ นตุงทที่มีลกษณะเป็ นผือผ้าใบหรื อกระดาษสี่ เหลี่ยมผืนผ้ามีขนาดต่าง ั ๆ ส่ วนมากประมาณ 80 คูณ 100 เซนติเมตร กรอบทั้งสี่ ดานทาด้วยไม้ทาให้ตึง ้ ตุงพระบฎจะเป็ นรู ปพระพุทธรู ปประทับยืน ปางลีลา หรื อบางเปิ ดโลก ลักษณะของการใช้งาน ตุงพระบฎใช้ประดับไว้ดานหลังของพระประธานในโบสถ์ นอกจากจะใช้ประดับสองข้างพระประธานแล้ว ้ ั บางแห่งใช้กบพิธีกรรมความเชื่ออีกด้วย เช่น ตุงพระบฏ ที่ใช้ในพิธีเลี้ยงผีปู่แวะย่าแสะที่บานแม่เหี ยะ ้ ตาบลแม่เหี ยะ อาเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รู ปตุงใย (ตุงใยแมงมุม) 2. ตุงทีใช้ ในการประกอบพิธีงานอวมงคล ่ ตุงสามหาง เป็ นตุงที่อาจเรี ยกชื่อว่า ตุงรู ปคนหรื อตุงผีตาย ใช้สาหรับนาหน้าศพในสู่ สุสานหรื อเชิงตะกอน เป็ นตุงที่ประดิษฐ์ข้ ึนเพื่อรวมลักษณะแทนตัวคนเราไว้ดวยกัน ้
  • 8. คือส่ วนหัวและลาตัวคือส่ วนที่กางออกเป็ นแขนขาซึ่ งบางท่านกล่าวว่าเป็ นคติ นิยมเกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิด เพื่อเน้นธรรมานุสติถึงความหลุดพ้น ได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตุงชนิดนี้บางท้องที่ (ลาปาง) เรี ยกตุงฮ่างคน หรื อตุงอ่องแอ่ง ตุงเหล็ก, ตุงตอง ทาด้วยแผ่นสังกะสี หรื อแผ่นทองเหลืองขนาดเล็กยาวประมาณ 1 คืบ กว้างประมาณ 2 นิ้ว มีคนตุงทาจากเส้นลวดหรื อไม้ไผ่ก็ได้ ส่ วนมากจะทาอย่างละ 108 อัน ั มัดติดเป็ นพวงโดยทาฐานตั้งไว้ หรื อบางแห่งจะวางไว้บนโลงศพ เมื่อเสร็ จพิธีแล้ว ชาวบ้านมักจะนามาไว้ที่วด ตามฐานชุกชี เมื่อจาเป็ นต้องใช้งานอีก ก็ไม่ตองทาขึ้นมาใหม่ ั ้ ่ ตุงขอนนางผาน มีลกษณะเป็ นตุงขนาดเล็กประดับอยูที่ปลายทั้งสองข้างของก้นไม้เล็ก ๆ ั ่ ้ ที่ติดขวางบนตุงผืนใหญ่ที่เป็ นระยะ ๆ บางครั้งทาเป็ นรู ปทรงคล้ายพูหอย
  • 9. ตุงนี้ทาเพื่ออุทิศส่ วนกุศลให้ผตายที่ฐานะยากจนหรื อไร้ญาติ ู้ 3. ตุงที่ใช้ประกอบการเทศน์ จะใช้ประกอบในพิธีงานเทศกาล ตั้งธรรมหลวง ในเดือนยีเ่ พ็ง (วันเพ็ญเดือนสิ บสอง) หรื องานตั้งธรรมหลวงเดือนสี่ เพ็ง (วันเพ็ญเดือนยี) ่ โดยการปั กตุงดังกล่าวนี้ในกัณฑ์เทศน์ หรื อประดับอาคารที่มีเทศน์ เช่น โบสถ์ วิหาร หรื อศาลาบาตร เป็ นต้น ทั้งนี้ตามคติความเชื่ อองคนในล้านนาทาตุงใช้ประกอบการเทศน์ข้ ึน ก็เพื่อถวายเป็ นพุทธบูชา และเชื่อว่าจะได้อานิสงส์มากตุงที่ใช้ประกอบการเทศน์สอดคล้องกับการเทศน์ ธรรมเรื่ องต่าง ๆ ในทศชาติ ดังต่อไปนี้ ั 1. ตุงดิน ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์แรกคือ เตมิยชาดก ั 2. ตุงทราย ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 2 คือ ชนกกุมาร ั 3. ตุงไม้ ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 3 คือ สุ วรรณสาม ั 4. ตุงจีน ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 4 คือ เนมิราช ั 5. ตุงเหียก ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 5 คือ มโหสถ ั 6. ตุงเหล็ก ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 6 คือ ภูริทต ั ั 7. ตุงตอง ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 7 คือ จันทกุมารชาดก ั 8. ตุงข้าวเปลือก ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 8 คือ นารถชาดก ั 9. ตุงข้าวสาร ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 9 คือ วิธูรบัณฑิต ั 10. ตุงเงิน ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์ที่ 10 คือ เวสสันดร ั 11. ตุงคา ใช้ประกอบการเทศน์กณฑ์เรื่ อง สิ ตธาตถ์หรื อสิ ตาตถ์ออกบวช 4. ช่อ คือตุงชนิดหนึ่งแต่มีขนาดเล็ก เรี ยกชื่อตามลักษณะการใช้งานหรื อรู ปทรง ช่อน้อย เป็ นช่อขนาดเล็ก ใช้ปักเจดียในเทศกาลสงกรานต์, ในการสะเดาะเคราะห์, การสื บชาตา, ์
  • 10. การขึ้นท้าวทั้งสี่ , การถาวายเป็ นพุทธบูชา ช่อช้าง ทาด้วยผ้าแพรสี ต่าง ๆ ปั กดิ้นอย่างสวยงามใช้ถือนาหน้าครัวทาง หรื อใช้ปักสลับกับตุงไชยในงานปอยหลวง อานิสงส์ของการสร้างตุง, ทานตุง จาก หลักฐาน ตานาน นิราศ ลิลิต และพงศาวดารต่าง ๆ ได้เขียนถึงอานิสงส์ของการสร้างตุงว่าผูที่สร้างตุงถวายเป็ นพุทธบูชาจะไม่ ตกนรก ้ ได้เกิดในสวรรค์ช้ นดาวดึงส์ ถ้ากลับมาเกิดในโลกมนุษย์ก็จะได้เป็ นใหญ่เป็ นโต ถ้าสร้างอุทิศให้ผตาย ั ู้ ผูตายก็จะพ้นจากการไปเป็ นเปรตหลุดพ้นจากบาปกรรมที่ทาไว้จากอานิสงส์ดง ้ ั กล่าวนี้ทาให้ชาวล้านนานิยมสร้างตุงกันทุกชั้นวรรณะ ่ ั ซึ่ งรู ปแบบของตุงจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยูกบฐานะทางสังคมของเจ้าของพิธี พื้นฐานความเชื่อของสังคม วัสดุและความสามารถของคนในท้องถิ่นในการที่จะนาเอาวัสดุที่มี มาประดับตุงโดยใช้เทคนิควิธีการต่าง ๆ ใน คัมภีร์ใบลานเรื่ อง อานิสงส์ทานตุง ฉบับวัดแม่ตง ตาบลแม่พริ ก อาเภอแม่พริ ก จังหวัดลาปาง ั๋ ก็ได้กล่าวถึงอานิสงส์การสร้างเสาตุงและเสาหงส์บูชาพระพุทธเจ้าว่าจะได้ผล บุญพ้นจากอบายภูมิไปเกิดยังสวรรค์ข้ ึนดาวดึงส์ หางตุงกวัดแกว่งในยามลมพัด หากพัดแกว่งไปทางทิศตะวันออกผูสร้างตุงก็จกได้เป็ นจักรพรรดิราช ้ ั หากพัดไปทิศอาคเนย์จกได้เป็ นมหาเศรษฐี พัดในทิศทักษิณจักได้เป็ นเทวดาชั้นมหาราชิก พัดไปทิศหรดีจก ั ั ได้เป็ นพระยาประเทศราช พัดไปทิศปัจจิมจักได้เป็ นพระปัจเจกโพธิ ญาณ หากพัดทิศพายัพจักได้ทรงปิ ฏกทั้ง 3 พัดไปทิศอุตตระจักได้เป็ นท้าวมหาพรหม พัดไปทิศอีสานจักได้เป็ นสมเด็จอมริ นทราธิราช หากพัดลงด้านล่างจักได้เป็ นใหญ่ในโลกนี้ หากพัดขึ้นบนอากาศจักได้เป็ นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งและได้พบพระศรี อาริ ยเมตตรัย สื บสานวัฒนธรรมการใช้ตุง
  • 11. จาก คติความเชื่ อเหล่านี้ทาให้การพบรู ปลักษณ์ของตุง เป็ นพุทธศิลป์ สาคัญในวัดต่าง ๆ ของล้านนาอย่างหลากหลายแม้ในปั จจุบนชาวล้านนาส่ วนใหญ่ยงนิยมสร้างตุงเพื่อ ใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ ั ั ทั้งทางศาสนาประเพณี เกี่ยวกับชีวต ประเพณี เกี่ยวกับการตาย งานเทศกาล และเฉลิมฉลองต่าง ๆ ิ ตามคติความเชื่อดั้งเดิม แต่แนวโน้มการใช้ตุงเริ่ มเปลี่ยนไปเนื่องจากบรรดาหน่วยทั้งภาครัฐและเอกชน มักใช้ตุง ประดับตามสถานที่จดงานต่าง ๆ ั เพื่อความสวยงามบางงานนาตุงไปใช้อย่างไม่เหมะสมเป็ นการทาลายคติความเชื่ อง ดั้งเดิมของชาวล้านนา เช่น การนาตุงไปประดับเวทีประกวดนางงาม เป็ นต้น บางงานใช้ตุงปั กประดับได้แต่ควรใช้ตุงให้ถูกประเภทและเหมาะสม หากไม่มีการอนุ รักษ์และศึกษารู ปแบบคติความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ตุงให้เข้าใจ ถ่องแท้แล้ว อนาคตการใช้ตุงในพิธีการต่าง ๆ ตามคติความเชื่ อเดิมคงจะถูกดัดแปลงให้ผดเพี้ยนไปในที่สุด ิ ในปั จจุบนได้มีการผสมผสานวัฒนธรรมประเพณี ของตุงแต่ละท้องที่ ั ทาให้เราสามารถเห็นตุงบางชนิดที่มีลกษณะที่สวยงามและลวดลายการประดิดประดอยให้สวยงามยิงขึ้น ั ่ ตามแต่ละท้องถิ่นและวัตถุประสงค์ในการสร้าง วัตถุประสงค์ของการตานตุงนั้น มีวตถุประสงค์เพื่อถวายเป็ นพุทธบูชาจะไม่ตกนรก ได้เกิดในสวรรค์ช้ นดาวดึงส์ ั ั ถ้ากลับมาเกิดในโลกมนุษย์ก็จะเป็ นใหญ่เป็ นโต ถ้าสร้างอุทิศให้ผตาย ู้ ผูตายก็จะพ้นจากการไปเป็ นเปรตหลุดพ้นจากบาปกรรมที่ทาไว้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ้ ทาให้ชาวล้านนานิยมสร้างตุงกันทุกชั้นวรรณะ ่ ั ซึ่ งรู ปแบบของตุงจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยูกบฐานะทางสังคมของเจ้าของพิธี พื้นฐานความเชื่อ ของคนในสังคม วัสดุและความสามารถของชาวท้องถิ่น ในการที่จะนา เอาวัสดุที่มีมาประดับตุง โดยใช้เทคนิควิธีการต่าง ๆ ซึ่ งในแต่ละท้องถิ่นนั้นนิยมสร้างตุงกันตามความเชื่ อและพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาแต่ละท้องถิ่น วัตถุประสงค์เหมือนกันแต่วิธีการสร้างและรายละเอียดในการสร้างนั้น ่ ต่างกันตามวิถีการดารงชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้น จึงจะเห็นได้วา แต่ละท้องถิ่นมีลวดลายของตุงที่มีความงดงามแตกต่างกันและความเชื่อของคนล้าน นา
  • 12. ส่ วนใหญ่มกจะสอดคล้องกับหลักคาสอนของพระพุทธศาสนา ั ชาวล้านนาจะทาการตานตุงในงานประเพณี ต่าง ๆ เช่น งานปี ใหม่ หรื อประเพณี สงกรานต์ของ ประชาชนจะทาเครื่ องสักการะ คือ ธูป น้ าส้มป่ อย ตุงและ ช่อตุงหรื อธุ ง อันเป็ นเครื่ องสักการะ มี 4 ประเภท คือ ตุงเดี่ยว หรื อตุงค่าคิง สาหรับบูชาแทนตนเอง ตุงไส้หมู บูชาพระเจดีย ์ พระธาตุท้ งหลาย ั ตุงไจยถวายบูชาพระพุทธรู ป เพื่อสร้างความสวัสดีมีชย และช่อหรื อธงชัย สาหรับปั กเครื่ องบูชาต่าง ั ๆตุงจัดเป็ นเครี่ องสักการะของล้านนาไทย มีตุงหลายชนิดที่ใช้ในพิธีกรรม เช่น งานฉลอง หรื องานปอย งานสื บชะตา หรื อขบวนแห่ต่าง ๆ เป็ นต้น
  • 13. หลังจากที่ได้ ความรู้ กันมาแล้ ว!!! >>ทางแหล่ งเรียนรู้ ของเราได้ ยกตัวอย่ าง วิธีการทาตุง มาฝากสาหรับผู้ที่สนใจหัดตัดตุงแบบง่ ายๆมาฝากกันค่ ะ คือ ตุงไส้ หมู ส่ วนตุงอืนๆนั้นมีความยาก และความซับซ้ อนมากยากแก่ การอธิบาย!!! ่ วัสดุทใช้ ในการทาตุง ี่ 1.กระดาษาสาหรื อผ้า 2.กระดาษว่าว 3.กระดาษแข็ง 4.ไม้ไผ่ 5.กรรไกร 6.เข็ม 7.เชือก
  • 14. 1.นากระดาษว่าว 2 แผ่นๆ ละสี มาซ้ อนกันพับให้ เปนสามเหลียมด้ านเท่า ตัดส่ วนปลายทีเ่ หลือออก ้ ่ 2.พับครึ่งรู ปสามเหลียมอีก 2 ครั้ง ตัดชายด้ านทีไม่ เท่ากันให้ เป็ นลวดลายสวยงามตามต้ องการ ่ ่ 3.ใช้ กรรไกรตัดเส้ นตรงจากด้ านทีเ่ ปิ ดได้ เข้ าไปลึกเหลือช่ องว่างไม่ ให้ ขาดไว้ พอประมาณ กลับด้ านแล้วตัดเส้ นตรงขนานกับเส้ นแรก จากนั้นตัดสลับกันไปตลอดความกว้างจนถึงปลาย เหลือปลายไว้ ประมาณ 4 เซนติเมตร เพือทาหัวตุง ่
  • 15. 4.ตัดเสร็จแล้ววางลงให้ เหมือนเดิมแล้วเปิ ดด้ านข้ างทีซ้อนกันออกจนเปนสาม เหลี่ยมด้ านเท่า ่ ้ จับปลายด้ ารทีซ้อนกันเปิ ดเปนสี่ เหลี่ยมทั้งสองแผ่ น จับตรงกลางกระดาษยกขึน ่ ้ ้
  • 16. 5. ตัดกระดาษแข็งเส้ นผ่ าศูนย์ กลางประมาณหนึ่งนิว ทากาวติดด้ านในของหัวตุง ใช้ ดายร้ อยด้ านบน ้ นาไปผูกติดกับปลายไม้ ไผ่ เป็ นอันเสร็จนาไปใช้ งานได้ ขอขอบคุณ ทุกท่ านทีแวะเข้ ามาชม Blogger แหล่ งเรียนรู้ เรื่อง ่ ตุงล้ านนาน่ าอนุรักษ์ ของพวกเรา มากๆ เลยน่ ะค่ ะ และหวังว่ าแหล่ งความรู้แห่ งนีจะมีประโยชน์ แก่ ผ้ ูทเี่ ข้ าเยียมชมไม่ ม ้ ่ ากก็น้อย^___^