SlideShare une entreprise Scribd logo
1  sur  43
Télécharger pour lire hors ligne
นักคิด
(โครงสร้ างทรัพยากร)
พิถพถน ช่ างวิเคราะห์
ี ิั
ไว้ วางใจได้

~1~
เผิงโหย่ ว

~2~
บุคลิกภาพ
บทนา

นักคิด (โครงสร้ างทรัพยากร)
คนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นที่รู้จกกันว่าคือนักคิด พวกเขาช่างวิเคราะห์และล้ าลึก รวมทั้งมี
ั
ความสามารถในการแก้ไขปั ญหา เป็ นที่ปรึ กษาผูล้ าเลิ ศซึ่ งมีขอเท็จจริ งและตัวเลขที่พร้อมให้หยิบ
้
้
่
ฉวยมาได้เสมอ (หรื อถ้ายังไม่มี แน่ใจได้วาพวกเขาจะหามันมาได้) พวกเขาเคร่ งครัดกับระเบียบวิธี
และแน่ ชัดในทุ ก สิ่ งที่ ทา รั กที่จะมีข้อมูล เพราะความรู ้ คือสิ่ ง ที่ จูง ใจและกระตุ นพวกเขาให้ไปสู่
้
ระดับสู งขึ้นไปอีก
คนโครงสร้ า งทรั พ ยากรเก่ ง ในการตั้ง ค าถามสิ่ ง ที่ อยู่เ บื้ องหลัง ทุ ก โครงการ ทุ ก ภารกิ จ
ทุ กข้อมูล หรื อทุ ก ขั้นตอนดาเนิ นการ โดยทัวไปพวกเขามี พ ฤติ ก รรมช่ า งพินิจพิเคราะห์ มากและ
่
เงี ยบขรึ ม รวมทั้ง จดจ่อที่ จะเข้าถึ งสาเหตุ รากเหง้าหรื อหัวใจของเรื่ องเสมอ ด้วยเหตุ น้ ี จึงเป็ นคน
มีระบบระเบียบอย่างยิง พวกเขาจะวิจยทุกสิ่ งทุกอย่างด้วยความละเอียดถี่ถวนก่อนทาสิ่ งใดๆ เสมอ
ั
้
่
ในอีกด้านหนึ่ ง คนโครงสร้ างทรัพยากรก็อาจชอบอวดภูมิและเชื่ องช้าอย่างสุ ดโต่ง พร้ อม
กันนั้นก็มีแนวโน้มที่จะเป็ นคนจืดชืดและใส่ ใจข้อเท็จจริ งและตัวเลขมากเกินไป ทาอะไรก็มกยืดเยื้อ
ั
โดยหวังว่าจะได้ขอมูลมากขึ้น และบางครั้งการคิดมากเกินไปของพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะขัดขวาง
้
ความก้าวหน้าในการตัดสิ นใจของพวกเขาเอง แทนที่จะดาเนินการอย่างรวดเร็ ว กลับมีแนวโน้มที่จะ
คิดมากยิงขึ้นอีกในสิ่ งที่จาเป็ นต้องทาให้เสร็ จโดยไม่เคยบรรลุถึงข้อสรุ ป
่

~3~
ด้ านดี
ซื่อสัตย์
“ทุ่มเทเสี ยสละจนถึงทีสุด”
่
บุ ค ลิ ก ภาพของคนโครงสร้ า งทรั พ ยากรคื อ การเป็ นเพื่ อ นที่ แ ท้จ ริ ง และภัก ดี เป็ นคนที่
ซื่ อสัตย์สาหรั บเพื่อนๆ ที่พวกเขาคบหา เพราะคนโครงสร้ างทรั พยากรไม่คบใครเป็ นเพื่อนง่ายๆ
ไม่ เ หมื อ นคนโครงสร้ า งอื่ น ๆ ที่ ใ ส่ ใ จกับ สิ่ ง ภายนอกมากกว่า และถู ก ดึ ง ดู ด เข้า หาผูค นได้ง่ า ย
้
คนโครงสร้างทรั พยากรชอบคิดเรื่ องของตัวเองมากกว่าและต้องใช้เวลาในการทาความรู้ จกผูคน
ั ้
พวกเขาต้องสร้างความเชื่อถือขึ้นมาอย่างช้าๆ เลือกเพื่อนอย่างระมัดระวัง เพราะหลังจากคบใครเป็ น
เพื่อนแล้ว ก็มีแนวโน้มที่จะเป็ นเพื่อนกับคนคนนั้นตลอดไป
ด้วยเหตุน้ ี เมื่อคนโครงสร้างทรัพยากรทาตัวเป็ นมิตรกับผูคนและเริ่ มใส่ ใจคนเหล่านั้นพวก
้
เขาจะไม่ได้เป็ นเพียงเพื่อนกินเพื่อนเที่ยว พวกเขาเป็ นคนที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดี มาก เป็ นคนที่จะ
ยืนเคียงข้างเพื่อนไม่ว่าในยามสุ ขหรื อทุกข์ เป็ นคนเสี ยสละอย่างยิ่ง และใส่ ใจการคบหาเพื่อนเพื่อ
ค้นหาสัมพันธภาพในอุดมคติ
คนโครงสร้างทรัพยากรคบเพื่อนอย่างระมัดระวังและชอบที่จะอยูเ่ บื้องหลัง พร้ อมที่จะรับ
ั
ฟั งความทุกข์ร้อน และนาวิธีคิดเชิ งวิเคราะห์ของพวกเขามาใช้กบปั ญหาของเพื่อนๆ มีธรรมชาติที่
เป็ นห่วงเป็ นใยผูคนในชีวตของพวกเขา
้
ิ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 จงรักภักดี
 เสมอต้นเสมอปลาย
 ไม่ใช่แค่เพื่อนกินเพื่อนเที่ยว
 มิตรภาพเพื่อมิตรภาพ

~4~
ช่ างคิด
“เพือนต้ องมาก่อน”
่
คนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นเพื่อนที่มีเมตตาและใจดี ถ้าเพื่อนประสบกับวันอันเลวร้าย หรื อ
พานพบกับช่ วงเวลาเลวร้ าย พวกเขาจะแสดงความเห็ นห่ วงและถามไถ่อย่างรวดเร็ วว่าพวกเขาจะ
ช่ วยอะไรได้บ ้างที่ จะทาให้ค นเหล่ า นั้นรู ้ สึก ดี ข้ ึ นได้อย่างไรก็ตาม พวกเขามี แนวโน้มที่ จะเป็ นที่
ปรึ กษาซึ่งได้แต่คิดและพูดมากกว่าแทนที่จะลงมาช่วยลุยด้วยตนเอง
ที่จริ งคนโครงสร้ างทรัพยากรอาจสะเทือนใจต่อความโชคร้ ายของเพื่อนจนน้ าตาไหลด้วย
ความเห็ นใจสงสาร พวกเขาไม่ ไ ด้แ ค่ นั่ง สบายๆ พิ จารณาปั ญหาของเพื่ อน แต่ พ วกเขารู้ สึ ก ถึ ง
ความรู้สึกและอารมณ์ของเพื่อนด้วย ถ้าพวกเขาห่ วงใยใส่ ใจเพื่อนด้วยความเข้าอกเข้าใจอย่างท่วม
ท้น และมีแนวโน้มที่จะทุ่มเทเสี ยสละตัวเองให้เพื่อนจนหมดสิ้ น แต่พวกเขาต้องรู ้สึกมันคงในความ
่
เป็ นเพื่อนก่อนที่จะเกิดสิ่ งนี้
ดังนั้นเพื่อนที่ เป็ นคนโครงสร้ างทรั พยากรจึ งจริ งใจมาก ไม่ ใช่ เพื่อนกิ นที่ มาคอยเฮไหน
เฮนั่นแล้วก็หายหัวไป นอกจากนั้นพวกเขายังเต็มใจมองสิ่ ง ต่างๆ จากมุ มมองของเพื่อน และยก
ประโยชน์ ใ ห้แ ก่ ค วามสงสั ย ก่ อนที่ จะด่ วนสรุ ป อะไรด้ว ย พวกเขาไม่ ไ ด้ม องว่า เพื่ อ นเป็ นเพี ย ง
“ตัวช่วย” ในชีวต พวกเขาให้คุณค่าแก่เพื่อนตามที่คนเหล่านั้นเป็ น
ิ
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ใจดีมีเมตตา
 เข้าใจความรู ้สึกคนอื่น
 จริ งใจ
 ให้คุณค่าแก่เพื่อนในฐานะคนคนหนึ่ ง

~5~
ผู้ฟังอย่ างมีจุดประสงค์
“มีไหล่ให้ ซบหน้ าร้ องไห้ เสมอ”
คนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นนักฟั งที่ดีมาก ตรงข้ามกับคนโครงสร้ างอื่นบางโครงสร้ างที่
มักเอาแต่พดตลอดเวลาและไม่เคยฟั งแม้แต่คาเดียว คนโครงสร้างทรัพยากรฟั งอย่างล้ าลึกและอย่าง
ู
มีจุดประสงค์ พวกเขาวิเคราะห์ปัญหาของเพื่อน และพยายามเสนอวิธีแก้ไขปั ญหาที่ดีที่สุด
ดังนั้นเพื่อนที่เป็ นคนโครงสร้ างทรัพยากรจึงเป็ นบุคคลในอุดมคติสาหรับการไปหาพร้อม
กับ ค าพร่ าบ่ น พวกเขาอดทนมากและจะไม่ ต ัด สิ น คนอื่ น ที่ อ ยากคร่ าครวญหรื อระบายออก
เข้าใจความต้องการของเพื่อนที่จะหาที่ระบายอารมณ์ ที่ปลอดภัย พวกเขาจึงเป็ นนักฟั งที่ดี เพราะ
่
ไม่ขดจังหวะหรื อเอาแต่แสดงความเห็นที่ไม่เข้าท่าของตัวเองอยูตลอดเวลา
ั

่
นอกจากนั้นคนโครงสร้างทรัพยากรยังไม่อยากอยูใต้แสงไฟบนเวที หรื อไม่อยากทาตัวเด่น
เป็ นจุ ดสนใจ พวกเขาพอใจกับการอยู่เบื้ องหลัง ไม่ค่อยช่ วงชิ ดความใส่ ใจในหมู่เพื่อน ดังนั้นถ้า
เพื่อนๆ อยากให้พวกเขาฟั ง นันละเป็ นสิ่ งที่พวกเขาจะทาพวกเขาไม่เหมือนคนโครงสร้างเพื่อนใน
่
่
แง่ที่วา พวกเขาจะไม่พยายามแข่งกับเพื่อนว่า “ใครมีเรื่ องที่น่าเศร้าที่สุด”
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ใส่ ใจ
 ไม่แทรกแซง
 ให้เพื่อนมีโอกาสพูด
 ไม่ตดสิ นหรื อขัดจังหวะ
ั

~6~
ด้ านไม่ ดี
ไม่ มนคง
ั่
“คิดว่าตัวเองไม่ ดีพออยู่เรื่อย”
คนโครงสร้างทรัพยากรมีธรรมชาติที่ มองเข้าด้านใน และมีแนวโน้มที่จะคิดและวิเคราะห์
เรื่ องราวต่างๆ มากเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงมีสานึ กเกี่ยวกับตัวเองที่ค่อนข้างไม่มนคง และไม่ใช่คน
ั่
ประเภทวางโตหรื อเชื่ อมันเหมือนคนโครงสร้างอื่น บางโครงสร้าง ด้วยเหตุน้ ี พวกเขาจึงมีแนวโน้ม
่
่
ที่จะตั้งคาถามเกี่ ยวกับจุดที่เขาอยูในจักรวาล เช่นเดียวกับจุดที่เขาอยู่ในมิตรภาพและความสัมพันธ์
ต่างๆ
คนโครงสร้ างทรัพยากรยังรู ้ สึกไม่มนคงอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมทางสังคมและชอบอยู่
ั่
่
เบื้องหลังโดยที่ไม่ถูกรบกวนหรื อไม่ถูกสังเกตเห็นมากกว่า ไม่ชอบอยูใต้แสงไฟสปอตไลท์ แต่ชอบ
ใช้ชีวตแบบมีประสบการณ์ดวยการฟังจากเพื่อนๆ มากกว่า ดังนั้นจึงเป็ นคนที่ค่อนข้างน่าเบื่อ เพราะ
ิ
้
ไม่ค่อยชอบออกไปข้างนอกเก็บเกี่ ยวประสบการณ์ ด้วยตัวเอง บางครั้งการให้พวกเขาทดลองทา
อะไรใหม่ๆ หรื อสิ่ งที่ไม่คาดคิดมาก่อนจึงเปล่าประโยชน์
นอกจากนั้นเพราะคนโครงสร้างทรัพยากร มีความรู ้ สึกไม่มนคง จึงมีแนวโน้มที่จะแสดง
ั่
ความไม่มนคงออกมาด้วยพฤติกรรมต่างๆ นานาที่ขดแย้งกันในทางตรงข้าม ซึ่ งอาจทาให้เพื่อนๆ
ั่
ั
สับสนและอารมณ์เสี ยได้ เพื่อนๆ อาจพบว่าเป็ นเรื่ องยากที่จะเข้าใจรู ปแบบพฤติกรรมของพวกเขา
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ขาดสานึ กที่เข้มแข็งเกี่ยวกับตัวเอง
 ใช้ชีวตผ่านเพื่อน
ิ
 ไม่เข้าสังคม
 ในทางตรงข้าม

~7~
ถอยห่ าง
“ระแวดระวัง”
ด้วยธรรมชาติ ที่สนใจแต่เรื่ องตัวเอง คนโครงสร้ างทรั พยากรจึ งค่อนข้างสุ ขุมทั้งในด้าน
ความรู้ สึกและความคิด พวกเขาไม่ใช่ คนประเภทที่ จะขึ้นไปตะโกนระบายอารมณ์ บนหลังคา แต่
บางครั้งก็อาจถอนตัวห่ างออกมามาก หรื อค้นพบตัวตนที่แท้จริ งของพวกเขาได้ยาก รวมทั้งยังชอบ
่
ใจลอย หรื ออาจเป็ นเพราะกาลังคิดถึงปั ญหาที่ลึกซึ้ งอยูก็ได้
คนโครงสร้างทรัพยากรอาจทาให้เพื่อนๆ แทบคลังเพราะการเป็ นคนแบบนี้ บางครั้งการ
่
่
พยายามจะรู ้ให้ได้วาจริ งๆ แล้วพวกเขารู ้สึกอย่างไรหรื อคิดอะไรก็ไม่ได้อะไรมากไปกว่าเกมทายใจ
และทาให้เหนื่อยล้าเต็มทีในท้ายที่สุด
คนโครงสร้างทรัพยากรยังไม่เก่งในการแสดงความรักความชอบอีกด้วย ดังนั้นจึงอาจถอย
หนี เมื่อเพื่อนๆ ทาแบบนั้น ไม่ใช่ เพราะไม่ชอบหรื อไม่ซาบซึ้ ง เพียงแต่ไม่แน่ ใจว่าจะตอบสนอง
อย่างไรดี นี่ จึงหมายความว่าบางครั้งการเป็ นเพื่อนกับพวกเขาก็เหมือนการเดิ นบนเปลื อกไข่ หรื อ
เหมือนการเล่นกับเด็ก
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 สันโดษ
 สงบปากสงบคา
 ไม่เก่งในการแสดงความรักความชอบ
 ดูเหมือนเหิ นห่าง

~8~
อาฆาต
“เก็บเอาเรื่องต่ างๆ มาเป็ นอารมณ์ ”
คนโครงสร้างทรัพยากรทุ่มเทให้แก่ความสัมพันธ์ของตนมาก ทั้งๆ ที่พฤติกรรมขัดแย้งกัน
หรื อบางครั้ งเพราะพฤติกรรมที่ขดแย้งกันเหล่ านี้ เองที่ทาให้ความสัมพันธ์ ของพวกเขากับผูคนมี
ั
้
ความหมายมากในจิตใจส่ วนลึ กของพวกเขา เพราะพวกเขาไม่สามารถคบหาเป็ นเพื่อนกับใครได้
ั ้
ง่ายๆ เมื่อพวกเขาสานสร้างความสัมพันธ์กบผูคนได้ จึงคาดหวังว่ามันจะมีความหมายบางอย่างและ
มักทุ่มเทอารมณ์ให้แก่มนมากกว่าที่เห็นภายนอก
ั
ด้วยเหตุที่คนโครงสร้างทรัพยากรจงรักภักดีและทุ่มเทเสี ยสละ จึงคาดหวังสิ่ งเดียวกันนี้ จาก
เพื่อนของพวกเขาแบบเต็มร้อย ดังนั้นถ้าพบว่าเพื่อนๆ ไม่ทุ่มเทและจงรักภักดีทดเทียมกันแล้วล่ะก็
ั
นรกต้องแตกแน่ๆ พวกเขาจะกลายเป็ นศัตรู และแสดงพฤติกรรมที่สื่อถึงความระแวงและความไม่
เชื่อถือ
ยิงกว่านั้นคนโครงสร้างทรัพยากรยังไม่ค่อยให้อภัย เพื่อนๆ อาจต้องขอโทษขอโพยหลายๆ
่
ครั้งก่อนที่จะเข้าถึงพวกเขาได้ หรื อถ้าอะไรๆ เลวร้ายลง บางคนอาจกลายเป็ นคนอาฆาตและเก็บงา
ความเคียดแค้นชิ งชังซ่ อนเร้นไว้ยาวนาน ภายนอกพวกเขาอาจแกล้งทาเป็ นว่าไม่เป็ นไร แต่บางครั้ง
ความไม่เป็ นสุ ขและความโกรธของพวกเขาอาจซึมออกมาให้เห็นได้จากการตั้งข้อสังเกตบางอย่างที่
แปลกประหลาดและจากพฤติกรรมที่เย็นชาของพวกเขา
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ไม่ให้อภัย
 เก็บงาความชิ งชังซ่อนเร้นเอาไว้
 ไม่ปล่อยวางความเจ็บปวดในอดี ตง่ายๆ
 เก็บเอาเรื่ องต่างๆ มาเป็ นอารมณ์

~9~
ช่ างวิพากษ์ วจารณ์
ิ
“จุกจิกจู้จีกบความผิดพลาดและข้ อบกพร่ อง”
้ั
คนโครงสร้ างทรัพยากรมี ธรรมชาติ ที่เคยชิ นกับการวิเคราะห์ และค้นหาข้อบกพร่ องของ
ทุกสิ่ งทุกอย่างด้วยการตรวจสอบอย่างละเอียดยิบ นี่ เป็ นวิธีที่พวกเขาคิดและปฏิบติต่อโลก พวกเขา
ั
ต้องการชาแหละเรื่ องราวต่างๆ เพื่อเข้าถึงหัวใจของมันและเข้าใจว่าสิ่ งต่างๆ ทางานอย่างไร นี่ คือวิธี
ที่พ วกเขาคิ ด หาเหตุ ผ ลเกี่ ยวกับ สิ่ ง ที่ กาลัง เกิ ดขึ้ นรอบตัว โชคไม่ ดีที่ มุ มมองแบบนี้ ย งท าให้ผูค น
ั
้
รอบตัวพวกเขาพลอยเป็ นไปด้วย
ดังนั้นคนโครงสร้ างทรั พยากรจึ งเป็ นเพื่อนที่ ช่างวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ชมใครง่ายๆ รวมทั้ง
สงสัยในคาชมที่ได้รับ ที่จริ งถ้าคุณอยากทาให้พวกเขารู ้สึกดี ก็จงเตรี ยมรับการสวนกลับจากพวกเขา
หลังจากที่คุณพูดชมอะไรบางอย่าง พวกเขามีวธีตอกกลับและทาให้คนที่ชมรู ้สึกแย่ ลักษณะเช่นนี้ ยง
ิ
ั
เนื่ อ งมาจากความรู ้ สึ ก ไม่ ม ั่น คง ซึ่ งท าให้ พ วกเขาไม่ ส มารถมองเห็ น สิ่ ง ที่ ดี ใ นตัว เอง ถึ ง แม้
ลักษณะเฉพาะนี้จะพบได้ในคนโครงสร้างทรัพยากรที่มีแผนภูมิปาจื่อแบบสุ ดโต่งก็ตาม
คนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นคนปล่อยวางยาก ส่ วนหนึ่ งมาจากความต้องการที่จะทาให้ทุก
อย่างสมบูรณ์แบบ และอีกส่ วนหนึ่ งมาจากแรงขับเคลื่อนที่อยากสร้างภาวะที่เป็ นอุดมคติ โชคร้ายที่
บางครั้งสิ่ งนี้ อาจทาลายความสัมพันธ์ให้ย่อยยับได้ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาไม่แสดงความเห็ นของ
ตนเอง และเอาแต่ต้ งคาถาม รวมทั้งอาจแสดงความเห็ นในเชิ งวิพากษ์วิจารณ์มากเกิ นไปเพราะการ
ั
พิจารณาสิ่ งต่างๆ จากทุกแง่ทุกมุม
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 จุกจิกจูจ้ ี
้
 ไม่สามารถรับหรื อให้คาชม
 ชี้ขอบกพร่ อง
้
 มีมุมมองเชิงวิพากษ์วจารณ์ในทุกสิ่ งทุกอย่าง
ิ

~ 10 ~
บุคลิกภาพในฐานะพ่อแม่

ด้ านดี
มีหลักการ
“คาดหวังมาตรฐานสู ง”
คนโครงสร้างทรัพยากรไม่ใช่ พ่อแม่ที่ปล่อยปละละเลยและเห็ นว่าลูกไม่เคยทาอะไรได้ดี
พวกเขาแค่ยดมันมาตรฐานความประพฤติส่วนตัวบางอย่างของตน จึงคาดหวังว่าลูกๆ จะเติบโตโดย
ึ ่
ยึดมันในหลักการและมีความตั้งใจดี รวมทั้งปลูกฝังคุณค่าต่างๆ ที่อยากให้มีในตัวลูกของพวกเขา
่
คนโครงสร้างทรัพยากรมีมาตรฐานสู งในสิ่ งที่พวกเขาคาดหวังจากลูกๆ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี
สิ่ งสาคัญสาหรับพวกเขาคือ ลูกๆ รู้จกแยกแยะถูกผิด และยึดมันกับมาตรฐานที่ดีท้ งทางคาพูดและ
ั
ั
่
ความประพฤติ พวกเขาไม่ชอบเลี้ยงลูกให้กลายเป็ นพลเมืองที่ไม่เอาจริ งเอาจังของโลก
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ า งทรัพยากรอยากทาทุ ก อย่างให้ถูกต้อง และปลู กฝั งส านึ กแห่ ง
ความพิ ถี พิ ถ ัน ในตัว ลู ก ด้ว ยตารางเวลา หลัก การ และความประพฤติ ต่ า งๆ ไม่ ส่ ง เสริ ม ความ
เกี ย จคร้ า นหรื อความประพฤติ ที่ ไ ม่ ดี และที่ จริ ง แล้วจะไม่ ย อมอดกลั้นต่ อความเกี ย จคร้ า นและ
พฤติกรรมที่ไม่ดีของลูก พวกเขาอยากให้ลูกประพฤติตวเหมาะสม มีชีวิตดีเลิศ และเป็ นคนเก่งที่สุด
ั
เท่าที่จะทาได้
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 กาหนดมาตรฐานเอาไว้สูง
 คาดหวังลูกให้ยดถือคุณค่าต่างๆ
ึ
 ส่ งเสริ มพฤติกรรมที่ดี
 ปลูกฝังหลักการต่างๆ ให้ลูก

~ 11 ~
มีวนัย
ิ
“ปลูกฝังสานึกแห่ งโครงสร้ างให้ ลูก”
ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ างทรัพยากรมีระเบียบและยึดมันในระเบียบวิธีมาก มีวินยกับ
ั
่
ชี วิตตัวเอง ในทานองเดี ยวกันก็ส่งเสริ มสานึ กเกี่ ยวกับโครงสร้ างในชี วิตของลูก ด้วย พวกเขาให้
่
คุณค่าแก่การบริ หารเวลาและสานึกแห่งระเบียบ รวมทั้งไม่ชอบให้สิ่งต่างๆ วุนวาย
คนโครงสร้างทรัพยากรดูแลบ้านให้เป็ นระเบียบเรี ยบร้อย และขยายไปถึงการจัดตารางเวลา
ของครอบครัวให้เป็ นระเบียบด้วยเช่นกัน พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างทรัพยากรใส่ ใจกับรายละเอียด
เล็กๆ น้อยๆ ด้วยความระมัดระวัง และไม่ชอบให้ชีวิตของลูกๆ เสี ยกระบวนด้วยความหละหลวม
และตารางเวลาที่ยงเหยิง
ุ่

เพราะพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างทรัพยากรไม่ชอบความยุ่งเหยิงและความรกรุ งรัง ดังนั้น
่ ้
หากพวกเขามีลูกที่ไม่มีระเบียบและเลอะเทอะกว่าตนเองอยูบาง ก็พร้อมที่จะจัดเก็บข้าวของที่ลูกทา
่
รกไว้ให้เรี ยบร้อย พวกเขาทนไม่ได้ที่จะอยูและใช้ความคิดในสถานที่ที่รกเลอะเทอะไม่มีความเป็ น
ระเบียบเรี ยบร้อย และชอบให้สิ่งต่างๆ ดาเนินไปอย่างราบรื่ น
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ยึดมันในระเบียบวิธี
่
 จัดโครงสร้างชีวิตของลูก
 บริ หารเวลาได้ดี
่
 ไม่ชอบความยุงเหยิงและความรกรุ งรัง

~ 12 ~
ให้ กาลังใจ
“ให้ คุณค่ าแก่ความตั้งใจเรียนและความสามารถพิเศษ”

พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างทรัพยากรภาคภูมิใจในผลสาเร็ จของลูกๆ เพราะพวกเขาสนุ กกับ
การคิดและการเรี ยนรู ้ รวมทั้งให้คุณค่าแก่ความรู ้ พวกเขาปลูกฝังความทะเยอทะยานและความฝัน
แบบเดียวกันในตัวลูกๆ รวมทั้งมีความคิดสร้างสรรค์มากหรื อเกือบเหมือนอัจฉริ ยะในวิธีปฏิบติต่อ
ั
สิ่ งที่สนใจและหลงใหล
ในทานองเดี ยวกัน คนโครงสร้ างทรั พยากรก็ส่งเสริ มความก้าวหน้าทางการศึกษา ความ
ตั้งใจเรี ยน และการเรี ยนรู ้ของลูกๆ พวกเขาไม่เคยปฏิเสธการซื้ อหนังสื อ ตารา อุปกรณ์วิทยาศาสตร์
หรื อหนังสื อคณิ ตศาสตร์ ให้ลูกๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็ นอะไรก็ตามที่ขยายความสนใจในวิชาใดๆ ก็
ตามที่ลูกๆ สนใจ
บ้านของคนโครงสร้างทรัพยากรให้คุณค่าแก่ความรู ้ สูงมาก พวกเขาสร้างบรรยากาศของ
สถานที่ที่เอื้อต่อการค้นคว้าความรู ้ และการเรี ยนรู ้ อย่างยิ่ง การเน้นย้ าของพวกเขาในเรื่ องวินยและ
ั
โครงสร้ างช่ วยกระตุนลูกๆ ในด้านนี้ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างทรัพยากรจะเป็ นพ่อแม่ที่ส่งเสี ยง
้
เชี ยร์ ดวยความภาคภูมิใจในตัวลูก ในวันรับรางวัล หรื อวันเทศกาลวิทยาศาสตร์ หรื อวันอภิปราย
้
เรื่ องที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เน้นย้ าการเรี ยนรู ้
 ส่ งเสริ มความรู ้
 ส่ งเสริ มการแสวงหาความก้าวหน้าทางวิชาการของลูก
 สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรี ยนรู ้

~ 13 ~
ไม่ เห็นแก่ตว
ั
“เสี ยสละความต้ องการของตัวเองเพือลูก”
่
คนโครงสร้ างทรัพยากรห่ วงใยในความเป็ นอยู่ของลูกอย่างลึ กซึ้ ง และถื อว่าลู กเป็ นส่ วน
หนึ่ งแห่ งตัวตนของพวกเขา ถือว่าความสาเร็ จของลูกสะท้อนถึ งตัวตนของพวกเขา ให้คุณค่าแก่ลูก
และความผูกพันที่ มีต่อลู ก ด้วยเหตุน้ ี จึงถื ออารมณ์ เป็ นใหญ่และพร้ อมที่จะเสี ยสละชี วิตด้านใดๆ
ของตัวเองเพื่อลูกได้
โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อดูภายนอกคนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นคนเงียบขรึ ม ดังนั้นจึงไม่ค่อย
แสดงออกทางคาพูดหรื อการกระทา อย่างไรก็ตาม ความรักและความคานึงถึงลูกๆ นั้นล้ าลึกมาก ไม่
ว่าจะเกิ ดอะไรขึ้น พวกเขาจะทุ่มเทพยายามอย่างหนักเพื่อให้แน่ ใจว่าลูกๆ จะอยู่อย่างสบายและมี
ความสุ ขเป็ นอันดับแรกก่อนสิ่ งอื่น
คนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นคนแบบที่หยิบยื่นสิ่ งที่ดีที่สุดให้ลูก ยอมขายทรัพย์สินที่ได้รับ
เป็ นมรดกเพื่อส่ งเสี ยให้ลูกเรี ยนมหาวิทยาลัยจนจบ หรื อให้ลูกที่ล่วงเข้าวัยกลางคนแล้วมีปัญหาตก
่ ้
งานย้ายกลับมาอยูบานได้ ความรักของพวกเขาไร้ขีดจากัด อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเขามีแผนภูมิปาจื่อ
ที่ไม่ดี ก็อาจกลายเป็ นพ่อแม่ที่กวนใจ น่ าราคาญ ซึ่ งเอาแต่ถามว่า “กิ นข้าวหรื อยัง” อาบน้ าหรื อยัง
และคาถามอื่นๆ ในทานองเดียวกันนี้

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เสี ยสละความต้องการของตัวเอง
 ให้อย่างสุ ดโต่ง
 ไม่ค่อยเห็นแก่ตว
ั
 คิดถึงลูกก่อน

~ 14 ~
ด้ านไม่ ดี
ชอบความสมบูรณ์ แบบ
“กาหนดมาตรฐานสู งจนทาไม่ ได้ ”
คนโครงสร้างทรัพยากรให้คุณค่าต่อความสมบูรณ์แบบ เมื่อประกอบกันอุดมคติและการรัก
ความรู้ ของพวกเขา จึงทาให้เป็ นพ่อแม่ที่เรี ยกร้ องสู งอย่างแท้จริ ง จริ งๆ แล้วพวกเขาเป็ นคนชอบ
ความสมบูรณ์แบบและคาดหวังสิ่ งที่ดีที่สุดจากทุกสิ่ งทุกอย่าง รวมทั้งจากลูกๆ ด้วย บางครั้งก็ลืมไป
่
ว่าลูกๆ ก็เป็ นคน ซึ่ งมีพฤติกรรมและการกระทาที่ยุงเหยิงและซับซ้อน ไม่ใช่ขอเท็จจริ งที่ตองมีแต่
้
้
ความชัดเจนและไร้ซ่ ึงความผิดพลาด
ดัง นั้นคนโครงสร้ า งทรั พ ยากรจึ ง ก าหนดมาตรฐานที่ สู ง มากเกิ นจะท าได้ใ ห้แก่ ลู ก และ
เรี ย กร้ อ งมากเกิ นไปจากลู ก ๆ เมื่ อลัก ษณะบุ ค ลิ ก ภาพของพ่อแม่ ที่ เป็ นคนโครงสร้ า งทรั พ ยากร
แสดงออกในทางลบ พวกเขาจะคล้ายหม้อแรงดันสู ง นั่นคื อ เอาลู กๆ ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่
หายใจไม่ออกและร้ อนจัด โดยหวังว่าลูกจะกลายเป็ นเด็กในอุดมคติที่สมบูรณ์ แบบอย่างที่พวกเขา
เห็นภาพในความคิดของตนเอง
ด้วยเหตุน้ ี ลูกๆ ของคนโครงสร้างทรัพยากรจึงมีแนวโน้มที่จะต่อต้านแนวทางที่เคร่ งครัด
เหล่านี้ และเลื อกทาตัวตรงข้ามกับสิ่ งที่พ่อแม่อยากให้เป็ น การต้องใช้ชีวิตตามมาตรฐานที่สูงมาก
ตลอดเวลาทาให้เหนื่ อยล้าได้มาก พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างทรัพยากรที่ฉลาดจะรู ้เรื่ องนี้ และหยุด
การเรี ยกร้องที่ไร้เหตุผลและไม่สอดคล้องกับความเป็ นจริ งจนเกินไปของพวกเขา
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ตั้งมาตรฐานไว้สูง
 คาดหวังมากเกินไป
 อยากให้ลูกสมบูรณ์แบบ
 มีความคิดที่เป็ นอุดมคติและไม่สอดคล้องกับความเป็ นจริ งว่าอะไร
เป็ นสิ่ งที่ยอมรับได้

~ 15 ~
หัวเก่ า
“เป็ นแค่ เด็กทีพถีพถันเกินไป”
่ ิ ิ
พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างทรัพยากรยังเป็ นโรค “สมบูรณ์แบบเกิ นไป” อีกด้วย พวกเขาใส่
ใจกับความถูกต้องและความพิถีพิถนเกิ นไปจนบางครั้งสู ญเสี ยความรู ้ สึกแห่ งความสนุ กสนานไป
ั
และบ่อยครั้งที่การไล่ล่าความถูกต้องก็เป็ นเรื่ องน่าเบื่อมากและค่อนข้างน่าราคาญด้วย
ผลคือพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างทรัพยากรอาจทาให้ลูกๆ เบื่อแทบสลบ ดูเหมือนเป็ นไป
ไม่ได้เลยที่ใครจะอวดภูมิได้มากเท่านี้ โดยเฉพาะในเรื่ องกฎเกณฑ์ ขั้นตอนและระเบียบวิธีต่างๆ
แต่คนโครงสร้ างทรัพยากรจะพิสูจน์ให้เห็ นว่าคนเหล่านั้นผิดเสมอ ในฐานะพ่อแม่ พวกเขามักพูด
ถึงประเด็นและระเบียบต่างๆ ซ้ าแล้วซ้ าอีกเพียงเพื่อให้แน่ใจว่าลูกของพวกเขาทาถูกต้อง
นอกจากนั้นบางครั้ งคนโครงสร้ า งทรั พยากรยัง ปล่ อยวางและละวางเรื่ องต่า งๆ ได้ย าก
่
เพราะมักกังวลว่าจะทาพลาด หรื อทาสิ่ งที่ผด หรื อทาเรื่ องยุงเหยิง จนมันดูดกลืนเอาความสนุ กสนาน
ิ
และความเพลิ ดเพลิ นไปจากสิ่ งที่น่าสนุ กที่ สุด (ซึ่ งบังเอิญมักยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์ แบบ) ไปจน
หมด
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 อาจจืดชืดและน่าเบื่อ
 อวดภูมิมากเกิ นไป
 กังวลกับกฎเกณฑ์และกฎระเบียบต่างๆ มากเกินไป
 ลืมวิธีใช้ชีวตให้สนุก
ิ

~ 16 ~
มีปมผู้ทนทุกข์
“พ่อแม่ ทาทุกอย่ างเพือลูกนะ”
่
จุดดี จุดหนึ่ งของพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างทรัพยากรคือ ความสามารถที่จะเป็ นคนไม่เห็ น
แก่ตวและยอมทุ่มเทเสี ยสละตัวเองเพื่อความรักและความสุ ขของลูก อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน
ั
ลักษณะเช่นนี้จะเลยเถิดเกินไปหรื อแสดงออกมาในด้านลบ ทาให้พวกเขากลายเป็ นผูทนทุกข์
้
ในสถานการณ์ แบบนี้ คนโครงสร้ างทรั พยากรไม่มี วนที่ จะลื มเตื อนใจลู กว่าพวกเขาได้
ั
เสี ยสละมากแค่ไหนเพื่อความสุ ขของลูก ถ้าพบว่าลูกๆ แตกต่างจากพวกเขาไปเพียงเล็กน้อย หรื อ
เบี่ยงเบนไปจากเส้นทางที่พวกเขาได้วางเอาไว้ให้อย่างชัดเจน พวกเขาจะไม่รอช้าที่จะใช้ปมผูทน
้
ทุกข์น้ ีเพื่อทาให้ลูกรู ้สึกผิด
นี่ คือลักษณะอีกประการหนึ่ งที่พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างทรัพยากรอาจทาให้ลูกๆ ต่อต้าน
หรื อไม่ยอมพูดคุยและไม่ร่วมมือ อย่างไรก็ตาม พวกเขามักมองไม่เห็นอันตรายของการเล่นบทผูทน
้
ทุกข์ และเมื่อพวกเขาทาจนเป็ นนิสัยแล้ว ก็จะเลิกได้ยาก การเล่นบทผูตกเป็ นเหยื่อหรื อผูได้รับความ
้
้
ทุกข์ไม่ใช่สิ่งที่ควรทา โดยเฉพาะอย่างยิงเพราะลูกๆ เองก็ไม่ได้ขอให้พวกเขาทาแบบนั้นตั้งแต่แรก
่
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 เล่นบท “เหยือ”
่
 พยายามเรี ยกร้องความเห็นอกเห็นใจจากลูก
 กระตุนความรู ้สึกผิดของลูก
้
 เรี ยกร้ องความใส่ ใจด้วยพฤติกรรมแบบ “สงสารพ่อแม่หน่ อย”

~ 17 ~
บงการทางอารมณ์
“ลูกไม่ รักพ่ อแม่ หรือ ทาไมลูกถึงทาอย่ างนี”
้
เรื่ องน่าแปลกเกี่ยวกับคนโครงสร้างทรัพยากรคือ ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ค่อยสบายใจที่จะแสดง
อารมณ์ออกมา แต่พวกเขากลับบงการเก่ง โดยเฉพาะเมื่อเล่นบทพ่อแม่อนที่จริ งพวกเขาเก่งในการ
ั
กระตุกเชือกเส้นที่ถูกเพื่อทาให้ลูกๆ รู ้สึกแย่
พ่อแม่ ที่ เป็ นคนโครงสร้ า งทรั พ ยากรมี แนวโน้ม ที่ จะโกรธขึ้ ง เมื่ อ ลู ก ๆ ไม่ เห็ นพ้องด้ว ย
บางครั้งอาจถึงกับก่อ “กาแพงยักษ์” กั้นระหว่างตนเองกับลูก หรื อทา “สงครามเย็น” กับลูกด้วยการ
นิ่ งเงียบไม่ยินดียินร้ าย และแสดงความเย็นชาราวกับว่าพวกเขาถูกทาร้ายความรู ้ สึก ไม่ใช่ เพราะใจ
ร้าย แต่เพราะไม่แน่ใจว่าจะแสดงความรู ้สึกต่างๆที่ “น่าเกลียด” อันได้แก่ ความโกรธ ความเจ็บปวด
ความผิดหวัง และความเศร้า ออกมาอย่างไรมากกว่า
ดังนั้นคนโครงสร้างทรัพยากรจึงใช้วิธีที่เป็ นปั ญหาในการสื่ อความรู ้สึกกับลูกๆ พวกเขายัง
อาจพยายามใช้วิธีต่างๆ อาทิ ทาให้ลูกเกิดความรู ้สึกผิด หรื อทาให้ลูกรู ้ สึกแย่ที่ทาร้ายความรู ้ สึกพ่อ
แม่ ด้วยการนังทาหน้าบูดบึ้งอยู่ที่มุมห้องในช่ วงเวลาอาหารค่ าของครอบครัว หรื อทาหน้าขุ่นเคือง
่
ในระหว่างมื้อเช้า วิธีของพวกเขาไร้สาระอย่างเห็นได้ชด บางครั้งมันอาจน่าสนุ กถ้าไม่ทาให้เรื่ องยิ่ง
ั
เลวร้ ายขึ้นไปอีก ไม่ตองสงสัยว่าลูกๆ ของพวกเขารู ้ สึกว่าบางครั้งต้องเล่นบทเป็ นพ่อหรื อเป็ นแม่
้
ของพวกเขาเสี ยเอง

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ใช้อารมณ์บงการลูก
 มีแนวโน้มที่จะทาหน้าบูดบึ้งหรื อบึ้งตึง
 อาจทาตัวเย็นชาและห่างเหิ น เมื่ออารมณ์ เสี ย
 ไม่สามารถแสดงอารมณ์ไม่พอใจออกมาตรงๆ

~ 18 ~
ภาพสรุ ปบุคลิกภาพของคนโครงสร้ างทรัพยากร

ด้ านสว่ าง


มีความรู้
ถ้ามีซูเปอร์ ฮีโร่ สักคนที่ถูกสร้างขึ้นบนโครงสร้างของคุ ณ คุณจะเป็ นเจ้าแห่ งข้อมูล ความรู ้
คือน้ าพุของความรู ้ที่มากขึ้น ตราบเท่าที่คุณแน่ใจว่าไม่มีใครที่จะรู ้มากเกินไปหรื อหยุดรู ้ได้
ทั้งหมดนี้ทาให้คุณเป็ นสารานุกรมเดินได้ตวจริ งในหมู่เพื่อนๆ อันที่จริ งคุณมีแนวโน้มที่จะ
ั
เป็ นอัจฉริ ยะและคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ (อย่างเช่นกวี หรื อนักแต่งเพลง) ด้วยซ้ า



ยึดมั่นในระเบียบวิธี
มีเพลงของพวกเด็กหน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใกล้บานอยู่เพลงหนึ่ งคือ “ทีละก้าว” และ
้
ไม่ใช่ ความลับเลยว่าพวกเขาแต่งเพลงนี้ เพื่อคุ ณ คุ ณเป็ นคนเคร่ งครั ดในระเบี ยบวิธีและมี
ระเบียบ ไม่มีอะไรทาให้คุณตื่นเต้นได้มากไปกว่าโครงสร้างที่เป็ นระบบระเบียบ



อดทน
่
คุณรู ้วาตัวเองอึดเหมือนวัว สามารถรอคอยนานเท่าไรก็ได้ก่อนพบวิธีแก้ปัญหาหรื อคาตอบ
่
ที่ชดเจน “ความตื่นใจในการไล่ล่า” ของคุณอยูที่การไล่ล่าค้นหาข้อมูลที่มากขึ้น
ั



ผู้ให้ คาปรึกษา
เมื่ อ ใดก็ ต ามที่ ถู ก ถาม คุ ณ มัก พร้ อ มที่ จ ะให้ ค าปรึ ก ษาเสมอ คุ ณ ยัง มี แ นวโน้ม ที่ จ ะให้
คาปรึ กษาที่ดี พร้ อมทั้งสามารถที่จะวิจยและค้นหาคาตอบของสิ่ งต่างๆ ในเชิ งลึกอีกด้วย
ั
คุณให้คาปรึ กษาและคาแนะนาต่างๆ ที่ละเอียดถี่ถวน
้



เปี่ ยมด้ วยจุดมุ่งหมาย
คุณเอาจริ งเอาจังกับทุกสิ่ งที่ทา และอยากให้สานึ กแห่ งจุดมุ่งหมายนาทางคุณ คุณไม่ใช่คน
ที่จะผลาญเวลาให้เสี ยเปล่าด้วยการทดดลองทาอะไรเพียงเพื่อความสนุ กหรื อไม่ใช่คนหลัก
ลอยที่เอาแต่ใจ ความจดจ่อมุ่งมันของคุณช่วยให้คุณบรรลุผลสาเร็ จในหลายสิ่ งหลายอย่าง
่

~ 19 ~


นักอุดมคติ
คุณเชื่ อสิ่ งที่ดีที่สุดในตัวคนอื่นและโลก พยายามเติมเต็มความคิดในเชิ งอุดมคติน้ ี ในทุกสิ่ ง
ทุกอย่างที่ทา ในขณะที่ คนอื่ นอาจทอดถอนใจว่าคุ ณเป็ นคนใจลอย คุ ณก็กาลังทาอย่างดี
ที่สุดด้วยความเชื่อว่าแนวคิดต่างๆ เหล่านั้นสามารถกลายเป็ นความจริ งได้

ด้ านมืด


น่ าเบื่อ
คุ ณต้องระวังว่าคุ ณไม่ไ ด้ทาให้คนอื่ นในงานปาร์ ต้ ี หรื องานสั งคมใดๆ ที่ ไ ม่ใช่ เรื่ องงาน
กลายเป็ นน่ าเบื่อไป คนส่ วนใหญ่ก็เหมือนคุ ณในแง่ ที่ตื่นเต้นกับอุ ปกรณ์ ไฮเทคขนาดเล็ก
อย่างไอโฟนหรื อไอแพต แต่คุณก็คงไม่อยากให้ใครมาบรรยายวิธีทาของพวกนี้ ต้ งแต่ตนจน
ั
้
จบกระบวนการให้คุณฟัง ดังนั้นคุณจึงมีแนวโน้มที่จะเป็ นจืดชืด และไม่ค่อยเป็ นดาวเด่นใน
กลุ่มของคน



ฟุ้ งซ่ าน
เพราะคุณมักคิดถึ งเรื่ องอื่นๆ อยู่เสมอ จึงมีแนวโน้มที่จะหลงลืมและไม่ระมัดระวัง คุณใช้
ชีวตอยูในหัวของคุณและคิดตามเกินไปจนไม่สามารถมุ่งเน้นความสนใจไปที่ผคน สิ่ งของ
ิ ่
ู้
และเหตุ การณ์ ต่างๆ ด้วยเหตุ น้ ี บางครั้ งคุ ณจึ งอาจไม่รู้สึกรู ้ สาอะไรกับคนอื่ นในบางครั้ ง
บางคราว

~ 20 ~


จอมผัดวันประกันพรุ่ ง
“อะไรที่ทาได้วนนี้ อย่าเลื่อนไปจนถึงวันพรุ่ งนี้” ประโยคนี้ มีไว้เพื่อคุณ ตอนนี้ ขอให้คุณพัก
ั
การอ่ า นไว้ก่ อ น แล้วไปท าอะไรก็ ตามที่ ต้อ งท าให้เ สร็ จจนเสร็ จ แล้วค่ อยกลับ มาอ่ า น
หนัง สื อเล่ มนี้ ต่อ คุ ณวิเคราะห์ มากเกิ นไป และพบว่า ยากที่ จะท าให้เสร็ จให้ท นเวลาได้
ั
รวมทั้งอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดด้วย



เจ้ าอารมณ์
คุณมีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรมด้วยพลังอารมณ์ของตนเองเสมอ ในขณะที่คุ ณอาจทา
ตัวมีเสน่ ห์และเป็ นกันเองในตอนเช้า คุณอาจกลายเป็ นเย็นชาและห่ างเหิ นขึ้นมาปุบปั บใน
ตอนกลางวัน ถึ งแม้คุณไม่ระบายอารมณ์ใส่ คนอื่นอย่างเปิ ดเผย แต่อารมณ์ ที่เปลี่ ยนแปลง
ของคุณจะทาให้คาพูดและพฤติกรรมของคุณเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งมีอิทธิ พลต่อคนอื่นๆ
่
คุณไม่ใช่คนประเภทที่ตื่นมาในตอนเช้าก็ยิมเป็ นอย่างแรก เพราะคุณตกอยูในห้วงความคิด
้
อย่างล้ าลึก



มองโลกในแง่ ร้าย
คุณมีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปยังด้านลบของสิ่ งต่างๆ มากเกินไป ลืมวิธีจาและให้คุณค่าของ
่ ้
ด้านที่เป็ นบวก ด้วยเหตุน้ ี จึงมีแนวโน้มที่จะท้อใจและถูกบันถอนอยูบางเสมอ จิตใจที่เงื่อง
่
่
หงอยของคุณยังอาจส่ งผลกระทบต่อคนอื่นด้วย คุณคิดอยูในหัวของคุณแล้วว่าสิ่ งต่างๆ จะ
ลงเอยเลวร้ ายอย่างไรตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่ มด้วยซ้ า ผลจากความเชื่ อที่มองโลกในแง่ร้ายซึ่ งมี
อิทธิ พลต่อพฤติกรรมของคุณ จึงทาให้คุณไม่ยอมเสี่ ยงทาอะไรด้วยเช่นกัน



ไม่ มั่นคง
ความคิดทั้งหมดของคุณนาพาให้คุณคิดเรื่ องของตัวเองมากเกินไป ซึ่ งนาไปสู่ ความรู ้สึกไม่
ั
มันคงเกี่ยวกับตัวเอง คุณมีภาพลักษณ์ของตัวเองที่ตกต่าอย่างเทียบไม่ได้กบตัวตนที่แท้จริ ง
่
ของคุณ และผลสาเร็ จทั้งหลายทั้งปวงของคุณ

~ 21 ~


การเลือกใส่ ใจ
คุ ณมี แนวโน้มที่จะใส่ ใจเฉพาะสิ่ งที่ คุณอยากมุ่งเน้นความสนใจเท่านั้น และหลี กเลี่ ยงสิ่ ง
อื่นๆ ที่เหลื อทั้งหมดลักษณะเช่ นนี้ อาจทาคนอื่นแทบคลังได้ คุ ณจึงอาจกลายเป็ นคนที่ไม่
่
คานึ งถึ งคนอื่ นและไม่ ใส่ ใ จคนอื่ น เพีย งเพราะไม่ อยากเปิ ดเผยตัวตนต่ออะไรบางอย่า ง
เท่านั้น



อุปทานว่าตัวเองป่ วย
คุณเป็ นคนที่วตกจริ ตและหมกมุ่นกับสุ ขภาพของคุณอย่างมาก และต้องการการรับรองจาก
ิ
แพทย์หรื อคนอื่นๆ ว่าสบายดีเสมอ คุณสามารถยกระดับการเป็ นหวัดธรรมดาให้กลายเป็ น
โรคร้ายแรงได้

สื้อเยีย
่

~ 22 ~
บุคลิกภาพในทีทางาน
่
ด้ านดี
นักคิด
“ช่ างวิเคราะห์ และตรวจสอบ”
คนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นสุ ดยอดนักคิด มีแนวโน้มที่จะวิเคราะห์ทุกสิ่ งทุกอย่างและไม่
เคยพอใจแค่การยอมรัยสิ่ งต่างๆ อย่างที่มนเป็ น ข้อมูลเป็ นทั้งแรงกระตุนและแรงบันดาลใจของพวก
ั
้
เขา พวกเขาไม่มีวนพอใจจนกว่าจะได้รับข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับโครงการหรื องานนั้นๆ ก่อนที่จะ
ั
ลงมือทาอะไรต่อไป
ด้วยเหตุน้ ี คนโครงสร้างทรัพยากรจึงมีความรู ้มาก และเป็ นหนึ่ งในบรรดาผูที่อ่านมากที่สุด
้
เท่าที่เคยพบ เป็ นคนอยากรู ้อยากเห็นมาก และมีธรรมชาติเป็ นนักตรวจสอบ คาถามที่พวกเขาชอบ
ถามมากที่สุดคือ “ทาไม” ตามด้วย “เพราะอะไร” พวกเขาเก่ งในการขุดและขุดจนพบต้นตอแห่ ง
ข้อมูลของพวกเขา
คนโครงสร้ า งทรั พ ยากรชอบศึ ก ษาและมุ่ ง เน้นไปยัง หัวข้อที่ ตนสนใจ ท าให้พ วกเขามี
เอกลักษณ์ ที่ค่อนข้างโดดเด่ นท่ามกลางคลื่ นมหาชนที่ มกอยากหาเส้นทางที่เร็ วที่ สุดหรื อเจ็บปวด
ั
น้อยที่สุดที่จะได้มาซึ่งข้อมูลโดยไม่ตองทางานมาก ในทางตรงข้ามพวกเขาเต็มใจขุดลึกและใช้เวลา
้
มากมายในการวิ จย และท าการบ้า นถ้า คิ ดว่า มัน จะน าไปที่ ไ หนสั ก แห่ ง ในอี ก ด้า นหนึ่ ง พวกเขา
ั
สามารถใช้เวลานานนับชัวโมงในการเรี ยนรู ้บางสิ่ งบางอย่างเพียงเพื่อการเรี ยนรู้เท่านั้น
่
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 อยากรู ้อยากเห็น
 อ่านมากและมีความรู ้มาก
 ข้อมูลคืออาวุธของพวกเขา
 ช่างวิเคราะห์และตรวจสอบ

~ 23 ~
มีระบบ
“ไปทีละขั้นตอน”
ั
สิ่ งที่คู่กบแนวโน้มด้านความรู ้ของคนโครงสร้างทรัพยากรคือ ความชอบที่จะทาอะไรไปที
ละขั้นตอนในทุกสิ่ งที่ทา พวกเขาไม่เชื่ อเรื่ องการทาอะไรหรื อการแก้ปัญหาแบบสุ่ มไปมัวๆ หรื อ
่
ปล่อยให้มนเป็ นไปเองตามธรรมชาติ เพราะพวกเขารับมือกับความคลุมเครื อ ความไม่แน่นอน และ
ั
ความสับสนได้ไม่ดี ลักษณะเช่ นนี้ ตรงข้ามโดยสิ้ นเชิ งกับสิ่ งที่พวกเขาเชื่ อ พวกเขาต้องรู ้ ว่าตนเอง
กาลังทาตามแผนงานที่มีความเฉพาะเจาะจงอย่างยิง ซึ่งจะนาพวกเขาจากจุด A ไปสู่ จุด B โดยไปตาม
่
ขั้นตอนที่กาหนดไว้เป็ นลาดับ
่
ผูคนสามารถเชื่ อใจคนโครงสร้างทรัพยากรได้วาเป็ นคนมีระบบและยึดมันในระบบเสมอ
้
่
ไม่ ใ ช่ ค นประเภทที่ ท าอะไรด้ว ยความมัก ง่ า ยและรี บ ร้ อ นแล้ว ล้ม ลุ ก คลุ ก คลานในแบบที่ ค น
โครงสร้างเพื่อนชอบทา การขาดโครงสร้างที่เป็ นระเบียบจะทาให้คนโครงสร้างทรัพยากรขัดเคือง
คลุมคลังด้วยความไม่ยอมรับ พวกเขาไม่เคยเริ่ มต้นแก้ปัญหาหรื อสร้างโปรแกรมโดยไม่ทาไปทีละ
้ ่
ขั้นตอนตั้งแต่ตนจนจบตั้งแต่แรก
้
เพราะคนโครงสร้างทรัพยากรมีธรรมชาติดานความมี ระบบกลไกสู ง จึงมุ่งที่จะค้นหาเหตุ
้
และผลของทุกปั ญหาและทุกสถานการณ์ การค้นคว้าหาข้อมูลอยูเ่ สมอ ทาให้พวกเขาสร้างระบบที่
พยายามมองว่ามันจะไม่มีวนผิดพลาดเพื่อจากัดความผิดพลาด และเพื่อให้แน่ ใจในความสาเร็ จที่
ั
ยิ่งใหญ่กว่าสาหรับพวกเขา การดาเนิ นการโดยไร้ แผนจะคล้ายการเดินทางเข้าสู่ ดินแดนที่ไม่รู้จก
ั
โดยไม่มีแผนที่ ซึ่ งเป็ นการเสี ยเวลาเปล่า โดยไม่มีหลักประกันว่าคุณจะไปถึงไหนได้จริ ง

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 มีระเบียบวิธี
 มีแผนเสมอ
 ไม่ชอบการกระทาที่ปล่อยให้เป็ นไปเองตามธรรมชาติ
 ต้องการความเป็ นระบบระเบียบมาก

~ 24 ~
อดทน
“ไม่ มวนเป็ นคนประเภท ฉันต้ องการมันตั้งแต่ เมือวานนี้”
ีั
่
คนโครงสร้ า งทรั พยากรไม่มี วนใจเร็ วด่ วนได้ หงุ ดหงิ ด และเร่ งรี บ เพราะพวกเขาชอบ
ั
ข้อมูลและการวิเคราะห์ และเพราะแนวโน้มที่ชอบค้นคว้าวิจยและการกระทาที่เป็ นไปตามระเบียบ
ั
วิธี พวกเขาเข้า ใจคุ ณ ค่ าของเวลาและใช้มนเพื่ อประโยชน์ของตน สาหรับพวกเขาแล้ว เวลาคื อ
ั
อุปกรณ์ที่ทาให้พวกเขาสามารถคิดวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่า คิดวิธีทาสิ่ งต่างๆ ด้วยวิธีใหม่ๆ หรื อเป็ นแค่
วิธีที่ปล่อยให้ความรู ้ ของพวกเขาหลอมรวมกันเป็ นบางสิ่ งที่มีประโยชน์ในอนาคต พวกเขาทางาน
ตามจังหวะนาฬิกาภายในตัวเอง เช่นเดียวกับใช้เวลามากเท่าที่ตนเองต้องการ
คนโครงสร้างทรัพยากรเพลิ ดเพลิ นกับการชาแหละวิธีต่างๆ ของวิธีการหนึ่ งๆ จนกว่าจะ
เข้าใจเต็มที่ในสิ่ งที่กาลังเกิดขึ้น พวกเขาไม่เคยกดดันคนอื่นให้ “เร็ วเข้าพร้อม” เพราะพวกเขาเข้าใจ
ว่าคนอื่นต้องการเวลาที่จะนึ กคิดและตอบสนองและเสนอวิธีแก้ปัญหาอย่างรอบคอบ สาหรับพวก
เขาแล้ว เวลาไม่ได้มีไว้ให้พิชิต เวลามีไว้ให้ใช้ และเป็ นสิ่ งที่ตองใส่ ใจมันอย่างอ่อนโยน
้
ั
โดยทัวไปแล้ว คนโครงสร้ างทรั พยากรมีบุคลิ กภาพเป็ นคนอดทน จะไม่ผูกคนอื่ นไว้กบ
่
มาตรฐานที่ไม่สมเหตุสมผล และเพราะธรรมชาติที่อยากรู ้ อยากเห็น พวกเขาจึงพยายามที่อยากรู้
อยากเห็ น พวกเขาจึงพยายามเข้าใจหรื อเรี ยนรู ้พฤติกรรมที่ไม่ดีก่อนจะด่วนตัดสิ น ด้วยเหตุน้ ี คนที่
ทางานกับคนโครงสร้างทรัพยากรจึงพบว่ามันเป็ นประสบการณ์ที่เครี ยดและกดดันมาก

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ประนีประนอม
 อดทน
 สมดุลและเป็ นระเบียบ
 ไมไมไม่กดดันคนอื่น

~ 25 ~
ไว้วางใจได้
“ชนะการแข่ งอย่ างช้ าๆ และมันคง”
่
คนโครงสร้างทรัพยากรมักไว้ใจได้ เป็ นที่ปรึ กษาที่ล้ าเลิศ แน่นอนว่าเป็ นเพราะความรู ้อน
ั
ลึกล้ าของพวกเขา แต่ก็เป็ นเพราะความแน่ วแน่ และไม่ออกนอกลู่นอกทางในการไล่ล่าความรู ้และ
ความจริ งด้วย พวกเขาจึงไม่ใช่ คนประเภทเดี๋ยวดี เดี๋ ยวร้ ายเอาแน่ นอนไม่ได้ ความเกรี้ ยวกราดและ
แปรปรวนทางอารมณ์จะไม่ส่งผลกระทบต่อวิธีที่พวกเขาปฏิบติต่อคนอื่นหรื อกับงานของตน
ั
วิธีที่มนคงและสมดุ ลของคนโครงสร้ างทรัพยากรทาให้พวกเขาเป็ นคนที่คนอื่นเข้าถึงได้
ั่
ง่าย พวกเขาเก่งมากในการให้คาปรึ กษาหรื อแนะนาคนที่ขาดความอดทนหรื อขาดแรงขับเคลื่ อนที่
่ ั่
จะคิดเพื่อตัดสิ นใจด้วยตัวเอง ด้วยเหตุน้ ี พวกเขาจึงอยูที่นนเพื่อคิดให้คนเหล่านั้น และที่จริ งนันก็คือ
่
สิ่ งที่พวกเขาทาได้ดีเยียมนันเอง
่ ่
คนอื่นมักพบว่าคนโครงสร้างทรัพยากรวางใจได้ ระมัดระวังและแน่ชดในสิ่ งที่ทาและไม่มี
ั
วันเดิมพันความก้าวหน้าของพวกเขาเองกับอาชีพการงานหรื อชื่อเสี ยงของคนอื่น ความดึงดูดใจและ
เสน่ ห์ของสถานภาพภายนอกเป็ นสิ่ งที่คนโครงสร้ างทรัพยากรไม่ค่อยสนใจ พวกเขาชอบใช้เวลา
สารวจเหตุผลเบื้องหลังบางสิ่ งบางอย่างมากกว่าจะแสวงหาผลตอบแทนแบบเร็ วหรื อแก้ไขปั ญหา
เพื่อผลระยะสั้น เพราะเหตุน้ ี คนอื่นจึงมักหวนกลับมาหาพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะความเชื่อถือ
ได้และความรับผิดชอบที่ไม่โอนไปเอนมาของพวกเขา

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 วางใจได้เสมอ
 จดจ่อ
 ไม่โอนเอนไปกับความตื่นเต้นไร้สาระหรื อการแก้ปัญหาแบบเร็ วๆ
 เล็งผลระยะยาว

~ 26 ~
ด้ านไม่ ดี
ผลัดวันประกันพรุ่ง
“สิ่ งทีทาได้ ในวันพรุ่งนี้ จะรีบทาวันนีไปทาไม”
่
้
ลัก ษณะอย่า งเดี ย วกับ ที่ ท าให้ค นโครงสร้ า งทรั พ ยากรเป็ นเพื่ อ นร่ วมงานหรื อลู ก จ้า งที่
รอบคอบและไว้วางใจได้น้ น ถ้าสุ ดโต่งเกินไปก็จะกลายเป็ นจุดอ่อน ลักษณะสาคัญของจุดอ่อนคือ
ั
ความต้องการที่ เกื อบเป็ นสัญชาตญาณที่ คอยแต่จะผัดวันประกันพรุ่ งหรื อหน่ วงเวลา ดังที่เราได้รู้
ก่อนหน้านี้แล้วว่า พวกเขาไม่ใช่คนประเภทที่จะผลีผลามกระโจนเข้าสู่ สิ่งใดๆ ก็ตาม
ในแง่ดี ลักษณะเช่ นนี้ สามารถป้ องกันไม่ให้เกิ ดความผิดพลาดหรื อข้อผิดพลาดร้ ายแรงที่
เป็ นผลของความหุ นหันพลันแล่น ความใจเร็ วด่วนได้ และความหงุดหงิด แต่การผัดวันประกันพรุ่ ง
ไม่ให้คุณแก่พวกเขาแต่อย่างใด ที่จริ งพวกเขาใช้เวลามากเกินไปกับการคิดเกี่ยวกับสถานการณ์หรื อ
ภารกิจว่าทาไมและอย่างไร จนบางครั้งล่วงเลยกาหนดแล้วเสร็ จโดยสิ้ นเชิ ง หรื อไม่สามารถส่ งมอบ
โครงการได้จนกระทัง มันสายเกิ น ไป ในขณะที่ พ วกเขาคิ ดว่า ตนเองก าลังท างานอยู่ (ด้วยการ
่
ค้นคว้าวิจยให้มากขึ้น) ส่ วนใหญ่แล้วมันเป็ นแค่กลยุทธ์ทาให้เขวซึ่ งเอื้อต่อการผัดวันประกันพรุ่ ง
ั
ในโลกแห่งการทางานที่เร่ งรี บ สิ่ งนี้ มกกลายเป็ นข้อเสี ยเปรี ยบถ้าไม่จดการปั ญหานี้ โดยเร็ ว
ั
ั
ถ้าคนโครงสร้างทรัพยากรให้เวลาตัวเองมากพอที่จะทาการบ้านและค้นคว้าวิจย การผัดวัน
ั
ประกันพรุ่ ง อาจไม่ใช่ สิ่งเลวร้ าย บางคนสามารถกินอะดรี นาลี นเป็ นอาหารและทางานได้ดีภายใต้
ความกดดัน ดังนั้นการผัดวันประกันพรุ่ งจึงเป็ นวิธีที่พวกเขาหน่วงเวลาสิ่ งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่
ส่ งที่พวกเขาไม่ตระหนักคือ พวกเขารังแต่ทาให้อะไรๆ เลวร้ายลงสาหรับตัวเอง
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ล่าช้าเสมอ
 ฝื นหน่วงเวลา
 เลื่อนเส้นตายออกไปด้วยการทาให้เขว
 ไม่สามารถเร่ งรี บได้เมื่อจาเป็ น

~ 27 ~
ระมัดระวัง
“ปลอดภัยเอาไว้ ก่อน – มากเกินไป”
ไม่มีใครถู กตาหนิ ได้ว่าเคยเรี ยกคนโครงสร้ างทรั พยากรว่าเป็ นพวกกล้าบ้าบิ่น เพราะใน
บรรดาลูกเล่นของพวกเขานั้นไม่มีความกล้าอยูเ่ ลย พวกเขามักยึดในความปลอดภัยไว้ก่อน และอยู่
ภายในขอบเขตนี้อย่างเคร่ งครัด ถึงแม้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เคยล้มเหลวในการตั้งคาถามเกี่ยวกับ
ทุกสิ่ งทุกอย่าง แต่ดวยเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนว่าพวกเขากลับไม่ต้ งคาถามเกี่ ยวกับข้อจากัดที่ถูก
้
ั
กาหนดไว้รอบตัวพวกเขา
บางทีนี่อาจเป็ นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็ นธรรม เพราะคนโครงสร้ างทรัพยากรคิดมากเสี ยจนมี
แนวโน้มที่จะคิดถึงเรื่ องต่างๆ มากเกินไป พวกเขาไตร่ ตรองอยูเ่ สมอโดยชอบสมมติกรณี “ถ้าหาก”
และเอาแต่สงสัยว่าอะไรได้ผลหรื อไม่ได้ผล ผลคือพวกเขากลายเป็ นคนระมัดระวังทุกสิ่ งที่ทา และ
แทบจะไม่ยอมเสี่ ยงเลย เพราะกลัวว่าบางสิ่ งบางอย่างอาจจะผิดพลาด
ลักษณะที่ตรงข้ามกับคนประเภทนี้ คือ คนที่พร้ อมจะเสี่ ยงเสมอ อาทิ คนโครงสร้างเพื่อน
การจะแสวงประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นและถ้ามันเกิดขึ้นได้น้ น ต้องอาศัยความสามารถที่จะโยน
ั
การคิดล่วงหน้าทิ้งไป และเพียงแค่ทาไปเลย แต่คนโครงสร้างทรัพยากรเอาแต่ไตร่ ตรองใคร่ ครวญ
และครุ่ นคิดคิดถึงเรื่ องต่างๆ มากเกินไปจนบางครั้งกลายเป็ นข้อเสี ยเปรี ยบ เพียงเพราะมันทาให้พวก
เขารู้สึกสบายใจเสมอเท่านั้น
ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ตั้งป้ อมไว้ก่อน
 ต่อต้านความเสี่ ยง
 ระแวดระวัง
่
 อยูแต่ในพื้นที่แห่ งความสบายใจมากเกินไป
 ขับเคลื่อนด้วยความรู ้สึกมันคงและความสบายใจ
่

~ 28 ~
ตัดสินใจไม่ เด็ดขาด
“ใช่ หรือไม่ ใช่ นั้นแหละคาถาม”
คนโครงสร้ างทรัพยากรมักเป็ นทุกข์เป็ นร้ อนเมื่อต้องตัดสิ นใจและหาข้อสรุ ปที่หนักแน่ น
นี่ เ ป็ นเพราะข้อ มู ล และความรู้ ม ากมายมหาศาลที่ ส ะสมต่ อ เนื่ อ งมายาวนาน เมื่ อ เวลาผ่า นไป
การหมกมุ่นครุ่ นคิดในข้อเท็จจริ งและตัวเลขมากมายที่สะสมไว้จึงนาพวกเขาไปสู่ สิ่งเดี ยว นันคือ
่
ความสับสน
เมื่อสับสน คนโครงสร้างทรัพยากรไม่รู้ว่าควรไปทางขวาหรื อทางซ้ายดี ในขณะที่ครุ่ นคิด
ถึงเรื่ องนี้ พวกเขาจะคิดถึงปั ญหาและประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหันขวา จากนั้นจะครุ่ นคิดถึง
่
ปั ญหาและประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหันซ้าย ไม่นานนักก็บอกความแตกต่างไม่ได้วาอะไรดี
่
อะไรไม่ดี ไม่วาจะเป็ นแนวทางใดในบรรดาทางเลือกเหล่านั้น แล้วก็ยิงคิดวกไปเวียนมาในเรื่ องนั้น
่
มากขึ้นไปอีก
ลักษณะแบบนี้เป็ นสัญลักษณ์คลาสสิ กของการตัดสิ นใจไม่เด็ดขาด เมื่อสถานการณ์เลวร้าย
จนกระทังจาเป็ นต้องทาอะไรบางอย่าง คนโครงสร้ างทรัพยากรจะไม่ใช่คนที่จะตัดสิ นใจ พวกเขา
่
ั
วุ่นวายอยู่กบ การค้นหาวิธี แก้ปัญหาที่ ดีที่ สุ ดโดยที่ ไม่ รู้ว่า ในบางจุ ดได้แค่ น้ ันก็นับ ว่า ดี ที่ สุ ดแล้ว
่
ไม่วาพวกเขาจะแน่ ใจหรื อไม่ก็ตาม ส่ วนหนึ่ งมาจากการไร้ ความสามารถในการรับมือกับความไม่
แน่ นอน พวกเขาต้องการแน่ ใจว่าอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องเสมอ แต่ชีวิตจริ งเราก็มกเห็ นว่าทุกวันนี้
ั
เป็ นไปไม่ได้ที่จะแน่ใจในอะไรได้เลยแม้แต่เรื่ องเดียว

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ไม่สามารถตัดสิ นได้
 พะว้าพะวังในการใช้ดุลยพินิจ
 ต้องการความแน่ นอน...
 ...แต่ไม่มีวนแน่ใจว่าจะแน่ใจได้เมื่อใด
ั

~ 29 ~
ขีบ่น
้
“บ่ นไปเสี ยทุกเรื่อง”
คนโครงสร้างทรัพยากรเก่งมากในการบ่นว่าเรื่ องนั้นเรื่ องนี้ ผิดพลาดอย่างไรอันที่จริ งพวก
เขาสามารถให้ขอมูลสถิติและข้อเท็จจริ งว่าทาไมอะไรๆ จึงเกิดผิดพลาดขึ้นได้ และจะใช้เวลาหลาย
้
ชัวโมงบอกคุณเรื่ องสถิติและข้อเท็จจริ งเหล่านั้น ผลคือพวกเขาช่างวิพากษ์วิจารณ์และจุกจิกเกินไป
่
และจะผลาญเวลาที่มีค่าให้หมดไปกับการแจกแจงความแตกต่างของข้อมูลละเอียดยิบ ทั้งที่มนไม่ได้
ั
สลักสาคัญอะไรนักหนา
แต่ถาขอวิธีแก้ไขปั ญหาหรื อทางเลือกในการทาให้อะไรๆ ดีข้ ึน คนโครงสร้างทรัพยากรมัก
้
ไม่ส ามารถให้ได้ ส่ วนใหญ่พวกเขามี แนวโน้ม ที่ จะเลี่ ยงความรั บ ผิดชอบ ไม่ใ ช่ เพราะมี นิสั ยไม่
ซื่ อ ตรงและไม่ แ น่ ว แน่ เพี ย งแต่ ไ ม่ อ ยากจะรั บ ผิ ด ชอบต่ อ อะไรบางอย่ า งมากกว่า ความอยาก
รั บ ผิ ด ชอบนั้น แสดงถึ ง การต้อ งท าอะไรบางอย่ า งเกี่ ย วกับ มัน แต่ พ วกเขาสบายใจกับ การนั่ง
่
วิพากษ์วจารณ์อยูบนโซฟามากกว่า
ิ
ด้วยเหตุน้ ี เมื่อคนโครงสร้างทรัพยากรทาผิดพลาด จึงมีแนวโน้มที่จะซ่ อนตัวโดยหวังว่าจะ
ไม่มีใครสังเกตเห็น ไม่ใช่เพราะตีสองหน้าหรื อชัวร้าย ที่จริ งพวกเขาไม่ได้เป็ นแบบนั้นเลย พวกเขา
่
แค่ห่วง “การรักษาหน้า” มากเท่านั้น การยอมรับความผิดพลาดก็เท่ากับการสารภาพว่าตัวเองไม่รู้
ข้อเท็จจริ งทั้งหมด ซึ่ งเป็ นเรื่ องที่รับไม่ได้อย่างยิ่งสาหรับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเอาแต่พูดซ้ าๆ
ซากๆ ถึงปั ญหาและบ่นถึงทุกสิ่ งที่ผดพลาด เพื่อลดทอนความสนใจที่คนอื่นมีต่อตัวพวกเขา
ิ

ข้ อเท็จจริงสาคัญ
 ขี้บ่น
 จุกจิกจูจ้ ี
้
 วิพากษ์วจารณ์มากเกินไป
ิ
 ปฏิเสธความรับผิดชอบ
 ซ่ อนเร้นความผิด

~ 30 ~
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)
นักคิด (Thinker)

Contenu connexe

Similaire à นักคิด (Thinker)

เด็กปัญญาเลิศ....11
เด็กปัญญาเลิศ....11เด็กปัญญาเลิศ....11
เด็กปัญญาเลิศ....11Benjarat Meechalat
 
โวหารในการเขียน
โวหารในการเขียนโวหารในการเขียน
โวหารในการเขียนkrubuatoom
 
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตรครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตรniralai
 
Dhamma nearby 16/06/2011volume 54
Dhamma nearby 16/06/2011volume 54Dhamma nearby 16/06/2011volume 54
Dhamma nearby 16/06/2011volume 54dentyomaraj
 
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรักการจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรักSarid Tojaroon
 
ความสำคันและคุณค่าวรรณกรรม
ความสำคันและคุณค่าวรรณกรรมความสำคันและคุณค่าวรรณกรรม
ความสำคันและคุณค่าวรรณกรรมalibaba1436
 
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69Taraya Srivilas
 
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)อัมพร ศรีพิทักษ์
 

Similaire à นักคิด (Thinker) (9)

เด็กปัญญาเลิศ....11
เด็กปัญญาเลิศ....11เด็กปัญญาเลิศ....11
เด็กปัญญาเลิศ....11
 
โวหารในการเขียน
โวหารในการเขียนโวหารในการเขียน
โวหารในการเขียน
 
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตรครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
ครูมิใช่ช่างปั้นอันวิจิตร
 
Dhamma nearby 16/06/2011volume 54
Dhamma nearby 16/06/2011volume 54Dhamma nearby 16/06/2011volume 54
Dhamma nearby 16/06/2011volume 54
 
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรักการจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
การจะมีอีคิวที่ดีในชีวิตคู่และความรัก
 
ความสำคันและคุณค่าวรรณกรรม
ความสำคันและคุณค่าวรรณกรรมความสำคันและคุณค่าวรรณกรรม
ความสำคันและคุณค่าวรรณกรรม
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
ค้นหาตัวเอง อุซะ usa 69
 
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
5 การฟังและการดูอย่างมีประสิทธิภาพ(154-183)
 

Plus de Sunny Stong

Plus de Sunny Stong (7)

Phonetics: Consonants
Phonetics: ConsonantsPhonetics: Consonants
Phonetics: Consonants
 
Coffee 25022557
Coffee 25022557Coffee 25022557
Coffee 25022557
 
Takayama 2
Takayama 2 Takayama 2
Takayama 2
 
Timeline of life 1
Timeline of life 1 Timeline of life 1
Timeline of life 1
 
Tall
Tall Tall
Tall
 
Differences 1
Differences 1 Differences 1
Differences 1
 
Takayama Vocabs
Takayama VocabsTakayama Vocabs
Takayama Vocabs
 

นักคิด (Thinker)

  • 1. นักคิด (โครงสร้ างทรัพยากร) พิถพถน ช่ างวิเคราะห์ ี ิั ไว้ วางใจได้ ~1~
  • 3. บุคลิกภาพ บทนา นักคิด (โครงสร้ างทรัพยากร) คนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นที่รู้จกกันว่าคือนักคิด พวกเขาช่างวิเคราะห์และล้ าลึก รวมทั้งมี ั ความสามารถในการแก้ไขปั ญหา เป็ นที่ปรึ กษาผูล้ าเลิ ศซึ่ งมีขอเท็จจริ งและตัวเลขที่พร้อมให้หยิบ ้ ้ ่ ฉวยมาได้เสมอ (หรื อถ้ายังไม่มี แน่ใจได้วาพวกเขาจะหามันมาได้) พวกเขาเคร่ งครัดกับระเบียบวิธี และแน่ ชัดในทุ ก สิ่ งที่ ทา รั กที่จะมีข้อมูล เพราะความรู ้ คือสิ่ ง ที่ จูง ใจและกระตุ นพวกเขาให้ไปสู่ ้ ระดับสู งขึ้นไปอีก คนโครงสร้ า งทรั พ ยากรเก่ ง ในการตั้ง ค าถามสิ่ ง ที่ อยู่เ บื้ องหลัง ทุ ก โครงการ ทุ ก ภารกิ จ ทุ กข้อมูล หรื อทุ ก ขั้นตอนดาเนิ นการ โดยทัวไปพวกเขามี พ ฤติ ก รรมช่ า งพินิจพิเคราะห์ มากและ ่ เงี ยบขรึ ม รวมทั้ง จดจ่อที่ จะเข้าถึ งสาเหตุ รากเหง้าหรื อหัวใจของเรื่ องเสมอ ด้วยเหตุ น้ ี จึงเป็ นคน มีระบบระเบียบอย่างยิง พวกเขาจะวิจยทุกสิ่ งทุกอย่างด้วยความละเอียดถี่ถวนก่อนทาสิ่ งใดๆ เสมอ ั ้ ่ ในอีกด้านหนึ่ ง คนโครงสร้ างทรัพยากรก็อาจชอบอวดภูมิและเชื่ องช้าอย่างสุ ดโต่ง พร้ อม กันนั้นก็มีแนวโน้มที่จะเป็ นคนจืดชืดและใส่ ใจข้อเท็จจริ งและตัวเลขมากเกินไป ทาอะไรก็มกยืดเยื้อ ั โดยหวังว่าจะได้ขอมูลมากขึ้น และบางครั้งการคิดมากเกินไปของพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะขัดขวาง ้ ความก้าวหน้าในการตัดสิ นใจของพวกเขาเอง แทนที่จะดาเนินการอย่างรวดเร็ ว กลับมีแนวโน้มที่จะ คิดมากยิงขึ้นอีกในสิ่ งที่จาเป็ นต้องทาให้เสร็ จโดยไม่เคยบรรลุถึงข้อสรุ ป ่ ~3~
  • 4. ด้ านดี ซื่อสัตย์ “ทุ่มเทเสี ยสละจนถึงทีสุด” ่ บุ ค ลิ ก ภาพของคนโครงสร้ า งทรั พ ยากรคื อ การเป็ นเพื่ อ นที่ แ ท้จ ริ ง และภัก ดี เป็ นคนที่ ซื่ อสัตย์สาหรั บเพื่อนๆ ที่พวกเขาคบหา เพราะคนโครงสร้ างทรั พยากรไม่คบใครเป็ นเพื่อนง่ายๆ ไม่ เ หมื อ นคนโครงสร้ า งอื่ น ๆ ที่ ใ ส่ ใ จกับ สิ่ ง ภายนอกมากกว่า และถู ก ดึ ง ดู ด เข้า หาผูค นได้ง่ า ย ้ คนโครงสร้างทรั พยากรชอบคิดเรื่ องของตัวเองมากกว่าและต้องใช้เวลาในการทาความรู้ จกผูคน ั ้ พวกเขาต้องสร้างความเชื่อถือขึ้นมาอย่างช้าๆ เลือกเพื่อนอย่างระมัดระวัง เพราะหลังจากคบใครเป็ น เพื่อนแล้ว ก็มีแนวโน้มที่จะเป็ นเพื่อนกับคนคนนั้นตลอดไป ด้วยเหตุน้ ี เมื่อคนโครงสร้างทรัพยากรทาตัวเป็ นมิตรกับผูคนและเริ่ มใส่ ใจคนเหล่านั้นพวก ้ เขาจะไม่ได้เป็ นเพียงเพื่อนกินเพื่อนเที่ยว พวกเขาเป็ นคนที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดี มาก เป็ นคนที่จะ ยืนเคียงข้างเพื่อนไม่ว่าในยามสุ ขหรื อทุกข์ เป็ นคนเสี ยสละอย่างยิ่ง และใส่ ใจการคบหาเพื่อนเพื่อ ค้นหาสัมพันธภาพในอุดมคติ คนโครงสร้างทรัพยากรคบเพื่อนอย่างระมัดระวังและชอบที่จะอยูเ่ บื้องหลัง พร้ อมที่จะรับ ั ฟั งความทุกข์ร้อน และนาวิธีคิดเชิ งวิเคราะห์ของพวกเขามาใช้กบปั ญหาของเพื่อนๆ มีธรรมชาติที่ เป็ นห่วงเป็ นใยผูคนในชีวตของพวกเขา ้ ิ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  จงรักภักดี  เสมอต้นเสมอปลาย  ไม่ใช่แค่เพื่อนกินเพื่อนเที่ยว  มิตรภาพเพื่อมิตรภาพ ~4~
  • 5. ช่ างคิด “เพือนต้ องมาก่อน” ่ คนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นเพื่อนที่มีเมตตาและใจดี ถ้าเพื่อนประสบกับวันอันเลวร้าย หรื อ พานพบกับช่ วงเวลาเลวร้ าย พวกเขาจะแสดงความเห็ นห่ วงและถามไถ่อย่างรวดเร็ วว่าพวกเขาจะ ช่ วยอะไรได้บ ้างที่ จะทาให้ค นเหล่ า นั้นรู ้ สึก ดี ข้ ึ นได้อย่างไรก็ตาม พวกเขามี แนวโน้มที่ จะเป็ นที่ ปรึ กษาซึ่งได้แต่คิดและพูดมากกว่าแทนที่จะลงมาช่วยลุยด้วยตนเอง ที่จริ งคนโครงสร้ างทรัพยากรอาจสะเทือนใจต่อความโชคร้ ายของเพื่อนจนน้ าตาไหลด้วย ความเห็ นใจสงสาร พวกเขาไม่ ไ ด้แ ค่ นั่ง สบายๆ พิ จารณาปั ญหาของเพื่ อน แต่ พ วกเขารู้ สึ ก ถึ ง ความรู้สึกและอารมณ์ของเพื่อนด้วย ถ้าพวกเขาห่ วงใยใส่ ใจเพื่อนด้วยความเข้าอกเข้าใจอย่างท่วม ท้น และมีแนวโน้มที่จะทุ่มเทเสี ยสละตัวเองให้เพื่อนจนหมดสิ้ น แต่พวกเขาต้องรู ้สึกมันคงในความ ่ เป็ นเพื่อนก่อนที่จะเกิดสิ่ งนี้ ดังนั้นเพื่อนที่ เป็ นคนโครงสร้ างทรั พยากรจึ งจริ งใจมาก ไม่ ใช่ เพื่อนกิ นที่ มาคอยเฮไหน เฮนั่นแล้วก็หายหัวไป นอกจากนั้นพวกเขายังเต็มใจมองสิ่ ง ต่างๆ จากมุ มมองของเพื่อน และยก ประโยชน์ ใ ห้แ ก่ ค วามสงสั ย ก่ อนที่ จะด่ วนสรุ ป อะไรด้ว ย พวกเขาไม่ ไ ด้ม องว่า เพื่ อ นเป็ นเพี ย ง “ตัวช่วย” ในชีวต พวกเขาให้คุณค่าแก่เพื่อนตามที่คนเหล่านั้นเป็ น ิ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ใจดีมีเมตตา  เข้าใจความรู ้สึกคนอื่น  จริ งใจ  ให้คุณค่าแก่เพื่อนในฐานะคนคนหนึ่ ง ~5~
  • 6. ผู้ฟังอย่ างมีจุดประสงค์ “มีไหล่ให้ ซบหน้ าร้ องไห้ เสมอ” คนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นนักฟั งที่ดีมาก ตรงข้ามกับคนโครงสร้ างอื่นบางโครงสร้ างที่ มักเอาแต่พดตลอดเวลาและไม่เคยฟั งแม้แต่คาเดียว คนโครงสร้างทรัพยากรฟั งอย่างล้ าลึกและอย่าง ู มีจุดประสงค์ พวกเขาวิเคราะห์ปัญหาของเพื่อน และพยายามเสนอวิธีแก้ไขปั ญหาที่ดีที่สุด ดังนั้นเพื่อนที่เป็ นคนโครงสร้ างทรัพยากรจึงเป็ นบุคคลในอุดมคติสาหรับการไปหาพร้อม กับ ค าพร่ าบ่ น พวกเขาอดทนมากและจะไม่ ต ัด สิ น คนอื่ น ที่ อ ยากคร่ าครวญหรื อระบายออก เข้าใจความต้องการของเพื่อนที่จะหาที่ระบายอารมณ์ ที่ปลอดภัย พวกเขาจึงเป็ นนักฟั งที่ดี เพราะ ่ ไม่ขดจังหวะหรื อเอาแต่แสดงความเห็นที่ไม่เข้าท่าของตัวเองอยูตลอดเวลา ั ่ นอกจากนั้นคนโครงสร้างทรัพยากรยังไม่อยากอยูใต้แสงไฟบนเวที หรื อไม่อยากทาตัวเด่น เป็ นจุ ดสนใจ พวกเขาพอใจกับการอยู่เบื้ องหลัง ไม่ค่อยช่ วงชิ ดความใส่ ใจในหมู่เพื่อน ดังนั้นถ้า เพื่อนๆ อยากให้พวกเขาฟั ง นันละเป็ นสิ่ งที่พวกเขาจะทาพวกเขาไม่เหมือนคนโครงสร้างเพื่อนใน ่ ่ แง่ที่วา พวกเขาจะไม่พยายามแข่งกับเพื่อนว่า “ใครมีเรื่ องที่น่าเศร้าที่สุด” ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ใส่ ใจ  ไม่แทรกแซง  ให้เพื่อนมีโอกาสพูด  ไม่ตดสิ นหรื อขัดจังหวะ ั ~6~
  • 7. ด้ านไม่ ดี ไม่ มนคง ั่ “คิดว่าตัวเองไม่ ดีพออยู่เรื่อย” คนโครงสร้างทรัพยากรมีธรรมชาติที่ มองเข้าด้านใน และมีแนวโน้มที่จะคิดและวิเคราะห์ เรื่ องราวต่างๆ มากเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงมีสานึ กเกี่ยวกับตัวเองที่ค่อนข้างไม่มนคง และไม่ใช่คน ั่ ประเภทวางโตหรื อเชื่ อมันเหมือนคนโครงสร้างอื่น บางโครงสร้าง ด้วยเหตุน้ ี พวกเขาจึงมีแนวโน้ม ่ ่ ที่จะตั้งคาถามเกี่ ยวกับจุดที่เขาอยูในจักรวาล เช่นเดียวกับจุดที่เขาอยู่ในมิตรภาพและความสัมพันธ์ ต่างๆ คนโครงสร้ างทรัพยากรยังรู ้ สึกไม่มนคงอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมทางสังคมและชอบอยู่ ั่ ่ เบื้องหลังโดยที่ไม่ถูกรบกวนหรื อไม่ถูกสังเกตเห็นมากกว่า ไม่ชอบอยูใต้แสงไฟสปอตไลท์ แต่ชอบ ใช้ชีวตแบบมีประสบการณ์ดวยการฟังจากเพื่อนๆ มากกว่า ดังนั้นจึงเป็ นคนที่ค่อนข้างน่าเบื่อ เพราะ ิ ้ ไม่ค่อยชอบออกไปข้างนอกเก็บเกี่ ยวประสบการณ์ ด้วยตัวเอง บางครั้งการให้พวกเขาทดลองทา อะไรใหม่ๆ หรื อสิ่ งที่ไม่คาดคิดมาก่อนจึงเปล่าประโยชน์ นอกจากนั้นเพราะคนโครงสร้างทรัพยากร มีความรู ้ สึกไม่มนคง จึงมีแนวโน้มที่จะแสดง ั่ ความไม่มนคงออกมาด้วยพฤติกรรมต่างๆ นานาที่ขดแย้งกันในทางตรงข้าม ซึ่ งอาจทาให้เพื่อนๆ ั่ ั สับสนและอารมณ์เสี ยได้ เพื่อนๆ อาจพบว่าเป็ นเรื่ องยากที่จะเข้าใจรู ปแบบพฤติกรรมของพวกเขา ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ขาดสานึ กที่เข้มแข็งเกี่ยวกับตัวเอง  ใช้ชีวตผ่านเพื่อน ิ  ไม่เข้าสังคม  ในทางตรงข้าม ~7~
  • 8. ถอยห่ าง “ระแวดระวัง” ด้วยธรรมชาติ ที่สนใจแต่เรื่ องตัวเอง คนโครงสร้ างทรั พยากรจึ งค่อนข้างสุ ขุมทั้งในด้าน ความรู้ สึกและความคิด พวกเขาไม่ใช่ คนประเภทที่ จะขึ้นไปตะโกนระบายอารมณ์ บนหลังคา แต่ บางครั้งก็อาจถอนตัวห่ างออกมามาก หรื อค้นพบตัวตนที่แท้จริ งของพวกเขาได้ยาก รวมทั้งยังชอบ ่ ใจลอย หรื ออาจเป็ นเพราะกาลังคิดถึงปั ญหาที่ลึกซึ้ งอยูก็ได้ คนโครงสร้างทรัพยากรอาจทาให้เพื่อนๆ แทบคลังเพราะการเป็ นคนแบบนี้ บางครั้งการ ่ ่ พยายามจะรู ้ให้ได้วาจริ งๆ แล้วพวกเขารู ้สึกอย่างไรหรื อคิดอะไรก็ไม่ได้อะไรมากไปกว่าเกมทายใจ และทาให้เหนื่อยล้าเต็มทีในท้ายที่สุด คนโครงสร้างทรัพยากรยังไม่เก่งในการแสดงความรักความชอบอีกด้วย ดังนั้นจึงอาจถอย หนี เมื่อเพื่อนๆ ทาแบบนั้น ไม่ใช่ เพราะไม่ชอบหรื อไม่ซาบซึ้ ง เพียงแต่ไม่แน่ ใจว่าจะตอบสนอง อย่างไรดี นี่ จึงหมายความว่าบางครั้งการเป็ นเพื่อนกับพวกเขาก็เหมือนการเดิ นบนเปลื อกไข่ หรื อ เหมือนการเล่นกับเด็ก ข้ อเท็จจริงสาคัญ  สันโดษ  สงบปากสงบคา  ไม่เก่งในการแสดงความรักความชอบ  ดูเหมือนเหิ นห่าง ~8~
  • 9. อาฆาต “เก็บเอาเรื่องต่ างๆ มาเป็ นอารมณ์ ” คนโครงสร้างทรัพยากรทุ่มเทให้แก่ความสัมพันธ์ของตนมาก ทั้งๆ ที่พฤติกรรมขัดแย้งกัน หรื อบางครั้ งเพราะพฤติกรรมที่ขดแย้งกันเหล่ านี้ เองที่ทาให้ความสัมพันธ์ ของพวกเขากับผูคนมี ั ้ ความหมายมากในจิตใจส่ วนลึ กของพวกเขา เพราะพวกเขาไม่สามารถคบหาเป็ นเพื่อนกับใครได้ ั ้ ง่ายๆ เมื่อพวกเขาสานสร้างความสัมพันธ์กบผูคนได้ จึงคาดหวังว่ามันจะมีความหมายบางอย่างและ มักทุ่มเทอารมณ์ให้แก่มนมากกว่าที่เห็นภายนอก ั ด้วยเหตุที่คนโครงสร้างทรัพยากรจงรักภักดีและทุ่มเทเสี ยสละ จึงคาดหวังสิ่ งเดียวกันนี้ จาก เพื่อนของพวกเขาแบบเต็มร้อย ดังนั้นถ้าพบว่าเพื่อนๆ ไม่ทุ่มเทและจงรักภักดีทดเทียมกันแล้วล่ะก็ ั นรกต้องแตกแน่ๆ พวกเขาจะกลายเป็ นศัตรู และแสดงพฤติกรรมที่สื่อถึงความระแวงและความไม่ เชื่อถือ ยิงกว่านั้นคนโครงสร้างทรัพยากรยังไม่ค่อยให้อภัย เพื่อนๆ อาจต้องขอโทษขอโพยหลายๆ ่ ครั้งก่อนที่จะเข้าถึงพวกเขาได้ หรื อถ้าอะไรๆ เลวร้ายลง บางคนอาจกลายเป็ นคนอาฆาตและเก็บงา ความเคียดแค้นชิ งชังซ่ อนเร้นไว้ยาวนาน ภายนอกพวกเขาอาจแกล้งทาเป็ นว่าไม่เป็ นไร แต่บางครั้ง ความไม่เป็ นสุ ขและความโกรธของพวกเขาอาจซึมออกมาให้เห็นได้จากการตั้งข้อสังเกตบางอย่างที่ แปลกประหลาดและจากพฤติกรรมที่เย็นชาของพวกเขา ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ไม่ให้อภัย  เก็บงาความชิ งชังซ่อนเร้นเอาไว้  ไม่ปล่อยวางความเจ็บปวดในอดี ตง่ายๆ  เก็บเอาเรื่ องต่างๆ มาเป็ นอารมณ์ ~9~
  • 10. ช่ างวิพากษ์ วจารณ์ ิ “จุกจิกจู้จีกบความผิดพลาดและข้ อบกพร่ อง” ้ั คนโครงสร้ างทรัพยากรมี ธรรมชาติ ที่เคยชิ นกับการวิเคราะห์ และค้นหาข้อบกพร่ องของ ทุกสิ่ งทุกอย่างด้วยการตรวจสอบอย่างละเอียดยิบ นี่ เป็ นวิธีที่พวกเขาคิดและปฏิบติต่อโลก พวกเขา ั ต้องการชาแหละเรื่ องราวต่างๆ เพื่อเข้าถึงหัวใจของมันและเข้าใจว่าสิ่ งต่างๆ ทางานอย่างไร นี่ คือวิธี ที่พ วกเขาคิ ด หาเหตุ ผ ลเกี่ ยวกับ สิ่ ง ที่ กาลัง เกิ ดขึ้ นรอบตัว โชคไม่ ดีที่ มุ มมองแบบนี้ ย งท าให้ผูค น ั ้ รอบตัวพวกเขาพลอยเป็ นไปด้วย ดังนั้นคนโครงสร้ างทรั พยากรจึ งเป็ นเพื่อนที่ ช่างวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ชมใครง่ายๆ รวมทั้ง สงสัยในคาชมที่ได้รับ ที่จริ งถ้าคุณอยากทาให้พวกเขารู ้สึกดี ก็จงเตรี ยมรับการสวนกลับจากพวกเขา หลังจากที่คุณพูดชมอะไรบางอย่าง พวกเขามีวธีตอกกลับและทาให้คนที่ชมรู ้สึกแย่ ลักษณะเช่นนี้ ยง ิ ั เนื่ อ งมาจากความรู ้ สึ ก ไม่ ม ั่น คง ซึ่ งท าให้ พ วกเขาไม่ ส มารถมองเห็ น สิ่ ง ที่ ดี ใ นตัว เอง ถึ ง แม้ ลักษณะเฉพาะนี้จะพบได้ในคนโครงสร้างทรัพยากรที่มีแผนภูมิปาจื่อแบบสุ ดโต่งก็ตาม คนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นคนปล่อยวางยาก ส่ วนหนึ่ งมาจากความต้องการที่จะทาให้ทุก อย่างสมบูรณ์แบบ และอีกส่ วนหนึ่ งมาจากแรงขับเคลื่อนที่อยากสร้างภาวะที่เป็ นอุดมคติ โชคร้ายที่ บางครั้งสิ่ งนี้ อาจทาลายความสัมพันธ์ให้ย่อยยับได้ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาไม่แสดงความเห็ นของ ตนเอง และเอาแต่ต้ งคาถาม รวมทั้งอาจแสดงความเห็ นในเชิ งวิพากษ์วิจารณ์มากเกิ นไปเพราะการ ั พิจารณาสิ่ งต่างๆ จากทุกแง่ทุกมุม ข้ อเท็จจริงสาคัญ  จุกจิกจูจ้ ี ้  ไม่สามารถรับหรื อให้คาชม  ชี้ขอบกพร่ อง ้  มีมุมมองเชิงวิพากษ์วจารณ์ในทุกสิ่ งทุกอย่าง ิ ~ 10 ~
  • 11. บุคลิกภาพในฐานะพ่อแม่ ด้ านดี มีหลักการ “คาดหวังมาตรฐานสู ง” คนโครงสร้างทรัพยากรไม่ใช่ พ่อแม่ที่ปล่อยปละละเลยและเห็ นว่าลูกไม่เคยทาอะไรได้ดี พวกเขาแค่ยดมันมาตรฐานความประพฤติส่วนตัวบางอย่างของตน จึงคาดหวังว่าลูกๆ จะเติบโตโดย ึ ่ ยึดมันในหลักการและมีความตั้งใจดี รวมทั้งปลูกฝังคุณค่าต่างๆ ที่อยากให้มีในตัวลูกของพวกเขา ่ คนโครงสร้างทรัพยากรมีมาตรฐานสู งในสิ่ งที่พวกเขาคาดหวังจากลูกๆ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี สิ่ งสาคัญสาหรับพวกเขาคือ ลูกๆ รู้จกแยกแยะถูกผิด และยึดมันกับมาตรฐานที่ดีท้ งทางคาพูดและ ั ั ่ ความประพฤติ พวกเขาไม่ชอบเลี้ยงลูกให้กลายเป็ นพลเมืองที่ไม่เอาจริ งเอาจังของโลก พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ า งทรัพยากรอยากทาทุ ก อย่างให้ถูกต้อง และปลู กฝั งส านึ กแห่ ง ความพิ ถี พิ ถ ัน ในตัว ลู ก ด้ว ยตารางเวลา หลัก การ และความประพฤติ ต่ า งๆ ไม่ ส่ ง เสริ ม ความ เกี ย จคร้ า นหรื อความประพฤติ ที่ ไ ม่ ดี และที่ จริ ง แล้วจะไม่ ย อมอดกลั้นต่ อความเกี ย จคร้ า นและ พฤติกรรมที่ไม่ดีของลูก พวกเขาอยากให้ลูกประพฤติตวเหมาะสม มีชีวิตดีเลิศ และเป็ นคนเก่งที่สุด ั เท่าที่จะทาได้ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  กาหนดมาตรฐานเอาไว้สูง  คาดหวังลูกให้ยดถือคุณค่าต่างๆ ึ  ส่ งเสริ มพฤติกรรมที่ดี  ปลูกฝังหลักการต่างๆ ให้ลูก ~ 11 ~
  • 12. มีวนัย ิ “ปลูกฝังสานึกแห่ งโครงสร้ างให้ ลูก” ในฐานะพ่อแม่ คนโครงสร้ างทรัพยากรมีระเบียบและยึดมันในระเบียบวิธีมาก มีวินยกับ ั ่ ชี วิตตัวเอง ในทานองเดี ยวกันก็ส่งเสริ มสานึ กเกี่ ยวกับโครงสร้ างในชี วิตของลูก ด้วย พวกเขาให้ ่ คุณค่าแก่การบริ หารเวลาและสานึกแห่งระเบียบ รวมทั้งไม่ชอบให้สิ่งต่างๆ วุนวาย คนโครงสร้างทรัพยากรดูแลบ้านให้เป็ นระเบียบเรี ยบร้อย และขยายไปถึงการจัดตารางเวลา ของครอบครัวให้เป็ นระเบียบด้วยเช่นกัน พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างทรัพยากรใส่ ใจกับรายละเอียด เล็กๆ น้อยๆ ด้วยความระมัดระวัง และไม่ชอบให้ชีวิตของลูกๆ เสี ยกระบวนด้วยความหละหลวม และตารางเวลาที่ยงเหยิง ุ่ เพราะพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างทรัพยากรไม่ชอบความยุ่งเหยิงและความรกรุ งรัง ดังนั้น ่ ้ หากพวกเขามีลูกที่ไม่มีระเบียบและเลอะเทอะกว่าตนเองอยูบาง ก็พร้อมที่จะจัดเก็บข้าวของที่ลูกทา ่ รกไว้ให้เรี ยบร้อย พวกเขาทนไม่ได้ที่จะอยูและใช้ความคิดในสถานที่ที่รกเลอะเทอะไม่มีความเป็ น ระเบียบเรี ยบร้อย และชอบให้สิ่งต่างๆ ดาเนินไปอย่างราบรื่ น ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ยึดมันในระเบียบวิธี ่  จัดโครงสร้างชีวิตของลูก  บริ หารเวลาได้ดี ่  ไม่ชอบความยุงเหยิงและความรกรุ งรัง ~ 12 ~
  • 13. ให้ กาลังใจ “ให้ คุณค่ าแก่ความตั้งใจเรียนและความสามารถพิเศษ” พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างทรัพยากรภาคภูมิใจในผลสาเร็ จของลูกๆ เพราะพวกเขาสนุ กกับ การคิดและการเรี ยนรู ้ รวมทั้งให้คุณค่าแก่ความรู ้ พวกเขาปลูกฝังความทะเยอทะยานและความฝัน แบบเดียวกันในตัวลูกๆ รวมทั้งมีความคิดสร้างสรรค์มากหรื อเกือบเหมือนอัจฉริ ยะในวิธีปฏิบติต่อ ั สิ่ งที่สนใจและหลงใหล ในทานองเดี ยวกัน คนโครงสร้ างทรั พยากรก็ส่งเสริ มความก้าวหน้าทางการศึกษา ความ ตั้งใจเรี ยน และการเรี ยนรู ้ของลูกๆ พวกเขาไม่เคยปฏิเสธการซื้ อหนังสื อ ตารา อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ หรื อหนังสื อคณิ ตศาสตร์ ให้ลูกๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็ นอะไรก็ตามที่ขยายความสนใจในวิชาใดๆ ก็ ตามที่ลูกๆ สนใจ บ้านของคนโครงสร้างทรัพยากรให้คุณค่าแก่ความรู ้ สูงมาก พวกเขาสร้างบรรยากาศของ สถานที่ที่เอื้อต่อการค้นคว้าความรู ้ และการเรี ยนรู ้ อย่างยิ่ง การเน้นย้ าของพวกเขาในเรื่ องวินยและ ั โครงสร้ างช่ วยกระตุนลูกๆ ในด้านนี้ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างทรัพยากรจะเป็ นพ่อแม่ที่ส่งเสี ยง ้ เชี ยร์ ดวยความภาคภูมิใจในตัวลูก ในวันรับรางวัล หรื อวันเทศกาลวิทยาศาสตร์ หรื อวันอภิปราย ้ เรื่ องที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เน้นย้ าการเรี ยนรู ้  ส่ งเสริ มความรู ้  ส่ งเสริ มการแสวงหาความก้าวหน้าทางวิชาการของลูก  สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรี ยนรู ้ ~ 13 ~
  • 14. ไม่ เห็นแก่ตว ั “เสี ยสละความต้ องการของตัวเองเพือลูก” ่ คนโครงสร้ างทรัพยากรห่ วงใยในความเป็ นอยู่ของลูกอย่างลึ กซึ้ ง และถื อว่าลู กเป็ นส่ วน หนึ่ งแห่ งตัวตนของพวกเขา ถือว่าความสาเร็ จของลูกสะท้อนถึ งตัวตนของพวกเขา ให้คุณค่าแก่ลูก และความผูกพันที่ มีต่อลู ก ด้วยเหตุน้ ี จึงถื ออารมณ์ เป็ นใหญ่และพร้ อมที่จะเสี ยสละชี วิตด้านใดๆ ของตัวเองเพื่อลูกได้ โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อดูภายนอกคนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นคนเงียบขรึ ม ดังนั้นจึงไม่ค่อย แสดงออกทางคาพูดหรื อการกระทา อย่างไรก็ตาม ความรักและความคานึงถึงลูกๆ นั้นล้ าลึกมาก ไม่ ว่าจะเกิ ดอะไรขึ้น พวกเขาจะทุ่มเทพยายามอย่างหนักเพื่อให้แน่ ใจว่าลูกๆ จะอยู่อย่างสบายและมี ความสุ ขเป็ นอันดับแรกก่อนสิ่ งอื่น คนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นคนแบบที่หยิบยื่นสิ่ งที่ดีที่สุดให้ลูก ยอมขายทรัพย์สินที่ได้รับ เป็ นมรดกเพื่อส่ งเสี ยให้ลูกเรี ยนมหาวิทยาลัยจนจบ หรื อให้ลูกที่ล่วงเข้าวัยกลางคนแล้วมีปัญหาตก ่ ้ งานย้ายกลับมาอยูบานได้ ความรักของพวกเขาไร้ขีดจากัด อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเขามีแผนภูมิปาจื่อ ที่ไม่ดี ก็อาจกลายเป็ นพ่อแม่ที่กวนใจ น่ าราคาญ ซึ่ งเอาแต่ถามว่า “กิ นข้าวหรื อยัง” อาบน้ าหรื อยัง และคาถามอื่นๆ ในทานองเดียวกันนี้ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เสี ยสละความต้องการของตัวเอง  ให้อย่างสุ ดโต่ง  ไม่ค่อยเห็นแก่ตว ั  คิดถึงลูกก่อน ~ 14 ~
  • 15. ด้ านไม่ ดี ชอบความสมบูรณ์ แบบ “กาหนดมาตรฐานสู งจนทาไม่ ได้ ” คนโครงสร้างทรัพยากรให้คุณค่าต่อความสมบูรณ์แบบ เมื่อประกอบกันอุดมคติและการรัก ความรู้ ของพวกเขา จึงทาให้เป็ นพ่อแม่ที่เรี ยกร้ องสู งอย่างแท้จริ ง จริ งๆ แล้วพวกเขาเป็ นคนชอบ ความสมบูรณ์แบบและคาดหวังสิ่ งที่ดีที่สุดจากทุกสิ่ งทุกอย่าง รวมทั้งจากลูกๆ ด้วย บางครั้งก็ลืมไป ่ ว่าลูกๆ ก็เป็ นคน ซึ่ งมีพฤติกรรมและการกระทาที่ยุงเหยิงและซับซ้อน ไม่ใช่ขอเท็จจริ งที่ตองมีแต่ ้ ้ ความชัดเจนและไร้ซ่ ึงความผิดพลาด ดัง นั้นคนโครงสร้ า งทรั พ ยากรจึ ง ก าหนดมาตรฐานที่ สู ง มากเกิ นจะท าได้ใ ห้แก่ ลู ก และ เรี ย กร้ อ งมากเกิ นไปจากลู ก ๆ เมื่ อลัก ษณะบุ ค ลิ ก ภาพของพ่อแม่ ที่ เป็ นคนโครงสร้ า งทรั พ ยากร แสดงออกในทางลบ พวกเขาจะคล้ายหม้อแรงดันสู ง นั่นคื อ เอาลู กๆ ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ หายใจไม่ออกและร้ อนจัด โดยหวังว่าลูกจะกลายเป็ นเด็กในอุดมคติที่สมบูรณ์ แบบอย่างที่พวกเขา เห็นภาพในความคิดของตนเอง ด้วยเหตุน้ ี ลูกๆ ของคนโครงสร้างทรัพยากรจึงมีแนวโน้มที่จะต่อต้านแนวทางที่เคร่ งครัด เหล่านี้ และเลื อกทาตัวตรงข้ามกับสิ่ งที่พ่อแม่อยากให้เป็ น การต้องใช้ชีวิตตามมาตรฐานที่สูงมาก ตลอดเวลาทาให้เหนื่ อยล้าได้มาก พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างทรัพยากรที่ฉลาดจะรู ้เรื่ องนี้ และหยุด การเรี ยกร้องที่ไร้เหตุผลและไม่สอดคล้องกับความเป็ นจริ งจนเกินไปของพวกเขา ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ตั้งมาตรฐานไว้สูง  คาดหวังมากเกินไป  อยากให้ลูกสมบูรณ์แบบ  มีความคิดที่เป็ นอุดมคติและไม่สอดคล้องกับความเป็ นจริ งว่าอะไร เป็ นสิ่ งที่ยอมรับได้ ~ 15 ~
  • 16. หัวเก่ า “เป็ นแค่ เด็กทีพถีพถันเกินไป” ่ ิ ิ พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างทรัพยากรยังเป็ นโรค “สมบูรณ์แบบเกิ นไป” อีกด้วย พวกเขาใส่ ใจกับความถูกต้องและความพิถีพิถนเกิ นไปจนบางครั้งสู ญเสี ยความรู ้ สึกแห่ งความสนุ กสนานไป ั และบ่อยครั้งที่การไล่ล่าความถูกต้องก็เป็ นเรื่ องน่าเบื่อมากและค่อนข้างน่าราคาญด้วย ผลคือพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างทรัพยากรอาจทาให้ลูกๆ เบื่อแทบสลบ ดูเหมือนเป็ นไป ไม่ได้เลยที่ใครจะอวดภูมิได้มากเท่านี้ โดยเฉพาะในเรื่ องกฎเกณฑ์ ขั้นตอนและระเบียบวิธีต่างๆ แต่คนโครงสร้ างทรัพยากรจะพิสูจน์ให้เห็ นว่าคนเหล่านั้นผิดเสมอ ในฐานะพ่อแม่ พวกเขามักพูด ถึงประเด็นและระเบียบต่างๆ ซ้ าแล้วซ้ าอีกเพียงเพื่อให้แน่ใจว่าลูกของพวกเขาทาถูกต้อง นอกจากนั้นบางครั้ งคนโครงสร้ า งทรั พยากรยัง ปล่ อยวางและละวางเรื่ องต่า งๆ ได้ย าก ่ เพราะมักกังวลว่าจะทาพลาด หรื อทาสิ่ งที่ผด หรื อทาเรื่ องยุงเหยิง จนมันดูดกลืนเอาความสนุ กสนาน ิ และความเพลิ ดเพลิ นไปจากสิ่ งที่น่าสนุ กที่ สุด (ซึ่ งบังเอิญมักยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์ แบบ) ไปจน หมด ข้ อเท็จจริงสาคัญ  อาจจืดชืดและน่าเบื่อ  อวดภูมิมากเกิ นไป  กังวลกับกฎเกณฑ์และกฎระเบียบต่างๆ มากเกินไป  ลืมวิธีใช้ชีวตให้สนุก ิ ~ 16 ~
  • 17. มีปมผู้ทนทุกข์ “พ่อแม่ ทาทุกอย่ างเพือลูกนะ” ่ จุดดี จุดหนึ่ งของพ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้ างทรัพยากรคือ ความสามารถที่จะเป็ นคนไม่เห็ น แก่ตวและยอมทุ่มเทเสี ยสละตัวเองเพื่อความรักและความสุ ขของลูก อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน ั ลักษณะเช่นนี้จะเลยเถิดเกินไปหรื อแสดงออกมาในด้านลบ ทาให้พวกเขากลายเป็ นผูทนทุกข์ ้ ในสถานการณ์ แบบนี้ คนโครงสร้ างทรั พยากรไม่มี วนที่ จะลื มเตื อนใจลู กว่าพวกเขาได้ ั เสี ยสละมากแค่ไหนเพื่อความสุ ขของลูก ถ้าพบว่าลูกๆ แตกต่างจากพวกเขาไปเพียงเล็กน้อย หรื อ เบี่ยงเบนไปจากเส้นทางที่พวกเขาได้วางเอาไว้ให้อย่างชัดเจน พวกเขาจะไม่รอช้าที่จะใช้ปมผูทน ้ ทุกข์น้ ีเพื่อทาให้ลูกรู ้สึกผิด นี่ คือลักษณะอีกประการหนึ่ งที่พ่อแม่ที่เป็ นคนโครงสร้างทรัพยากรอาจทาให้ลูกๆ ต่อต้าน หรื อไม่ยอมพูดคุยและไม่ร่วมมือ อย่างไรก็ตาม พวกเขามักมองไม่เห็นอันตรายของการเล่นบทผูทน ้ ทุกข์ และเมื่อพวกเขาทาจนเป็ นนิสัยแล้ว ก็จะเลิกได้ยาก การเล่นบทผูตกเป็ นเหยื่อหรื อผูได้รับความ ้ ้ ทุกข์ไม่ใช่สิ่งที่ควรทา โดยเฉพาะอย่างยิงเพราะลูกๆ เองก็ไม่ได้ขอให้พวกเขาทาแบบนั้นตั้งแต่แรก ่ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  เล่นบท “เหยือ” ่  พยายามเรี ยกร้องความเห็นอกเห็นใจจากลูก  กระตุนความรู ้สึกผิดของลูก ้  เรี ยกร้ องความใส่ ใจด้วยพฤติกรรมแบบ “สงสารพ่อแม่หน่ อย” ~ 17 ~
  • 18. บงการทางอารมณ์ “ลูกไม่ รักพ่ อแม่ หรือ ทาไมลูกถึงทาอย่ างนี” ้ เรื่ องน่าแปลกเกี่ยวกับคนโครงสร้างทรัพยากรคือ ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ค่อยสบายใจที่จะแสดง อารมณ์ออกมา แต่พวกเขากลับบงการเก่ง โดยเฉพาะเมื่อเล่นบทพ่อแม่อนที่จริ งพวกเขาเก่งในการ ั กระตุกเชือกเส้นที่ถูกเพื่อทาให้ลูกๆ รู ้สึกแย่ พ่อแม่ ที่ เป็ นคนโครงสร้ า งทรั พ ยากรมี แนวโน้ม ที่ จะโกรธขึ้ ง เมื่ อ ลู ก ๆ ไม่ เห็ นพ้องด้ว ย บางครั้งอาจถึงกับก่อ “กาแพงยักษ์” กั้นระหว่างตนเองกับลูก หรื อทา “สงครามเย็น” กับลูกด้วยการ นิ่ งเงียบไม่ยินดียินร้ าย และแสดงความเย็นชาราวกับว่าพวกเขาถูกทาร้ายความรู ้ สึก ไม่ใช่ เพราะใจ ร้าย แต่เพราะไม่แน่ใจว่าจะแสดงความรู ้สึกต่างๆที่ “น่าเกลียด” อันได้แก่ ความโกรธ ความเจ็บปวด ความผิดหวัง และความเศร้า ออกมาอย่างไรมากกว่า ดังนั้นคนโครงสร้างทรัพยากรจึงใช้วิธีที่เป็ นปั ญหาในการสื่ อความรู ้สึกกับลูกๆ พวกเขายัง อาจพยายามใช้วิธีต่างๆ อาทิ ทาให้ลูกเกิดความรู ้สึกผิด หรื อทาให้ลูกรู ้ สึกแย่ที่ทาร้ายความรู ้ สึกพ่อ แม่ ด้วยการนังทาหน้าบูดบึ้งอยู่ที่มุมห้องในช่ วงเวลาอาหารค่ าของครอบครัว หรื อทาหน้าขุ่นเคือง ่ ในระหว่างมื้อเช้า วิธีของพวกเขาไร้สาระอย่างเห็นได้ชด บางครั้งมันอาจน่าสนุ กถ้าไม่ทาให้เรื่ องยิ่ง ั เลวร้ ายขึ้นไปอีก ไม่ตองสงสัยว่าลูกๆ ของพวกเขารู ้ สึกว่าบางครั้งต้องเล่นบทเป็ นพ่อหรื อเป็ นแม่ ้ ของพวกเขาเสี ยเอง ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ใช้อารมณ์บงการลูก  มีแนวโน้มที่จะทาหน้าบูดบึ้งหรื อบึ้งตึง  อาจทาตัวเย็นชาและห่างเหิ น เมื่ออารมณ์ เสี ย  ไม่สามารถแสดงอารมณ์ไม่พอใจออกมาตรงๆ ~ 18 ~
  • 19. ภาพสรุ ปบุคลิกภาพของคนโครงสร้ างทรัพยากร ด้ านสว่ าง  มีความรู้ ถ้ามีซูเปอร์ ฮีโร่ สักคนที่ถูกสร้างขึ้นบนโครงสร้างของคุ ณ คุณจะเป็ นเจ้าแห่ งข้อมูล ความรู ้ คือน้ าพุของความรู ้ที่มากขึ้น ตราบเท่าที่คุณแน่ใจว่าไม่มีใครที่จะรู ้มากเกินไปหรื อหยุดรู ้ได้ ทั้งหมดนี้ทาให้คุณเป็ นสารานุกรมเดินได้ตวจริ งในหมู่เพื่อนๆ อันที่จริ งคุณมีแนวโน้มที่จะ ั เป็ นอัจฉริ ยะและคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ (อย่างเช่นกวี หรื อนักแต่งเพลง) ด้วยซ้ า  ยึดมั่นในระเบียบวิธี มีเพลงของพวกเด็กหน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใกล้บานอยู่เพลงหนึ่ งคือ “ทีละก้าว” และ ้ ไม่ใช่ ความลับเลยว่าพวกเขาแต่งเพลงนี้ เพื่อคุ ณ คุ ณเป็ นคนเคร่ งครั ดในระเบี ยบวิธีและมี ระเบียบ ไม่มีอะไรทาให้คุณตื่นเต้นได้มากไปกว่าโครงสร้างที่เป็ นระบบระเบียบ  อดทน ่ คุณรู ้วาตัวเองอึดเหมือนวัว สามารถรอคอยนานเท่าไรก็ได้ก่อนพบวิธีแก้ปัญหาหรื อคาตอบ ่ ที่ชดเจน “ความตื่นใจในการไล่ล่า” ของคุณอยูที่การไล่ล่าค้นหาข้อมูลที่มากขึ้น ั  ผู้ให้ คาปรึกษา เมื่ อ ใดก็ ต ามที่ ถู ก ถาม คุ ณ มัก พร้ อ มที่ จ ะให้ ค าปรึ ก ษาเสมอ คุ ณ ยัง มี แ นวโน้ม ที่ จ ะให้ คาปรึ กษาที่ดี พร้ อมทั้งสามารถที่จะวิจยและค้นหาคาตอบของสิ่ งต่างๆ ในเชิ งลึกอีกด้วย ั คุณให้คาปรึ กษาและคาแนะนาต่างๆ ที่ละเอียดถี่ถวน ้  เปี่ ยมด้ วยจุดมุ่งหมาย คุณเอาจริ งเอาจังกับทุกสิ่ งที่ทา และอยากให้สานึ กแห่ งจุดมุ่งหมายนาทางคุณ คุณไม่ใช่คน ที่จะผลาญเวลาให้เสี ยเปล่าด้วยการทดดลองทาอะไรเพียงเพื่อความสนุ กหรื อไม่ใช่คนหลัก ลอยที่เอาแต่ใจ ความจดจ่อมุ่งมันของคุณช่วยให้คุณบรรลุผลสาเร็ จในหลายสิ่ งหลายอย่าง ่ ~ 19 ~
  • 20.  นักอุดมคติ คุณเชื่ อสิ่ งที่ดีที่สุดในตัวคนอื่นและโลก พยายามเติมเต็มความคิดในเชิ งอุดมคติน้ ี ในทุกสิ่ ง ทุกอย่างที่ทา ในขณะที่ คนอื่ นอาจทอดถอนใจว่าคุ ณเป็ นคนใจลอย คุ ณก็กาลังทาอย่างดี ที่สุดด้วยความเชื่อว่าแนวคิดต่างๆ เหล่านั้นสามารถกลายเป็ นความจริ งได้ ด้ านมืด  น่ าเบื่อ คุ ณต้องระวังว่าคุ ณไม่ไ ด้ทาให้คนอื่ นในงานปาร์ ต้ ี หรื องานสั งคมใดๆ ที่ ไ ม่ใช่ เรื่ องงาน กลายเป็ นน่ าเบื่อไป คนส่ วนใหญ่ก็เหมือนคุ ณในแง่ ที่ตื่นเต้นกับอุ ปกรณ์ ไฮเทคขนาดเล็ก อย่างไอโฟนหรื อไอแพต แต่คุณก็คงไม่อยากให้ใครมาบรรยายวิธีทาของพวกนี้ ต้ งแต่ตนจน ั ้ จบกระบวนการให้คุณฟัง ดังนั้นคุณจึงมีแนวโน้มที่จะเป็ นจืดชืด และไม่ค่อยเป็ นดาวเด่นใน กลุ่มของคน  ฟุ้ งซ่ าน เพราะคุณมักคิดถึ งเรื่ องอื่นๆ อยู่เสมอ จึงมีแนวโน้มที่จะหลงลืมและไม่ระมัดระวัง คุณใช้ ชีวตอยูในหัวของคุณและคิดตามเกินไปจนไม่สามารถมุ่งเน้นความสนใจไปที่ผคน สิ่ งของ ิ ่ ู้ และเหตุ การณ์ ต่างๆ ด้วยเหตุ น้ ี บางครั้ งคุ ณจึ งอาจไม่รู้สึกรู ้ สาอะไรกับคนอื่ นในบางครั้ ง บางคราว ~ 20 ~
  • 21.  จอมผัดวันประกันพรุ่ ง “อะไรที่ทาได้วนนี้ อย่าเลื่อนไปจนถึงวันพรุ่ งนี้” ประโยคนี้ มีไว้เพื่อคุณ ตอนนี้ ขอให้คุณพัก ั การอ่ า นไว้ก่ อ น แล้วไปท าอะไรก็ ตามที่ ต้อ งท าให้เ สร็ จจนเสร็ จ แล้วค่ อยกลับ มาอ่ า น หนัง สื อเล่ มนี้ ต่อ คุ ณวิเคราะห์ มากเกิ นไป และพบว่า ยากที่ จะท าให้เสร็ จให้ท นเวลาได้ ั รวมทั้งอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดด้วย  เจ้ าอารมณ์ คุณมีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรมด้วยพลังอารมณ์ของตนเองเสมอ ในขณะที่คุ ณอาจทา ตัวมีเสน่ ห์และเป็ นกันเองในตอนเช้า คุณอาจกลายเป็ นเย็นชาและห่ างเหิ นขึ้นมาปุบปั บใน ตอนกลางวัน ถึ งแม้คุณไม่ระบายอารมณ์ใส่ คนอื่นอย่างเปิ ดเผย แต่อารมณ์ ที่เปลี่ ยนแปลง ของคุณจะทาให้คาพูดและพฤติกรรมของคุณเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งมีอิทธิ พลต่อคนอื่นๆ ่ คุณไม่ใช่คนประเภทที่ตื่นมาในตอนเช้าก็ยิมเป็ นอย่างแรก เพราะคุณตกอยูในห้วงความคิด ้ อย่างล้ าลึก  มองโลกในแง่ ร้าย คุณมีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปยังด้านลบของสิ่ งต่างๆ มากเกินไป ลืมวิธีจาและให้คุณค่าของ ่ ้ ด้านที่เป็ นบวก ด้วยเหตุน้ ี จึงมีแนวโน้มที่จะท้อใจและถูกบันถอนอยูบางเสมอ จิตใจที่เงื่อง ่ ่ หงอยของคุณยังอาจส่ งผลกระทบต่อคนอื่นด้วย คุณคิดอยูในหัวของคุณแล้วว่าสิ่ งต่างๆ จะ ลงเอยเลวร้ ายอย่างไรตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่ มด้วยซ้ า ผลจากความเชื่ อที่มองโลกในแง่ร้ายซึ่ งมี อิทธิ พลต่อพฤติกรรมของคุณ จึงทาให้คุณไม่ยอมเสี่ ยงทาอะไรด้วยเช่นกัน  ไม่ มั่นคง ความคิดทั้งหมดของคุณนาพาให้คุณคิดเรื่ องของตัวเองมากเกินไป ซึ่ งนาไปสู่ ความรู ้สึกไม่ ั มันคงเกี่ยวกับตัวเอง คุณมีภาพลักษณ์ของตัวเองที่ตกต่าอย่างเทียบไม่ได้กบตัวตนที่แท้จริ ง ่ ของคุณ และผลสาเร็ จทั้งหลายทั้งปวงของคุณ ~ 21 ~
  • 22.  การเลือกใส่ ใจ คุ ณมี แนวโน้มที่จะใส่ ใจเฉพาะสิ่ งที่ คุณอยากมุ่งเน้นความสนใจเท่านั้น และหลี กเลี่ ยงสิ่ ง อื่นๆ ที่เหลื อทั้งหมดลักษณะเช่ นนี้ อาจทาคนอื่นแทบคลังได้ คุ ณจึงอาจกลายเป็ นคนที่ไม่ ่ คานึ งถึ งคนอื่ นและไม่ ใส่ ใ จคนอื่ น เพีย งเพราะไม่ อยากเปิ ดเผยตัวตนต่ออะไรบางอย่า ง เท่านั้น  อุปทานว่าตัวเองป่ วย คุณเป็ นคนที่วตกจริ ตและหมกมุ่นกับสุ ขภาพของคุณอย่างมาก และต้องการการรับรองจาก ิ แพทย์หรื อคนอื่นๆ ว่าสบายดีเสมอ คุณสามารถยกระดับการเป็ นหวัดธรรมดาให้กลายเป็ น โรคร้ายแรงได้ สื้อเยีย ่ ~ 22 ~
  • 23. บุคลิกภาพในทีทางาน ่ ด้ านดี นักคิด “ช่ างวิเคราะห์ และตรวจสอบ” คนโครงสร้างทรัพยากรเป็ นสุ ดยอดนักคิด มีแนวโน้มที่จะวิเคราะห์ทุกสิ่ งทุกอย่างและไม่ เคยพอใจแค่การยอมรัยสิ่ งต่างๆ อย่างที่มนเป็ น ข้อมูลเป็ นทั้งแรงกระตุนและแรงบันดาลใจของพวก ั ้ เขา พวกเขาไม่มีวนพอใจจนกว่าจะได้รับข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับโครงการหรื องานนั้นๆ ก่อนที่จะ ั ลงมือทาอะไรต่อไป ด้วยเหตุน้ ี คนโครงสร้างทรัพยากรจึงมีความรู ้มาก และเป็ นหนึ่ งในบรรดาผูที่อ่านมากที่สุด ้ เท่าที่เคยพบ เป็ นคนอยากรู ้อยากเห็นมาก และมีธรรมชาติเป็ นนักตรวจสอบ คาถามที่พวกเขาชอบ ถามมากที่สุดคือ “ทาไม” ตามด้วย “เพราะอะไร” พวกเขาเก่ งในการขุดและขุดจนพบต้นตอแห่ ง ข้อมูลของพวกเขา คนโครงสร้ า งทรั พ ยากรชอบศึ ก ษาและมุ่ ง เน้นไปยัง หัวข้อที่ ตนสนใจ ท าให้พ วกเขามี เอกลักษณ์ ที่ค่อนข้างโดดเด่ นท่ามกลางคลื่ นมหาชนที่ มกอยากหาเส้นทางที่เร็ วที่ สุดหรื อเจ็บปวด ั น้อยที่สุดที่จะได้มาซึ่งข้อมูลโดยไม่ตองทางานมาก ในทางตรงข้ามพวกเขาเต็มใจขุดลึกและใช้เวลา ้ มากมายในการวิ จย และท าการบ้า นถ้า คิ ดว่า มัน จะน าไปที่ ไ หนสั ก แห่ ง ในอี ก ด้า นหนึ่ ง พวกเขา ั สามารถใช้เวลานานนับชัวโมงในการเรี ยนรู ้บางสิ่ งบางอย่างเพียงเพื่อการเรี ยนรู้เท่านั้น ่ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  อยากรู ้อยากเห็น  อ่านมากและมีความรู ้มาก  ข้อมูลคืออาวุธของพวกเขา  ช่างวิเคราะห์และตรวจสอบ ~ 23 ~
  • 24. มีระบบ “ไปทีละขั้นตอน” ั สิ่ งที่คู่กบแนวโน้มด้านความรู ้ของคนโครงสร้างทรัพยากรคือ ความชอบที่จะทาอะไรไปที ละขั้นตอนในทุกสิ่ งที่ทา พวกเขาไม่เชื่ อเรื่ องการทาอะไรหรื อการแก้ปัญหาแบบสุ่ มไปมัวๆ หรื อ ่ ปล่อยให้มนเป็ นไปเองตามธรรมชาติ เพราะพวกเขารับมือกับความคลุมเครื อ ความไม่แน่นอน และ ั ความสับสนได้ไม่ดี ลักษณะเช่ นนี้ ตรงข้ามโดยสิ้ นเชิ งกับสิ่ งที่พวกเขาเชื่ อ พวกเขาต้องรู ้ ว่าตนเอง กาลังทาตามแผนงานที่มีความเฉพาะเจาะจงอย่างยิง ซึ่งจะนาพวกเขาจากจุด A ไปสู่ จุด B โดยไปตาม ่ ขั้นตอนที่กาหนดไว้เป็ นลาดับ ่ ผูคนสามารถเชื่ อใจคนโครงสร้างทรัพยากรได้วาเป็ นคนมีระบบและยึดมันในระบบเสมอ ้ ่ ไม่ ใ ช่ ค นประเภทที่ ท าอะไรด้ว ยความมัก ง่ า ยและรี บ ร้ อ นแล้ว ล้ม ลุ ก คลุ ก คลานในแบบที่ ค น โครงสร้างเพื่อนชอบทา การขาดโครงสร้างที่เป็ นระเบียบจะทาให้คนโครงสร้างทรัพยากรขัดเคือง คลุมคลังด้วยความไม่ยอมรับ พวกเขาไม่เคยเริ่ มต้นแก้ปัญหาหรื อสร้างโปรแกรมโดยไม่ทาไปทีละ ้ ่ ขั้นตอนตั้งแต่ตนจนจบตั้งแต่แรก ้ เพราะคนโครงสร้างทรัพยากรมีธรรมชาติดานความมี ระบบกลไกสู ง จึงมุ่งที่จะค้นหาเหตุ ้ และผลของทุกปั ญหาและทุกสถานการณ์ การค้นคว้าหาข้อมูลอยูเ่ สมอ ทาให้พวกเขาสร้างระบบที่ พยายามมองว่ามันจะไม่มีวนผิดพลาดเพื่อจากัดความผิดพลาด และเพื่อให้แน่ ใจในความสาเร็ จที่ ั ยิ่งใหญ่กว่าสาหรับพวกเขา การดาเนิ นการโดยไร้ แผนจะคล้ายการเดินทางเข้าสู่ ดินแดนที่ไม่รู้จก ั โดยไม่มีแผนที่ ซึ่ งเป็ นการเสี ยเวลาเปล่า โดยไม่มีหลักประกันว่าคุณจะไปถึงไหนได้จริ ง ข้ อเท็จจริงสาคัญ  มีระเบียบวิธี  มีแผนเสมอ  ไม่ชอบการกระทาที่ปล่อยให้เป็ นไปเองตามธรรมชาติ  ต้องการความเป็ นระบบระเบียบมาก ~ 24 ~
  • 25. อดทน “ไม่ มวนเป็ นคนประเภท ฉันต้ องการมันตั้งแต่ เมือวานนี้” ีั ่ คนโครงสร้ า งทรั พยากรไม่มี วนใจเร็ วด่ วนได้ หงุ ดหงิ ด และเร่ งรี บ เพราะพวกเขาชอบ ั ข้อมูลและการวิเคราะห์ และเพราะแนวโน้มที่ชอบค้นคว้าวิจยและการกระทาที่เป็ นไปตามระเบียบ ั วิธี พวกเขาเข้า ใจคุ ณ ค่ าของเวลาและใช้มนเพื่ อประโยชน์ของตน สาหรับพวกเขาแล้ว เวลาคื อ ั อุปกรณ์ที่ทาให้พวกเขาสามารถคิดวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่า คิดวิธีทาสิ่ งต่างๆ ด้วยวิธีใหม่ๆ หรื อเป็ นแค่ วิธีที่ปล่อยให้ความรู ้ ของพวกเขาหลอมรวมกันเป็ นบางสิ่ งที่มีประโยชน์ในอนาคต พวกเขาทางาน ตามจังหวะนาฬิกาภายในตัวเอง เช่นเดียวกับใช้เวลามากเท่าที่ตนเองต้องการ คนโครงสร้างทรัพยากรเพลิ ดเพลิ นกับการชาแหละวิธีต่างๆ ของวิธีการหนึ่ งๆ จนกว่าจะ เข้าใจเต็มที่ในสิ่ งที่กาลังเกิดขึ้น พวกเขาไม่เคยกดดันคนอื่นให้ “เร็ วเข้าพร้อม” เพราะพวกเขาเข้าใจ ว่าคนอื่นต้องการเวลาที่จะนึ กคิดและตอบสนองและเสนอวิธีแก้ปัญหาอย่างรอบคอบ สาหรับพวก เขาแล้ว เวลาไม่ได้มีไว้ให้พิชิต เวลามีไว้ให้ใช้ และเป็ นสิ่ งที่ตองใส่ ใจมันอย่างอ่อนโยน ้ ั โดยทัวไปแล้ว คนโครงสร้ างทรั พยากรมีบุคลิ กภาพเป็ นคนอดทน จะไม่ผูกคนอื่ นไว้กบ ่ มาตรฐานที่ไม่สมเหตุสมผล และเพราะธรรมชาติที่อยากรู ้ อยากเห็น พวกเขาจึงพยายามที่อยากรู้ อยากเห็ น พวกเขาจึงพยายามเข้าใจหรื อเรี ยนรู ้พฤติกรรมที่ไม่ดีก่อนจะด่วนตัดสิ น ด้วยเหตุน้ ี คนที่ ทางานกับคนโครงสร้างทรัพยากรจึงพบว่ามันเป็ นประสบการณ์ที่เครี ยดและกดดันมาก ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ประนีประนอม  อดทน  สมดุลและเป็ นระเบียบ  ไมไมไม่กดดันคนอื่น ~ 25 ~
  • 26. ไว้วางใจได้ “ชนะการแข่ งอย่ างช้ าๆ และมันคง” ่ คนโครงสร้างทรัพยากรมักไว้ใจได้ เป็ นที่ปรึ กษาที่ล้ าเลิศ แน่นอนว่าเป็ นเพราะความรู ้อน ั ลึกล้ าของพวกเขา แต่ก็เป็ นเพราะความแน่ วแน่ และไม่ออกนอกลู่นอกทางในการไล่ล่าความรู ้และ ความจริ งด้วย พวกเขาจึงไม่ใช่ คนประเภทเดี๋ยวดี เดี๋ ยวร้ ายเอาแน่ นอนไม่ได้ ความเกรี้ ยวกราดและ แปรปรวนทางอารมณ์จะไม่ส่งผลกระทบต่อวิธีที่พวกเขาปฏิบติต่อคนอื่นหรื อกับงานของตน ั วิธีที่มนคงและสมดุ ลของคนโครงสร้ างทรัพยากรทาให้พวกเขาเป็ นคนที่คนอื่นเข้าถึงได้ ั่ ง่าย พวกเขาเก่งมากในการให้คาปรึ กษาหรื อแนะนาคนที่ขาดความอดทนหรื อขาดแรงขับเคลื่ อนที่ ่ ั่ จะคิดเพื่อตัดสิ นใจด้วยตัวเอง ด้วยเหตุน้ ี พวกเขาจึงอยูที่นนเพื่อคิดให้คนเหล่านั้น และที่จริ งนันก็คือ ่ สิ่ งที่พวกเขาทาได้ดีเยียมนันเอง ่ ่ คนอื่นมักพบว่าคนโครงสร้างทรัพยากรวางใจได้ ระมัดระวังและแน่ชดในสิ่ งที่ทาและไม่มี ั วันเดิมพันความก้าวหน้าของพวกเขาเองกับอาชีพการงานหรื อชื่อเสี ยงของคนอื่น ความดึงดูดใจและ เสน่ ห์ของสถานภาพภายนอกเป็ นสิ่ งที่คนโครงสร้ างทรัพยากรไม่ค่อยสนใจ พวกเขาชอบใช้เวลา สารวจเหตุผลเบื้องหลังบางสิ่ งบางอย่างมากกว่าจะแสวงหาผลตอบแทนแบบเร็ วหรื อแก้ไขปั ญหา เพื่อผลระยะสั้น เพราะเหตุน้ ี คนอื่นจึงมักหวนกลับมาหาพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะความเชื่อถือ ได้และความรับผิดชอบที่ไม่โอนไปเอนมาของพวกเขา ข้ อเท็จจริงสาคัญ  วางใจได้เสมอ  จดจ่อ  ไม่โอนเอนไปกับความตื่นเต้นไร้สาระหรื อการแก้ปัญหาแบบเร็ วๆ  เล็งผลระยะยาว ~ 26 ~
  • 27. ด้ านไม่ ดี ผลัดวันประกันพรุ่ง “สิ่ งทีทาได้ ในวันพรุ่งนี้ จะรีบทาวันนีไปทาไม” ่ ้ ลัก ษณะอย่า งเดี ย วกับ ที่ ท าให้ค นโครงสร้ า งทรั พ ยากรเป็ นเพื่ อ นร่ วมงานหรื อลู ก จ้า งที่ รอบคอบและไว้วางใจได้น้ น ถ้าสุ ดโต่งเกินไปก็จะกลายเป็ นจุดอ่อน ลักษณะสาคัญของจุดอ่อนคือ ั ความต้องการที่ เกื อบเป็ นสัญชาตญาณที่ คอยแต่จะผัดวันประกันพรุ่ งหรื อหน่ วงเวลา ดังที่เราได้รู้ ก่อนหน้านี้แล้วว่า พวกเขาไม่ใช่คนประเภทที่จะผลีผลามกระโจนเข้าสู่ สิ่งใดๆ ก็ตาม ในแง่ดี ลักษณะเช่ นนี้ สามารถป้ องกันไม่ให้เกิ ดความผิดพลาดหรื อข้อผิดพลาดร้ ายแรงที่ เป็ นผลของความหุ นหันพลันแล่น ความใจเร็ วด่วนได้ และความหงุดหงิด แต่การผัดวันประกันพรุ่ ง ไม่ให้คุณแก่พวกเขาแต่อย่างใด ที่จริ งพวกเขาใช้เวลามากเกินไปกับการคิดเกี่ยวกับสถานการณ์หรื อ ภารกิจว่าทาไมและอย่างไร จนบางครั้งล่วงเลยกาหนดแล้วเสร็ จโดยสิ้ นเชิ ง หรื อไม่สามารถส่ งมอบ โครงการได้จนกระทัง มันสายเกิ น ไป ในขณะที่ พ วกเขาคิ ดว่า ตนเองก าลังท างานอยู่ (ด้วยการ ่ ค้นคว้าวิจยให้มากขึ้น) ส่ วนใหญ่แล้วมันเป็ นแค่กลยุทธ์ทาให้เขวซึ่ งเอื้อต่อการผัดวันประกันพรุ่ ง ั ในโลกแห่งการทางานที่เร่ งรี บ สิ่ งนี้ มกกลายเป็ นข้อเสี ยเปรี ยบถ้าไม่จดการปั ญหานี้ โดยเร็ ว ั ั ถ้าคนโครงสร้างทรัพยากรให้เวลาตัวเองมากพอที่จะทาการบ้านและค้นคว้าวิจย การผัดวัน ั ประกันพรุ่ ง อาจไม่ใช่ สิ่งเลวร้ าย บางคนสามารถกินอะดรี นาลี นเป็ นอาหารและทางานได้ดีภายใต้ ความกดดัน ดังนั้นการผัดวันประกันพรุ่ งจึงเป็ นวิธีที่พวกเขาหน่วงเวลาสิ่ งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ ส่ งที่พวกเขาไม่ตระหนักคือ พวกเขารังแต่ทาให้อะไรๆ เลวร้ายลงสาหรับตัวเอง ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ล่าช้าเสมอ  ฝื นหน่วงเวลา  เลื่อนเส้นตายออกไปด้วยการทาให้เขว  ไม่สามารถเร่ งรี บได้เมื่อจาเป็ น ~ 27 ~
  • 28. ระมัดระวัง “ปลอดภัยเอาไว้ ก่อน – มากเกินไป” ไม่มีใครถู กตาหนิ ได้ว่าเคยเรี ยกคนโครงสร้ างทรั พยากรว่าเป็ นพวกกล้าบ้าบิ่น เพราะใน บรรดาลูกเล่นของพวกเขานั้นไม่มีความกล้าอยูเ่ ลย พวกเขามักยึดในความปลอดภัยไว้ก่อน และอยู่ ภายในขอบเขตนี้อย่างเคร่ งครัด ถึงแม้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เคยล้มเหลวในการตั้งคาถามเกี่ยวกับ ทุกสิ่ งทุกอย่าง แต่ดวยเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนว่าพวกเขากลับไม่ต้ งคาถามเกี่ ยวกับข้อจากัดที่ถูก ้ ั กาหนดไว้รอบตัวพวกเขา บางทีนี่อาจเป็ นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็ นธรรม เพราะคนโครงสร้ างทรัพยากรคิดมากเสี ยจนมี แนวโน้มที่จะคิดถึงเรื่ องต่างๆ มากเกินไป พวกเขาไตร่ ตรองอยูเ่ สมอโดยชอบสมมติกรณี “ถ้าหาก” และเอาแต่สงสัยว่าอะไรได้ผลหรื อไม่ได้ผล ผลคือพวกเขากลายเป็ นคนระมัดระวังทุกสิ่ งที่ทา และ แทบจะไม่ยอมเสี่ ยงเลย เพราะกลัวว่าบางสิ่ งบางอย่างอาจจะผิดพลาด ลักษณะที่ตรงข้ามกับคนประเภทนี้ คือ คนที่พร้ อมจะเสี่ ยงเสมอ อาทิ คนโครงสร้างเพื่อน การจะแสวงประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นและถ้ามันเกิดขึ้นได้น้ น ต้องอาศัยความสามารถที่จะโยน ั การคิดล่วงหน้าทิ้งไป และเพียงแค่ทาไปเลย แต่คนโครงสร้างทรัพยากรเอาแต่ไตร่ ตรองใคร่ ครวญ และครุ่ นคิดคิดถึงเรื่ องต่างๆ มากเกินไปจนบางครั้งกลายเป็ นข้อเสี ยเปรี ยบ เพียงเพราะมันทาให้พวก เขารู้สึกสบายใจเสมอเท่านั้น ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ตั้งป้ อมไว้ก่อน  ต่อต้านความเสี่ ยง  ระแวดระวัง ่  อยูแต่ในพื้นที่แห่ งความสบายใจมากเกินไป  ขับเคลื่อนด้วยความรู ้สึกมันคงและความสบายใจ ่ ~ 28 ~
  • 29. ตัดสินใจไม่ เด็ดขาด “ใช่ หรือไม่ ใช่ นั้นแหละคาถาม” คนโครงสร้ างทรัพยากรมักเป็ นทุกข์เป็ นร้ อนเมื่อต้องตัดสิ นใจและหาข้อสรุ ปที่หนักแน่ น นี่ เ ป็ นเพราะข้อ มู ล และความรู้ ม ากมายมหาศาลที่ ส ะสมต่ อ เนื่ อ งมายาวนาน เมื่ อ เวลาผ่า นไป การหมกมุ่นครุ่ นคิดในข้อเท็จจริ งและตัวเลขมากมายที่สะสมไว้จึงนาพวกเขาไปสู่ สิ่งเดี ยว นันคือ ่ ความสับสน เมื่อสับสน คนโครงสร้างทรัพยากรไม่รู้ว่าควรไปทางขวาหรื อทางซ้ายดี ในขณะที่ครุ่ นคิด ถึงเรื่ องนี้ พวกเขาจะคิดถึงปั ญหาและประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหันขวา จากนั้นจะครุ่ นคิดถึง ่ ปั ญหาและประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหันซ้าย ไม่นานนักก็บอกความแตกต่างไม่ได้วาอะไรดี ่ อะไรไม่ดี ไม่วาจะเป็ นแนวทางใดในบรรดาทางเลือกเหล่านั้น แล้วก็ยิงคิดวกไปเวียนมาในเรื่ องนั้น ่ มากขึ้นไปอีก ลักษณะแบบนี้เป็ นสัญลักษณ์คลาสสิ กของการตัดสิ นใจไม่เด็ดขาด เมื่อสถานการณ์เลวร้าย จนกระทังจาเป็ นต้องทาอะไรบางอย่าง คนโครงสร้ างทรัพยากรจะไม่ใช่คนที่จะตัดสิ นใจ พวกเขา ่ ั วุ่นวายอยู่กบ การค้นหาวิธี แก้ปัญหาที่ ดีที่ สุ ดโดยที่ ไม่ รู้ว่า ในบางจุ ดได้แค่ น้ ันก็นับ ว่า ดี ที่ สุ ดแล้ว ่ ไม่วาพวกเขาจะแน่ ใจหรื อไม่ก็ตาม ส่ วนหนึ่ งมาจากการไร้ ความสามารถในการรับมือกับความไม่ แน่ นอน พวกเขาต้องการแน่ ใจว่าอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องเสมอ แต่ชีวิตจริ งเราก็มกเห็ นว่าทุกวันนี้ ั เป็ นไปไม่ได้ที่จะแน่ใจในอะไรได้เลยแม้แต่เรื่ องเดียว ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ไม่สามารถตัดสิ นได้  พะว้าพะวังในการใช้ดุลยพินิจ  ต้องการความแน่ นอน...  ...แต่ไม่มีวนแน่ใจว่าจะแน่ใจได้เมื่อใด ั ~ 29 ~
  • 30. ขีบ่น ้ “บ่ นไปเสี ยทุกเรื่อง” คนโครงสร้างทรัพยากรเก่งมากในการบ่นว่าเรื่ องนั้นเรื่ องนี้ ผิดพลาดอย่างไรอันที่จริ งพวก เขาสามารถให้ขอมูลสถิติและข้อเท็จจริ งว่าทาไมอะไรๆ จึงเกิดผิดพลาดขึ้นได้ และจะใช้เวลาหลาย ้ ชัวโมงบอกคุณเรื่ องสถิติและข้อเท็จจริ งเหล่านั้น ผลคือพวกเขาช่างวิพากษ์วิจารณ์และจุกจิกเกินไป ่ และจะผลาญเวลาที่มีค่าให้หมดไปกับการแจกแจงความแตกต่างของข้อมูลละเอียดยิบ ทั้งที่มนไม่ได้ ั สลักสาคัญอะไรนักหนา แต่ถาขอวิธีแก้ไขปั ญหาหรื อทางเลือกในการทาให้อะไรๆ ดีข้ ึน คนโครงสร้างทรัพยากรมัก ้ ไม่ส ามารถให้ได้ ส่ วนใหญ่พวกเขามี แนวโน้ม ที่ จะเลี่ ยงความรั บ ผิดชอบ ไม่ใ ช่ เพราะมี นิสั ยไม่ ซื่ อ ตรงและไม่ แ น่ ว แน่ เพี ย งแต่ ไ ม่ อ ยากจะรั บ ผิ ด ชอบต่ อ อะไรบางอย่ า งมากกว่า ความอยาก รั บ ผิ ด ชอบนั้น แสดงถึ ง การต้อ งท าอะไรบางอย่ า งเกี่ ย วกับ มัน แต่ พ วกเขาสบายใจกับ การนั่ง ่ วิพากษ์วจารณ์อยูบนโซฟามากกว่า ิ ด้วยเหตุน้ ี เมื่อคนโครงสร้างทรัพยากรทาผิดพลาด จึงมีแนวโน้มที่จะซ่ อนตัวโดยหวังว่าจะ ไม่มีใครสังเกตเห็น ไม่ใช่เพราะตีสองหน้าหรื อชัวร้าย ที่จริ งพวกเขาไม่ได้เป็ นแบบนั้นเลย พวกเขา ่ แค่ห่วง “การรักษาหน้า” มากเท่านั้น การยอมรับความผิดพลาดก็เท่ากับการสารภาพว่าตัวเองไม่รู้ ข้อเท็จจริ งทั้งหมด ซึ่ งเป็ นเรื่ องที่รับไม่ได้อย่างยิ่งสาหรับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเอาแต่พูดซ้ าๆ ซากๆ ถึงปั ญหาและบ่นถึงทุกสิ่ งที่ผดพลาด เพื่อลดทอนความสนใจที่คนอื่นมีต่อตัวพวกเขา ิ ข้ อเท็จจริงสาคัญ  ขี้บ่น  จุกจิกจูจ้ ี ้  วิพากษ์วจารณ์มากเกินไป ิ  ปฏิเสธความรับผิดชอบ  ซ่ อนเร้นความผิด ~ 30 ~